2 รัฐมนตรีนำคณะสื่อเยี่ยมชาวอุยกูร์ต่อ เผย ใช้ชีวิตปกติดี มีความสุข ยืนยันไม่เคยเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ ขอบคุณรัฐบาลไทย-จีนส่งกลับ ครอบครัวหลั่งน้ำตาดีใจ

วันที่ 20 มีนาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง แยกย้ายไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไทย โดยนายภูมิธรรม นำคณะและสื่อมวลชนไปยังบ้านพักในเมืองคาซือ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีชายชาวอุยกูร์และครอบครัวรอต้อนรับ

ชาวอุยกูร์กล่าวว่า พ่อแม่และพี่สาวไปรอรับถึงเครื่องบิน และตรงกลับมายังบ้านทันที ไม่ได้ถูกกักตัว ส่วนตัวคิดถึงครอบครัวมากเพราะไม่ได้เจอกันมา 12 ปี สาเหตุที่เดินทางออกจากซินเจียงขณะนั้นยังเป็นวัยรุ่นและมีคนหัวรุนแรงชวนไปต่างประเทศ จุดหมายปลายทางคือประเทศที่ 3 แต่ถูกจับกุมตัวก่อนขณะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย ในช่วงถูกกักตัวได้รับการดูแลดี แต่คิดถึงครอบครัวและเป็นห่วงแม่ที่สุขภาพไม่ดี อีกทั้งภรรยาก็เพิ่งจะมีลูกคนที่ 2 อายุได้เพียง 2 ขวบ เมื่อกลับมาอยู่กับครอบครัวแล้ว ลูกสาวคนเล็กอยู่กับตนเอง ส่วนลูกสาวอีก 1 คนอยู่กับภรรยาซึ่งหย่ากันไป และจะพยายามตามกลับมาให้ได้ หลังเดินทางกลับถึงจีนได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคนในหมู่บ้าน และทางการจีนได้ทำบัตรประชาชนให้ใหม่พร้อมทะเบียนบ้านให้ จากนี้อยากจะใช้เวลาดูแลพ่อแม่ ช่วยครอบครัวหารายได้ สำหรับสิ่งที่อยากฝากถึงคนไทย ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและจีนที่ร่วมมือกันส่งตัวกลับบ้าน เวลานี้รู้แล้วว่าอยู่กับครอบครัวมีความสุข ปลอดภัยดี ไม่ต้องกังวล

ทางด้านพ่อและแม่ของชาวอุยกูร์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจมากไม่ได้เจอลูกมา 12 ปี คิดถึงมาก ตอนนั้นไม่รู้ว่าลูกไปไหน แต่เมื่อกลับมาได้แล้วก็ดีใจ โดยแม่ของชายชาวอุยกูร์หลั่งน้ำตาร่ำไห้ด้วยความดีใจตลอดการพูดคุย และขอบคุณซ้ำๆ ที่นำลูกกลับคืนสู่ครอบครัว พร้อมจัดหาขนมเลี้ยงต้อนรับคณะจากไทย โดยนายภูมิธรรม ได้สอบถามว่าระหว่างถูกกักตัวอยู่ที่ประเทศไทยส่งจดหมายออกมาบ้างหรือไม่คนอื่นที่ถูกกักตัวอยู่ด้วยกัน ชายชาวอุยกูร์ตอบว่าไม่ได้เขียนจดหมายสักฉบับ และไม่ได้ข่าวว่าเพื่อนเขียนจดหมายเช่นกัน

...

ชาวอุยกูร์ยืนยันใช้ชีวิตปกติ-มีความสุข ย้ำ ไม่เคยเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ
ชาวอุยกูร์ยืนยันใช้ชีวิตปกติ-มีความสุข ย้ำ ไม่เคยเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ

ขณะที่เวลา 13.40 น. คณะของ พ.ต.อ.ทวี เดินทางไปถึงบ้านพักอีกหลังหนึ่งในเมืองคาซือ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยชายชาวอุยกูร์กล่าวว่า เมื่อกลับถึงบ้านรัฐบาลท้องถิ่นได้พาตนไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย และยังพาตนกับครอบครัวไปเที่ยวข้างนอกในเมืองอื่น ทำให้ตนรู้สึกสบายใจ ตอนนี้รู้สึกว่าได้ชีวิตใหม่เป็นปกติแล้ว ก่อนที่ตนจะออกนอกประเทศ บ้านหลังนี้ก็ยังไม่มี ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนเงิน 28,500 หยวน ให้มาสร้างบ้าน และเราก็พักกันที่นี่ มีทั้งพ่อ แม่ สามี ภรรยา และลูก 3 คน และสาเหตุที่เดินทางไปเพราะมีคนโกหก ทำให้ตนหลบหนีออกนอกประเทศผิดกฎหมาย แต่ตอนนี้ได้กลับบ้านแล้ว ปัจจุบันมาเป็นชาวนา ยืนยันว่าไม่มีการบังคับ มีเสรีภาพ 100% ยืนยันว่าไม่เคยถูกทำร้าย โอกาสนี้ก็ต้องขอบคุณ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากประเทศไทย ตนรู้สึกประทับใจและขอบคุณรัฐบาลท้องถิ่นอีกครั้ง กลับมาครั้งนี้ไม่เพียงแต่ซินเจียงพัฒนา แต่ทั้งประเทศจีนทันสมัยมาก และเมื่อตนกลับมาก็จะดูแลครอบครัวเป็นหลัก

พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.ทวี สอบถามเรื่องการศึกษา ซึ่งชายชาวอุยกูร์ตอบว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือ แม้แม่เป็นครูอยากให้เรียน แต่ตนก็ไม่เชื่อฟัง ยืนยันไม่เคยมีการเขียนจดหมายกลับมา พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า วันนี้มาเยี่ยมเพราะจะมาดูว่ามีความปลอดภัย และมาดูว่าชีวิตดีขึ้นหรือไม่ ได้ยินแบบนี้รู้สึกสบายใจ ขออวยพรให้เขาและครอบครัวมีความสุขสมหวังต่างๆ

สำหรับบรรยากาศการพูดคุยกับครอบครัวชาวอุยกูร์นี้ ผู้เป็นแม่ดูมีความสุขหลังได้พบกับลูกชายและกอดหอมแก้มแสดงความคิดถึง ในขณะที่ลูกสาวของชายคนนี้ก็ได้สวมกอดพ่อตัวเอง เพราะขณะที่เขาถูกจับลูกสาวมีอายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น จากนั้นครอบครัวนี้ยังได้ร้องเพลงพื้นถิ่นโชว์ซึ่งมีความหมายของเพลงว่า ดวงดาวที่สองสว่างบนฟ้า เป็นประกายเหมือนตาของแม่ ก่อนที่มารดาจะร้องอีก 1 บทเพลง ซึ่งเป็นเพลงที่ชื่นชมและขอบคุณคุณแม่ที่ดูแลลูกมาจนเติบโต.

ชาวอุยกูร์ยืนยันใช้ชีวิตปกติ-มีความสุข ย้ำ ไม่เคยเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ