ถล่มอีกแล้ว คานเหล็กก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 หรือ ถนนธนบุรี–ปากท่อ ที่ได้ชื่อว่า “ที่สุดของถนนเจ็ดชั่วโคตร” ใช้เวลาก่อสร้างมานานกว่า 55 ปี (เริ่มก่อสร้างปี 2513 สมัยรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร ระยะทาง 84 กม.เศษ) จนถึงวันนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ ตลอดระยะเวลาการก่อสร้างกว่า 55 ปี เกิดอุบัติเหตุมากมาย ประชาชนเสียชีวิตกว่า 100 ราย บาดเจ็บอีกหลายพันคน ล่าสุดก็เกิดอุบัติเหตุคานก่อสร้างถล่มอีกครั้งตอนตีหนึ่งวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บอีก 27 ราย ต้องปิดทางด่วนเฉลิมมหานครทั้งขาเข้าและขาออกจากกรุงเทพฯ ทำให้การจราจรติดขัดสาหัสมาก

ก่อนหน้านี้ 29 พ.ย.2567 การก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ก็เกิดอุบัติเหตุคานเหล็กถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 11 ราย นายกฯแพทองธาร ชินวัตร สั่งให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีคมนาคม ลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุ นายสุริยะ แถลงว่าจะใช้มาตรการ “สมุดพก” ลดอุบัติเหตุ โดยบันทึกว่า ทำผิดตรงไหนบ้าง ถ้าเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต จะไม่ให้ผู้รับเหมารายนี้รับงานเป็นเวลา 2–4 ปี เป็นการลงโทษผู้รับเหมาอย่างเอ็นดูทั้งที่ผิดร้ายแรง

ทางยกระดับช่วง พระราม 3–ดาวคะนอง ที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุคานเหล็กถล่ม เป็นการก่อสร้างใน “สัญญาที่ 3” จาก 5 สัญญาใน “โครงการทางพิเศษสายพระราม 3–ดาวคะนอง–วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯด้านตะวันตก” มีการทางพิเศษฯ เป็นเจ้าของโครงการ มีระยะทางสั้นๆ 18.7 กม. แต่มีการ “ซอยสัญญา” ประมูลถึง 4 สัญญา ทำไมระยะทาง 18.7 กม. จึงต้องซอยการประมูลออกเป็น 4 สัญญา ผมไม่ทราบ แต่คนจัดประมูลย่อมทราบดี มูลค่าโครงการกว่า 27,785 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วตกกิโลเมตรละ 1,486 ล้านบาท ต้องบอกว่าเป็นถนนที่แพงโคตรจริงๆอีกหนึ่งถนน

...

สัญญาที่ 1 ระยะทาง 6.4 กม. ค่าก่อสร้าง 7,350 ล้านบาท สัญญาที่ 2 ระยะทาง 5.3 กม. ค่าก่อสร้าง 6,440 ล้านบาท สัญญาที่ 3 ที่เกิดอุบัติเหตุ ระยะทาง 5 กม. ค่าก่อสร้าง 7,359 ล้านบาท สัญญาที่ 4 ระยะทาง 2 กม. ค่าก่อสร้าง 6,636 ล้านบาท ตก กม.ละ 3,318 ล้านบาท ทำไมโคตรแพงขนาดนี้ก็ไม่ทราบ และ สัญญาที่ 5 เป็นระบบเก็บค่าผ่านทางกว่า 821 ล้านบาท

ช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ ผมรู้สึกว่าค่าก่อสร้างถนน ทางด่วน ทางรถไฟ ล้วนมีราคาแพงขึ้นอย่างมากจนน่าตกใจ มีการซอยสัญญาเป็นระยะทางก่อสร้างสั้นๆทุกโครงการ เช่น มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน– โคราช มูลค่าก่อสร้างงานโยธา 64,410 ล้านบาท ระยะทาง 196 กม. แต่มีการซอยสัญญาประมูลก่อสร้างออกเป็น 40 ตอน 40 สัญญาเฉลี่ยตอนละ 4.9 กม. เริ่มก่อสร้างช่วงแรกตั้งแต่ปี 2559 (9 ปีที่แล้ว) จนถึงวันนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ เป็นอีกหนึ่งถนนที่เรียกได้ว่า “ที่สุดของถนนเจ็ดชั่วโคตร” ยิ่งกว่านั้น ระหว่างการก่อสร้างที่ล่าช้ารัฐมนตรีคมนาคมให้แก้แบบอีกสิบกว่าสัญญา ส่งผลให้รัฐบาลต้องจ่ายค่าก่อสร้างเพิ่มอีก 6,750 ล้านบาท ทำให้มอเตอร์เวย์สายนี้มีค่าก่อสร้างแพงถึง 71,160 ล้านบาท ยังไม่รวมด่านเก็บค่าผ่านทางที่ให้เอกชนประมูลไป

ทางยกระดับ พระราม 3–ดาวคะนอง–ถนนวงแหวน ก็เช่นเดียวกัน ระยะทาง 18.7 กม. แต่ซอยสัญญาประมูลถึง 4 สัญญา มีแต่ผู้รับเหมารายใหญ่ที่คุ้นชื่อประมูลได้ แล้วก็ไปซับต่อให้ผู้รับเหมารายย่อย ทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างล้าช้า

ทางยกระดับ สัญญาที่ 3 ที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ผู้ประมูลได้คือ กิจการร่วมค้าไอทีดี–วีซีบี ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเมนท์ และ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ ก่อสร้าง วงเงิน 7,359 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 10 ม.ค.2565 ถึง 25 ต.ค.2567 วันนี้เลยสัญญามา 4 เดือนกว่าแล้ว ก็ยังสร้างไม่เสร็จ ทั้งที่มีระยะทางแค่ 5 กม. ความเสียหายรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำซาก รัฐมนตรีที่รับผิดชอบควรลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ไม่ต้องรอให้ใครไล่ออกหรือปรับออก จะได้เป็นแบบอย่างที่ดี รัฐมนตรีไทยก็ศิวิไลซ์เหมือนกัน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม