นายกฯ ถก “จิราพร-ตร.-ศุลกากร” หลังลุยปราบบุหรี่ไฟฟ้า ผลงาน 2 สัปดาห์เป็นที่น่าพอใจ แต่ย้ำลุยต่อเข้มข้น พร้อมฝากการบ้านตรวจบางตัวใส่สารเสพติด หวั่นจุดเริ่มต้นเสพ
วันที่ 14 มีนาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่านเอ็กซ์เป็นภาพขณะนั่งประชุมร่วมกับน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ (ผอ.ศตคม.ตร.) และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) และพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท) และนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร
โดยลงข้อความประกอบโพสต์ว่า บุหรี่ไฟฟ้า ต้องเดินหน้าปราบปรามผู้ผลิตและผู้จำหน่ายอย่างเด็ดขาด กว่า 2 สัปดาห์ที่ข้อสั่งการเรื่องปราบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ตัวเลขสถิติการปราบปรามดีขึ้นและน่าพอใจ นั่นคือมีการดำเนินคดี 1,078 คดี, ผู้ต้องหา 1,104 คน, จำนวนของกลาง 900,444 ชิ้น มูลค่าของกลาง 118,953,915 บาท แน่นอนว่ายังไม่พอใจแค่นี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเดินหน้าอย่างเข้มข้นต่อไป วันนี้จึงได้มีวงประชุมกับน.ส.จิราพร ซึ่งได้มอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบหลักในเรื่องนี้ ร่วมกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อัพเดทการทำงานและข้อจำกัดที่เจอระหว่างดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลักลอบบุหรี่ไฟฟ้าข้ามแดน การค้นหาบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างง่ายดายในโซเชียลมีเดีย เรื่องนี้ต้องเร่งจัดการโดยทันที
...
กำชับต้องปราบปรามเด็ดขาด
“สิ่งที่ดิฉันฝากท่านรัฐมนตรีและตำรวจเพิ่มเติม คือ บุหรี่ไฟฟ้าบางตัวที่พัฒนาให้ใส่สารเสพติดลงไปได้ หลายคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์เสพยาเสพติด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเสพของเด็กและเยาวชน ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและยาเสพติด เราเดินหน้าอย่างจริงจัง เพราะนี่คือทุกข์ใหญ่ของพี่น้องประชาชนจริงๆ” นายกฯ ระบุ

“จิราพร” เชื่อใน 30 วันเห็นผล
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับนายกรัฐมนตรี ว่า ได้กำหนดแนวทางหลักๆ ไว้ 3 แนวทางคือ
1. ป้องกันการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีกรมศุลกากรเป็นหน่วยงานหลัก จะยกระดับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นขึ้น ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินในการขยายผล ยึดทรัพย์
2. การปราบปรามภายในประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมกันเพื่อปูพรมกวาดล้าง ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ รายเล็ก จะไม่มีเล็ดรอดเด็ดขาด ร้านค้าออนไลน์จะร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จัดการ ทราบว่าดีอี ได้มีการปิดเว็บไซต์ที่จำหน่ายทางออนไลน์ 9 พันกว่าเว็บไซต์ ซึ่ง 2 สัปดาห์เศษ มีการจับกุมผู้กระทำความผิด 1,078 คดี ของกลาง 900,444 ชิ้น มูลค่าของกลาง 118,953,915 บาท หากเทียบกับปี 67 ปรากฏว่า จำนวนคดีที่จับกุมได้ ในระยะ 2 สัปดาห์เศษที่ผ่านมาเกือบเทียบเท่ากับปี 2567 เกือบทั้งปี ตอนนี้ได้รับเสียงสะท้อนมาว่า บุหรี่ไฟฟ้าเริ่มหาของไม่ได้ เพราะขณะนี้ตำรวจเอาจริง และเชื่อว่า ในระยะเวลา 30 วันจะดีขึ้น
3. แก้ไขปัญหาระยะยาวด้วยการนำกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำมารีวิวและทบทวนว่า มีส่วนใดที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และในการหารือนายกฯ ได้กำชับเรื่องเด็กและเยาวชนเป็นพิเศษ รวมถึงเรื่องแก๊สหัวเราะที่มีเป้าหมายไปที่เด็กและเยาวชน ตลอดจนให้ความสำคัญกับเรื่องการปราบปรามยาเสพติด และเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 มีเคสที่น่าสนใจคือ การลักลอบผลิตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย นายกฯ จึงสั่งปราบปรามเข้มข้น
ลั่น สส. ต้องรับผิดชอบสังคม
เมื่อถามถึงกรณีที่มีปรากฏภาพ สส.ฝ่ายค้านสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่อาคารรัฐสภา น.ส.จิราพร กล่าวว่า ตามที่เป็นข่าวภาพนั้นอยู่ในบริเวณรัฐสภา ทางรัฐสภาต้องดูว่าจะมีมาตรการอะไร และกฎระเบียบอะไรที่จะดำเนินการ รวมถึง สส. ถือว่า เป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่จะต้องบังคับใช้กฎหมาย ต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง และต่อตัวบทกฎหมาย ฉะนั้น ถ้าคิดว่า ตัวเองกระทำความผิดก็สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะเป็นเบาะแสหรือแหล่งที่ซื้อ