“สุดารัตน์” ติงแจกเงินหมื่น ไม่เข้าเป้า จี้ทบทวนหลังไม่สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ แนะดัน "กองทุนเครดิตประชาชน" สร้างอาชีพดีกว่า
วันที่ 13 มีนาคม 2568 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้กลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี ว่า ขอเตือนรัฐบาลที่ยังเดินหน้านโยบายแจกเงินหมื่นนี้ว่า มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจจริงหรือไม่ หลังจากที่นโยบายนี้ใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลในเฟส 1-2 แต่กลับกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยกว่าที่รัฐบาลกล่าวอ้าง แน่นอนว่าประชาชนอาจพึงพอใจกับการได้รับเงิน 10,000 บาท แต่ในแง่ของเศรษฐกิจที่รัฐบาลโฆษณาว่าจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ทำให้ GDP เติบโตต่อเนื่องถึง 5% นั้น ในความจริงเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมาโตเพียง 2.5% เท่านั้น ที่ผ่านมาใช้งบประมาณแจกเงินไปแล้วกว่า 185,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP แต่กลับสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียง 0.3% เท่านั้น ต่ำกว่าความคุ้มค่าของเงินภาษีที่ใช้ไป โดยไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่คาดหวัง
แนะสร้างอาชีพดีกว่า
“แผนการแจกเงินรอบใหม่ที่รัฐบาลจะเปลี่ยนเป็นเงินดิจิทัลให้กลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปีนี้จะยิ่งลดทอนประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจลงไปอีก เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เงินที่ใช้แจกกลับเป็นเงินกู้ที่ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันใช้หนี้ในอนาคต จึงขอเตือนให้ผู้นำรัฐบาลตระหนักว่า รัฐบาลต้องจำให้ขึ้นใจว่า เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินกู้ ไม่ใช่เป็นเงินจากกระเป๋าของผู้นำรัฐบาล แต่ประชาชนทุกคนต้องร่วมกันใช้หนี้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวและว่า
...
การใช้เงินนี้ต้องคุ้มค่าและเป็นไปด้วยความสุจริต ที่สำคัญการทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต มั่นคง การแจกเงินไม่ใช่คำตอบ แต่ต้องช่วยให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ และปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ พรรคไทยสร้างไทยขอเสนอให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม ผ่านนโยบาย "กองทุนเครดิตประชาชน" จะช่วยให้ประชาชนมีโอกาสสร้างธุรกิจของตัวเอง โดยไม่ต้องตกอยู่ในวงจรหนี้นอกระบบที่เสียดอกเบี้ยสูงลิบ การสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับประชาชน คือหนทางที่แท้จริงในการทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่การแจกเงินชั่วครั้งชั่วคราวเช่นนี้