เพื่อไทยยื่นญัตติส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพิ่มเติมหมวด 15/1 อ้างเหตุผลเกิดความเห็นต่างเรื่องอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา “วิสุทธิ์” คาดต่อคิวถกหลังรัฐสภาเคลียร์วาระเร่งด่วนของ ครม. 4-5 เรื่อง “วันนอร์” รอเรียกถกวิป 3 ฝ่ายจัดลำดับความสำคัญ เชื่อไม่เกิดปัญหาองค์ประชุมล่มอีก สส.ค่ายส้มกังขาปมผลประโยชน์ทับซ้อน เข้าชื่อยื่นถอดถอนประธานป.ป.ช. เซ่นคลิปหลุดสนทนากับประธานสภาฯ “พลพีร์” ปลุกภาคเอกชนโคราชสู้ลูกกรอกคะนองปั่นเกมการเมืองไล่สอบที่ดิน ส.ป.ก. กมธ.ที่ดินรับลูกสอบใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ “นายกฯอิ๊งค์” ปลุกความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ วอนแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยช่วยลดค่าใช้จ่าย ฝากการบ้าน ตร.พัฒนาบุคลากรรับมืออาชญากรรมไซเบอร์

พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอญัตติต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้บรรจุวาระการพิจารณาขอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ระบุเหตุผลเพราะเกิดความเห็นต่างในหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา

พท.ยื่นญัตติส่งตีความร่างแก้ รธน.

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 19 ก.พ. ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า พรรค พท.ยื่นญัตติต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้บรรจุวาระการพิจารณาขอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เรียบร้อยแล้ว ผ่านระบบสารบัญของรัฐสภา จะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภาได้เมื่อใด ต้องรอหารือกับประธานรัฐสภาอีกครั้ง เร็วๆนี้จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาเรื่องที่ ครม.เสนอให้รัฐสภาพิจารณา 4-5 เรื่อง เป็นเรื่องด่วนที่รัฐสภาต้องอนุมัติให้เสร็จก่อนวันที่ 9 มี.ค. หากจะนำประเด็นแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงญัตติที่จะเสนอใหม่อาจต้องต่อท้ายเรื่องด่วนดังกล่าว ดูแล้วประเด็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญอาจไม่ทันการประชุมรัฐสภาที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เพราะมีเรื่องด่วนสำคัญต้องพิจารณาหลายเรื่อง อาจต้องรอการพิจารณารอบถัดไป จะเป็นเมื่อใดต้องรอให้ประธานรัฐสภาพิจารณาบรรจุวาระอีกครั้ง

...

แจงเหตุยื่นเกิดเห็นต่างอำนาจรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับญัตติที่พรรค พท.ยื่นต่อประธานรัฐสภา มีเนื้อหาระบุว่าตามที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีการพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 13-14 ก.พ. แต่ปรากฏว่าเกิดความขัดแย้งและความเห็นที่แตกต่างกันของสมาชิกรัฐสภาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ฝ่ายหนึ่งเห็นว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ฉบับ เนื่องจากยังไม่มีการจัดออกเสียงประชามติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 จึงไม่เข้าร่วมประชุม ขณะที่สมาชิกรัฐสภาส่วนหนึ่งเห็นว่า รัฐสภามีอำนาจพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ฉบับได้ ดังนั้นเมื่อสมาชิกรัฐสภามีความเห็นขัดแย้งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จนทำให้รัฐสภาไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ก่อให้เกิดอุปสรรคการทำหน้าที่ จึงเป็นกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาเกิดขึ้นแล้ว และยังไม่มีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในปัญหาดังกล่าว จึงเสนอญัตติให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภาต่อไป

“วันนอร์” ถกวิป 3 ฝ่ายจัดคิวเร่งด่วน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภากล่าวถึงกรณีพรรค พท.ยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภาให้บรรจุวาระการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาร่างฉบับใหม่ว่า เมื่อญัตติพรรค พท.เข้ามาจะเชิญวิป 3 ฝ่าย และตัวแทน ครม.หารือ จะประชุมรัฐสภาเมื่อไร และจะมีญัตติอะไรที่จะเข้าสู่การพิจารณาก่อนหรือหลังตามลำดับ คาดว่าเร็วๆนี้จะนัดหารือ ยืนยันว่าบรรจุญัตติได้ เป็นอำนาจหน้าที่ของประธานรัฐสภา แต่ก่อนประชุมต้องหารือวิป 3 ฝ่าย ให้เกิดความเรียบร้อยในการประชุม เพราะมีสมาชิก 700 คนต้องหาข้อยุติบางส่วนล่วงหน้า ไม่ให้สับสน เชื่อมั่นจะไม่มีปัญหาองค์ประชุมล่ม ปกติไม่มีปัญหาอะไร หากหารือกับวิป 3 ฝ่ายและผู้แทนรัฐบาล เมื่อได้ข้อยุติอย่างไรวิปจะแจ้งให้สมาชิกแต่ละฝ่ายรับทราบ คิดว่าไม่มีปัญหาจะเกิดความเรียบร้อย

เด็ก ภท.ยุเอกชนสู้ลูกกรอกคะนอง

นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก.เดินหน้าตรวจสอบที่ดิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า คนโคราชบ่นเข้ามาพอสมควร กำลังทำลายความน่าลงทุนในพื้นที่ ที่ดินที่ถูกตรวจสอบมีโฉนดแต่กลับจ้องจับผิดไม่หยุด จนถูกตั้งคำถามว่าทำตามหน้าที่โดยบริสุทธิ์ใจหรือไม่ เพราะมองมุมไหนมันกลั่นแกล้งทางการเมืองชัดเจน เกมทำลายล้างทางการเมือง แต่คนที่ได้รับผลกระทบหนักเป็นคนโคราช อยากให้สมาคมต่างๆ ประธานหอการค้า ต้องออกมาสู้บ้าง อย่าให้พวกลูกกรอกคะนอง มาทำให้เศรษฐกิจพังไปกว่าเดิม

กมธ.ที่ดินสอบที่ดินลำตะคอง-แรนโชฯ

ที่รัฐสภา นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาฯ เปิดเผยว่า กมธ.ที่ดินฯนำเรื่องที่ดินทับซ้อนพื้นที่นิคมลำตะคอง รวมไปถึงที่ดินของครอบครัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เข้าหารือขอมติว่าจะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ เพราะได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีพื้นที่ทับซ้อน ทำให้การออกโฉนดที่ดินล่าช้าและมีประชาชนร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2567 ให้ตรวจสอบมา 3-4 เดือนแล้ว ล่าสุดได้รับเอกสารครบแล้ว ประเด็นพื้นที่ครอบครัวนายอนุทินไม่ได้มองเป็นประเด็นการเมือง แต่เป็นข้อกฎหมายมากกว่า ต้องการจะหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะตอนนี้มีภาคประชาชนราว 800 แปลงร้องมาว่า ไม่มีการพิสูจน์การทับซ้อนและออกเอกสารสิทธิให้ ต้องยกมาตรวจสอบทั้งหมด ไม่ใช่แค่แปลงใดแปลงหนึ่ง ยอมรับว่าแปลงของครอบครัวนายอนุทินต้องได้รับการตรวจสอบด้วย ต้องดูวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินนิคมสร้างตนเอง (น.ค.3) กำหนดให้ทำอะไร เมื่อครอบครองครบ 5 ปีแล้วขอออกเป็นโฉนดได้ แต่ต้องดูด้วยว่า ออกเป็นโฉนดแล้วเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้งานทำได้หรือไม่ ยังเป็นคำถามของ กมธ.อยู่ จึงต้องตรวจสอบ ได้คุยกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) อยากขอให้เป็นตัวกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทั้งหมด ตอนนี้ สคทช.กำลังตรวจสอบพื้นที่ลำตะคองอยู่

ไม่ยากขอให้ สคทช.เป็นตัวกลาง

เมื่อถามย้ำว่ากรณีนี้มีนักการเมืองเกี่ยวข้องด้วย จะทำให้เข้าเคลียร์ที่ดินทับซ้อนยากขึ้นหรือไม่ นายพูนศักดิ์กล่าวว่า ไม่ยาก เพียงแค่หน่วยงานรัฐทำงานตรงไปตรงมา และ สคทช.ต้องเคลียร์เรื่องวันแม็ปให้ได้ เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทั้งประเทศได้อย่างยั่งยืนไม่มีปัญหาซ้ำ เราต้องช่วยกันแก้ทีละเส้น ต้องใช้เวลา กมธ.จะช่วยตรวจสอบถึงแม้เป็นที่ดินของนักการเมืองหรือของใคร ยินดีเข้าไปร่วมตรวจสอบ ตอนนี้ผู้ถือครองที่ดินอาจมีโฉนด เพราะถือครองครบ 5 ปีแล้วออกโฉนดได้ และอาจเปลี่ยนมือที่ 2 3 หรือ 4 ทำให้เจ้าของปัจจุบันถือโฉนดอย่างถูกต้อง แต่ต้องกลับไปดูวัตถุประสงค์ของนิคมสร้างตนเองว่าเขาให้ทำอะไร และต้องเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่ต้นหรือไม่ กมธ.กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่

จับตา ก.ม.การท่าเรือฯเอื้อทำกาสิโน

นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขหลายประเด็นว่า แม้ระบุให้ต้องทำ EIA พื้นที่รอบข้างการก่อสร้างแต่ไม่เพียงพอ ควรให้ท้องถิ่นและประชาชนระดับจังหวัดมีส่วนร่วมตัดสินใจ หากจำเป็นต้องทำประชามติในจังหวัดนั้นๆ การเพิ่มเติมข้อห้ามเกี่ยวกับกาสิโนออนไลน์ จากเดิมห้ามเพียงผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มาห้ามดำเนินการโดยบุคคลอื่นด้วย ตามมาตรา 61 และ 62 ต้องจับตาดูว่า ครม.จะยึด
ตามหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นเท่ากับปิดโอกาสทำธุรกิจกาสิโนออนไลน์ทั้งหมด ไม่เชื่อว่ารัฐบาล พท.จะยอม ส่วนร่าง พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าสภาฯสัปดาห์นี้ สะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการท่าเรือ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการเปลี่ยนจากธุรกิจโลจิสติกส์ไปเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีท่าจอดเรือยอชต์ เปิดช่องให้ดำเนินกิจการกาสิโนได้ ขอให้ประชาชนจับตาด้วย

“อิ๊งค์” ขอทุกภาคส่วนร่วมกระตุ้น ศก.

เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “เชื่อมั่นประเทศไทย” ในงานสัมมนา Matichon Leadership Forum 2025 Trust Thailand : เชื่อมั่นประเทศไทย ที่สำนักพิมพ์มติชนจัดขึ้น โดยนายกฯกล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า ตลอดปีที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญปัญหาและความท้าทายต่างๆมากมาย เศรษฐกิจเงินในระบบยังฝืดเคือง แต่ปลายปี 2567 ตัวเลขจีดีพีขยายตัวขึ้น 2.5% มากกว่าเป้าที่วางไว้ การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มเกิดผล การบริโภคภายในขยายตัว ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากมาตรการฟรีวีซ่า ปี 68 ตั้งเป้าหมายให้จีดีพีเติบโตขึ้นที่ 3% แต่การนำตัวเลขเศรษฐกิจไทยไปเทียบกับประเทศต่างๆในอาเซียน ยังดูปัจจัยไม่ครบ เช่น ประเทศเพื่อนบ้านมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง แต่ของไทยไม่ได้พัฒนามาหลายปี สภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจหลายอย่างไม่เพียงพอ ธนาคารยังปล่อยกู้ไม่มากพอโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ที่คิดเป็น 75% ของประเทศ ขอให้ช่วยกันทุกภาคส่วน

วอนแบงก์ชาติลด ดบ.กดค่าใช้จ่าย

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้เพดานกู้แทบไม่เหลือ แต่พยายามหาทางออกมุมต่างๆต้องใช้เวลา ตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ พยายามดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามา ไม่ว่าสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอี ดึงอุตสากรรมใหม่เข้าประเทศ สร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆดึงดูดนักท่องเที่ยว และมาตรการเร่งด่วน รัฐบาลได้พูดคุยและอยากขอความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ต่างๆที่มีกำไรมาช่วยเสริมสภาพคล่องปล่อยกู้ให้กับคนไทยให้มีสภาพคล่อง ให้การพัฒนาธุรกิจของตัวเอง อีกเรื่องคือขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาลดดอกเบี้ย เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ทำได้เพราะเงินเฟ้อยังน้อยอยู่ สำหรับมาตรการแก้ปัญหาหนี้สินต่างๆออกมา รัฐบาลทำโครงการ “คุณสู้เราช่วย” ยกหนี้รายย่อยไปแล้วกว่า 8.3 แสนบัญชี แต่ยังมีกลุ่มลูกหนี้ค้างอยู่ 2.6 แสนบัญชี จะทำให้จบในวันที่ 15 มี.ค. และยังขอให้กระทรวงการคลังหารือกับแบงก์ชาติพัฒนาโครงการคุณสู้ เราช่วย ให้ครอบคลุมถึงกลุ่มลูกหนี้ เข้าถึงแหล่งทุน มาตรการน่าจะออกมาปลายเดือน มี.ค.นี้

เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ

น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า รัฐบาลจะผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อลดระยะเวลาขนส่งสินค้า จากที่ไปเยือนจีนมาเขาสนับสนุน ท้ายที่สุดอยากย้ำเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศไทย รัฐบาลเต็มที่เพื่อให้ประเทศไทยเกิดความเชื่อมั่นของทั้งต่างประเทศและคนในประเทศ ความเชื่อมั่นไม่ได้เกิดจากรัฐบาลฝ่ายเดียว ถ้าทุกคนร่วมมือกันเราจะมีประเทศที่พัฒนา จะเดินหน้าเดินสายต่อดึงเม็ดเงินต่างประเทศเข้ามา จีดีพีของประเทศ หรือความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับแน่นอน ขอให้ทุกคนเชื่อมั่น มีกำลังใจว่ารัฐบาลเห็นทุกปัญหาของทุกพื้นที่ พร้อมสนับสนุนประชาชนและภาคเอกชนเต็มที่

สั่งเขียนแผนจัดการฝุ่นพิษล่วงหน้า

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธารเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จากนั้นเวลา 14.15 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ แถลงว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯและปริมณฑลดีขึ้น แต่ภาคเหนือและตะวันตกเริ่มมีการเผาป่า นายกฯมีข้อสั่งการหลายเรื่อง อาทิ ให้กระทรวงมหาดไทย ติดตามสถานการณ์การเผาป่าเขตพื้นที่ต่างๆโดยร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ ให้กระทรวงดีอีรายงานและติดตามการเผาแบบภาพรวมเป็นระยะๆ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ที่ประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) จะยืนยันว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่นายกฯกำชับว่า ขอให้เขียนแผนล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. ต้องไม่มีสถานการณ์ที่เป็นอยู่ อย่างน้อยขอให้ลดลง 50% หากทำได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี จะทำให้ช่วง 8-9 เดือนหลังจากนี้ PM 2.5 จะหายไปจากข่าวสารของบ้านเมืองได้

ยัน รบ.หนุนเต็มที่ล้างอาชญากรรม

จากนั้นเวลา 15.00 น.ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มอบนโยบายหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในโครงการสัมมนาผู้บริหารระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าและผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณปี 68 ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล่าสุดรัฐบาลใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดตัดไฟฟ้าตามแนวชายแดน พร้อมมาตรการ “Seal Stop Safe” ป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ได้รับความร่วมมือจากทั้งทหารและตำรวจอย่างดี ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า ความตั้งใจปฏิบัติงานแก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชน จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเต็มที่ทุกมิติ โดยเฉพาะการเสริมขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและการข่าวกรอง รวมถึงสนับสนุนงบฯจัดหาอุปกรณ์จำเป็นที่ต้องใช้ปฏิบัติภารกิจ

ฝากการบ้าน ตร.พัฒนาบุคลากร

นายกฯกล่าวอีกว่า อยากให้ ตร.รับไปพิจารณาและขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม 3 ข้อ คือ ขอให้พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เชี่ยวชาญ รู้เท่าทันการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัจจุบัน โดย เฉพาะเทคโนโลยี ที่อาชญากรใช้หลอกลวงประชาชน ควบคู่ผลักดันการแก้ไขกฎหมายหรือออกมาตรการ ที่จะช่วยปราบปรามอาชญากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และขอให้แสวงหาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และองค์กรทั้งระดับนานาชาติและระดับภูมิภาค เนื่องจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและยาเสพติดมักเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และมีฐานปฏิบัติการในประเทศเพื่อนบ้าน ต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลและฝึกอบรมบุคลากรร่วมกัน และควรใช้ช่องทางตำรวจสากล ไม่ว่า Interpol Europol และ ASEANAPOL ประสานและส่งต่อข้อมูลผู้กระทำผิด และสุดท้ายขอให้ ตร.ดำเนินมาตรการทางวินัยและกฎหมายตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างเคร่งครัด และเข้มงวดโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่ผู้ปฏิบัติงาน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ

ตีกลับ ก.ม.คุ้มครองแรงงานรอบ 2

เมื่อเวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน หลังจากคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ที่มีนายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรค ภท. ประธาน กมธ.ถอนร่างกฎหมายกลับไปปรับปรุงเนื้อหามาตรา 3 เกี่ยวกับลูกจ้างสัญญาเหมาบริการภาครัฐ ตามข้อท้วงติงของที่ประชุมสภาฯเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเสนอกลับมาให้ที่ประชุมสภาฯพิจารณาอีกครั้ง แต่ที่ประชุมยังคงท้วงติงเนื้อหาที่ กมธ.ไปแก้ไขมาแล้วอย่างหนัก เพราะ กมธ.ไปตัดเนื้อหามาตรา 3 เกี่ยวกับลูกจ้างสัญญาเหมาบริการภาครัฐทิ้งทั้งมาตรา ทำให้สมาชิกกังวลจะมีผลกระทบต่อการคุ้มครองพนักงานจ้างเหมาส่วนราชการ โดยมีการถกเถียงกันอย่างเคร่งเครียด สส.พท.และพรรคปชน.คัดค้านตัดมาตรา 3 ที่พนักงานจ้างเหมาภาครัฐ ไม่ได้รับการคุ้มครองสวัสดิการ โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรค พท. อภิปรายว่า หาก กมธ.ยืนยันตัดมาตรา 3 ทิ้ง สภาฯจะลงมติไม่เห็นด้วย โหวตตกร่างกฎหมายฉบับนี้ จนทำให้ต้องพักประชุม ให้ กมธ.ไปหารือปัญหาความเห็นต่าง ก่อนกลับมาประชุมกันอีกครั้ง โดย กมธ.ยอมนำร่างกฎหมายฉบับนี้กลับไปทบทวน ปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ถือเป็นการถอนร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานไปปรับปรุงเป็นครั้งที่ 2

ปชน.ล่าชื่อยื่นสอยประธาน ป.ป.ช.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค ปชน.ว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ประชุม สส.พรรค ปชน. ได้หารือถึงการตรวจสอบกรณีคลิปหลุดการสนทนาของนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. กับนายวันมูหะมัดมอร์ มะทา ประธานสภาฯ เนื่องจากอาจมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน อาจเข้าไปวิ่งเต้นหรือขอความเห็นเพื่อต่อคดีความต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยในวันที่ 19 ก.พ. พรรค ปชน.แจ้งมติที่ประชุม สส.ว่าจะร่วมกันใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 เข้าชื่อให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของทั้ง 2 สภาฯ เพื่อยื่นประธานรัฐสภาถอดถอนประธาน ป.ป.ช. จากกรณีคลิปหลุดดังกล่าว โดย สส.พรรค ปชน.ทยอยร่วมลงชื่อหลายคนแล้ว

“ทักษิณ” ลงพื้นที่นราธิวาส 23 ก.พ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวันที่ 19 ก.พ.นายธนาธิป พรหมชื่น กำนัน ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เรียนเชิญพ่อแม่พี่น้อง ร่วมต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในฐานะที่ปรึกษาประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางเข้ากราบสักการะพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 ในฐานะเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธาราและพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี และพื้นที่ใกล้เคียง จ.นราธิวาส วันที่ 23 ก.พ. เวลา 09.30 น.ที่วัดประชุมชลธารา ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี

เมื่อเวลา 13.00 น.ที่โรงแรมชาเทรียมแกรนด์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหมกล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วันที่ 23 ก.พ.ว่า นายทักษิณจะลงพื้นที่ในฐานะเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน นำข้อมูลที่ได้พูดคุยมาประกอบกับการลงพื้นที่ ตนจะไปร่วมรับฟังปัญหาด้วย แต่ที่นำเสนอว่าจะไปทำบุญที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นเรื่องส่วนตัวของนายทักษิณ

ม็อบชาวนาจี้ รบ.แก้ราคาข้าวตกต่ำ

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่ม เกษตรกรชาวนาจังหวัดพื้นที่ภาคกลาง นำโดยนายสมชัย ไตรถาวร ประธานชมรมชาวนาอยุธยา พร้อมนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อดีต สว. ยื่นหนังสือถึงนายกฯขอให้รัฐบาลเร่งแก้ราคาข้าวตกต่ำเร่งด่วน ให้ประกันรายได้เกษตรกรผู้ทำนา 11,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 50 ตัน/ราย หรือรับจำนำข้าวราคา 11,000 บาท/ตัน รายละ 50 ตัน เยียวยาผู้ทำนาพื้นที่รับน้ำ โดยชดเชย 300 บาท/ไร่/เดือน เป็นเวลา 3 เดือนในแต่ละปี และให้ยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าวในพื้นที่ทำการเกษตร เพราะชาวนาไม่มีทางเลือกอื่นกำจัดฟางข้าว หรือขอให้ตั้งงบฯรับซื้อตอซังข้าวลดภาระชาวนา

จากนั้นเวลา 12.50 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ พร้อมนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ มาพบกลุ่มผู้ชุมนุม โดยนายสุชาติกล่าวว่า นายกฯไม่ได้นิ่งนอนใจ กำชับกระทรวงพาณิชย์ว่าการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (อนุ นบข.) ที่จะกำหนดแนวทางช่วยเหลือผลกระทบราคาข้าวเปลือกลดลง จากที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวหลังหยุดไป 2 ปี ด้านนายสมชัยกล่าวว่า วันที่ 20 ก.พ. หากไม่ได้รับคำตอบชัดเจน ชาวนาทุกจังหวัดทั่วประเทศจะรวมตัวปิดถนน

สภาฯรอสอบจริยธรรม “ปูอัด”

ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตติ์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า มอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ คดีล่วงละเมิดนักท่องเที่ยวสาวไต้หวันว่า หลังจากนายไชยามพวานไปมอบตัว รับทราบข้อกล่าวหาต่อตำรวจ ทำให้การประชุมสภาฯวันที่ 20 ก.พ. ไม่มีเรื่องการพิจารณาส่งตัวนายไชยาม พวานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอยู่ในวาระการประชุมแล้ว เนื่องจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งว่า สภ.เมืองเชียงใหม่แจ้งมาว่า นายไชยามพวานไปมอบตัวแล้ว เมื่อมีการดำเนินคดี มีการประกันตัวตามกฎหมายแล้ว ภาระหน้าที่ในการจับกุมตัวจึงไม่มีแล้ว ส่วนกรณี สส.หญิงพรรคเพื่อไทย ยื่นให้สอบจริยธรรมนายไชยามพวาน จะเริ่มต้นกระบวนการได้เมื่อใดนั้น เป็นเรื่องที่จะเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการจริยธรรมต่อไป ขณะนี้คณะกรรมการจริยธรรมมีเรื่องร้องเรียนค้างอยู่กว่า 10 เรื่อง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่