“ธนดล” ไม่ถือ “อนุทิน” ด่าหน้าตัวเมีย ถือว่าผู้ใหญ่สั่งสอนเด็ก ยันไม่มีเจตนาทำร้ายใคร เผยที่ดินเขาใหญ่กว่า 4 หมื่นไร่ ยังอยู่ในมือนายทุนและผู้มีอิทธิพล
วันนี้ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. แถลงข่าวภายหลังประชุมฝ่ายเกี่ยวข้องตรวจสอบหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อติดตามการตรวจสอบผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการออกโฉนดโดยมิชอบในพื้นที่ 4 หมื่นไร่ บนพื้นที่ ส.ป.ก. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
โดยช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวนายธนดลได้กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบโต้ผู้ที่ออกมาให้ข่าวเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟของครอบครัวชาญวีรกูลอยู่ในที่ส.ป.ก.ว่า “หน้าตัวเมีย”
...
โดยนายธนดล ถามว่า “ท่านว่าผมหรือเปล่า ถ้าท่านว่าผม ผมขอบคุณมากครับ เพราะผมเป็นเด็ก ไม่ตอบโต้ผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่พูดอะไรถือว่าสั่งสอนเด็ก ท่านอนุทินเป็นผู้ใหญ่ อาจจะพูดสั่งสอนเตือนเรา ถ้าผมโกรธท่าน ผมคงไม่ขอบคุณท่าน ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปทำร้ายใครอะไรอยู่แล้ว”
ส่วนประเด็นว่าที่ดินสนามกอล์ฟของท่านอนุทินเป็นการรุกล้ำที่ดินของ ส.ป.ก.หรือไม่นั้น ธนดลยืนยันว่าเรามีการตรวจสอบแล้ว โดยพบว่ามีเอกสารครอบครองมาก่อนถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มีความผิดอะไร
“เพียงแต่ว่าที่ดินของท่านอยู่ในเขตของ ส.ป.ก.เท่านั้นเอง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่ามีการรุกล้ำเข้ามาใน ส.ป.ก.เพิ่มเติมอีกหรือไม่ เช่นเดียวกันกับที่ดินอื่น ๆ อีกจำนวน 4 หมื่นไร่” นายธนดลกล่าว
4 หมื่นไร่อยู่ในมือนายทุน
นายธนดล กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีวาระเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาร่วมกัน คือต้องตรวจสอบข้อมูล ได้แก่ แผนที่ เอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินบริเวณดังกล่าว เอกสารที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ และมีมติเห็นชอบในการบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเตรียมเดินหน้าลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในสัปดาห์หน้า หากพบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมาย จะมีการขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนต่อไป
“ผมได้หารือในที่ประชุม พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญในการตรวจสอบการออกโฉนดและการถือครองที่ดินในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พบว่าพื้นที่กว่า 4 หมื่นไร่ มีการรุกพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินและไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิ์การถือครอง จึงเตรียมลงพื้นที่พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ดังกล่าว หากพบการกระทำความผิดตามกฎหมายจริง จะเดินหน้าขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ เพื่อยึดคืนพื้นที่จากนายทุนและผู้มีอิทธิพล ส่งคืนสู่มือเกษตรกรให้ได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามวัตถุประสงค์ของการจัดรูปที่ดินอย่างแท้จริง” นายธนดล กล่าว