วันนี้ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ได้เวลาเข้าคูหากาบัตร ลุ้นผลการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ 76 จังหวัด ในจำนวนนี้เป็นการเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด

บิ๊กแมตช์สังเวียนระดับท้องถิ่นที่ทุกพรรค ทุกสังกัด หาเสียงแย่งคะแนน สู้กันอย่างดุเดือดมาแรมเดือน ใส่กันเต็มที่ตั้งแต่ก่อนเปิดรับสมัครจนถึงวันสุดท้าย

รออีกไม่กี่อึดใจหลังปิดหีบเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ก.พ.2568 จะได้รู้ผลใครคือ ผู้ชนะที่ประชาชนแต่ละพื้นที่ให้ความไว้วางใจ โดยมีตัวเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศกว่า 47,178,655 คน จะเป็นผู้ร่วมให้คำตอบ

ล่าสุด นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงพื้นที่ตรวจเช็กความพร้อมการเลือกตั้ง อบจ.ที่ จ.เชียงใหม่ ตระเตรียมกระบวนการป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซื้อเสียงเต็มที่

ประกาศเพิ่มความเข้มข้นการปฏิบัติหน้าที่ทีม กกต.จัดชุดเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ป้องปรามและหาข่าวการกระทำความผิดในการเลือกตั้ง การตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ในการเลือกตั้งอย่างละเอียดถี่ถ้วน

รวมถึงคุมเข้มการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งไว้ในที่ปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตผิดกฎหมาย ให้ผลการเลือกมีความเป็นธรรมและโปร่งใส

เวทีพิสูจน์ฝีมือ กกต. เจ้าภาพหลักคุมกระดานเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ประกาศความพร้อมเต็มที่ รับมือการหย่อนบัตรลงคะแนน

ไฟต์บังคับต้องลุยไฟ ฝ่าเสียงข้อกังขา การจัดเลือกตั้ง อบจ.ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. ผิดธรรมชาติ การเลือกตั้งโดยปกติทุกครั้งที่จะจัดในวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดของคนส่วนใหญ่

ตามข้อจำกัดทางกฎหมาย พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่ระบุชัดเจน ให้จัดเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ. ภายใน 45 วัน หลังจากผู้บริหารหรือสมาชิกท้องถิ่นอยู่ครบวาระ

...

จังหวะพอเหมาะพอเจาะที่นายกและสมาชิก อบจ. ชุดที่แล้ว ครบวาระดำรงตำแหน่งวันที่ 19 ธ.ค.2567 จะครบเส้นตาย 45 วัน ที่ต้องจัดการเลือกตั้งให้เสร็จ ในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.2568

เดดไลน์สุ่มเสี่ยงกับการจัดการเลือกตั้งเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

จำเป็นต้องร่นเวลากาบัตรมาเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. เผื่อเหลือเผื่อขาด 1 วัน ให้มั่นใจ หากมีเหตุจำเป็นให้การนับคะแนนล่วงเลยไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. การเลือกตั้งก็ยังอยู่ในกรอบเวลา 45 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด

เนื่องจากการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้มีหน่วยเลือกตั้งมากกว่า 90,000 หน่วย หากมีหน่วยใดไม่สามารถนับคะแนน หรือรวมคะแนนเสร็จได้ทัน ก็เสี่ยงให้การเลือกตั้งเกิดปัญหาตามมา

สถานการณ์ความจำเป็นที่น่าเห็นใจ กกต. มีเหตุผลรับฟังได้ที่ไม่สามารถจัดเลือกตั้งได้ในวันอาทิตย์เหมือนที่ผ่านมา

หรือหากจะขยับปฏิทินลงคะแนนเสียง มาเป็นวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค. 2568 ก็จะกระทบขั้นตอนกระบวนการรับสมัคร ตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม ให้มีเวลาน้อยเกินไป ลามไปกระทบเวลาหาเสียงลดลงด้วย

จะเคาะวันเลือกตั้ง อบจ.ออกมาเป็นวันใด แนวโน้มก็เจ็บตัวทั้งขึ้นทั้งล่อง จำเป็นต้องชั่งน้ำหนัก หาทางออกที่มีผลกระทบน้อยที่สุด

รู้ว่าโดนด่าหูชาแน่ แต่ก็ต้องยอม ดีกว่าพลาดพลั้งปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุ อาจกระทบการเลือกตั้ง อบจ.เป็นโมฆะทั้งหมด  ยิ่งเสียหายยกใหญ่

ตามความพยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของ กกต.อย่างเต็มที่ ส่งหนังสือถึงหน่วยงานรัฐและเอกชนให้อำนวยความสะดวกแก่ลูกจ้างเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด

กกต.มือเป็นระวิงแก้ไขอุปสรรคต่างๆ ทำทุกทางเพื่อให้การเลือกตั้งท้องถิ่นตอบโจทย์ จูงใจประชาชนเดินทางมาหย่อนบัตรลงคะแนนให้มากที่สุด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวแปรสำคัญที่สุดในการวัดผลสำเร็จการเลือกตั้งอบจ.รอบนี้ อยู่ที่ผู้มีสิทธิออกเสียงที่จะต้องแสดงพลังออกมาลงคะแนนใช้สิทธิของตัวเองให้มากที่สุด

เข้าคูหากาบัตรลงคะแนน เลือกคนดี มีความสามารถ สร้างวัฒนธรรมให้การแข่งขันระดับท้องถิ่น สู้กันด้วยนโยบายการทำงาน ไม่ปล่อยให้ใครมาซื้อเสียง เพาะบ่มปัญหาคอร์รัปชันตามมา ไม่ให้เงินภาษีประชาชนเสียไปกับการทุจริตในอนาคต

โอกาสสำคัญที่ประชาชนต้องร่วมปลดปล่อยพลัง ผ่านการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย กำหนดทิศทางการพัฒนาท้องถิ่นของตัวเอง

1 ก.พ. 2568 ปลายปากกาทุกคนจะให้คำตอบ ชีวิตคนไทยจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม