“สส.ชุติพงศ์” จี้รัฐบาลเร่งจบปม “วินโพรเสส” ปูด ได้กลิ่นน้ำมันโซลาร์หึ่ง ส่อวางเพลิงหรือไม่ ด้าน “เอกนัฏ” ส่งทีมสุดซอยตรวจ บ.วินโพรเสส ด่วน หลังเกิดเพลิงไหม้ ย้ำความปลอดภัยประชาชนต้องมาก่อน ไม่กระทบขนย้ายกากพิษ
วันที่ 28 ม.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส. ระยอง พรรคประชาชน เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา เวลาราว 21.00 น. รับทราบจากประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ว่าเกิดไฟไหม้ฝาที่โกดัง 5 ภายในโรงงานเก็บสารเคมีวินโพรเสส จึงส่งทีมงานลงพื้นที่ และโทรประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็มีรถดับเพลิงจาก อบต.บางบุตร และเทศบาลเมืองบ้านค่าย เข้าไปดับไฟ ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามผู้กำกับ สภ.บ้านค่าย ให้เข้าไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่นั้น เนื่องจากมีกล้องวงจรปิดที่เราได้เคยประสานขอทางตำรวจไปแล้ว ว่ามีการเข้าออกอย่างไรบ้างในช่วงเวลาดังกล่าว หลังจากนั้นภายใน 1 ชั่วโมง ไฟก็ดับลง ซึ่งจุดเกิดเหตุเคยถูกไฟไหม้มาแล้ว และเคยเป็นจุดทิ้งสารเคมี รวมไปถึงถุงมือยางและถุงยางอนามัย เมื่อไฟลุกไหม้ เรากังวลอย่างเดียวว่าไฟจะลามไปโกดังเก็บอะลูมิเนียมดรอส ตนต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เร่งรัดดับไฟโดยเร็ว ซึ่งภายหลังได้ทราบว่าแกลลอนน้ำมันที่ตำรวจได้เก็บไปแล้ว เบื้องต้นยังไม่ทราบความชัดเจนว่ามีการก่อเหตุวางเพลิงหรือไม่ ตนก็ติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้อยู่
“ทีมงานผมได้กลิ่นน้ำมัน เป็นกลิ่นน้ำมันโซลาร์ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นการก่อเหตุวางเพลิงหรือไม่ เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นชุมชน ชาวบ้านเขารับทราบ และหวังพึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายชุติพงศ์ กล่าว
เมื่อถามว่าถังน้ำมันมีอยู่ในที่เกิดเหตุแล้วหรือไปพบตอนหลัง นายชุติพงศ์ กล่าวว่า ตนก็ยังรอความคืบหน้า และยังย้ำกับทางผู้กำกับถึงเรื่อง อยากให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพราะครั้งที่แล้วตอนที่ไฟไหม้ เราก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากการวางเพลิงหรือไม่ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุป เมื่อถามว่าหากมีการวางเพลิงขึ้นมาจริงๆ แสดงว่าผู้ก่อเหตุหวังผลอะไร นายชุติพงศ์ กล่าวว่า ตนขออนุญาตรอความคืบหน้าจากทางตำรวจ ถ้าไปฟันธงว่าเป็นการวางเพลิงจะเป็นการสันนิษฐานลอยๆ เรื่องไฟไหม้วินโพรเสสควรจะจบลงได้แล้ว ขอฝากไปถึงรัฐบาลให้มีมาตรการเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดกับกรณีที่เกิดกับโรงงานสารเคมี เพราะสุดท้ายผู้ได้รับผลกระทบคือพี่น้องประชาชน
...

“เอกนัฏ” ส่งทีมสุดซอยลงพื้นที่ระยองด่วน ย้ำไม่กระทบขนย้ายกากพิษ
ด้านนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากรายงานข่าววานนี้ เวลา 21.30 น. วันที่ 27 มกราคม เกิดไฟไหม้ในบริษัท วินโพรเสส จำกัด บ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เกิดความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบ จึงสั่งการเร่งด่วนให้ทีมตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายวีระ นันทเศรษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ บริษัท วินโพรเสส จำกัด จ.ระยอง
จากการรายงานในเบื้องต้นแจ้งว่า ขณะรถของเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่ได้ขับผ่านบริษัท วินโพรเสส จำกัด จ.ระยอง พบเห็นว่าภายในโกดังเกิดไฟได้ลุกไหม้ บริเวณโกดัง 5 จึงประสานรถดับเพลิงจาก อบต.บางบุตรเข้ามาเร่งฉีดน้ำเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งใช้เวลา 30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทำการเข้าตรวจสอบและพบว่าพื้นที่ส่วนที่ไฟกำลังไหม้เป็นกองขยะพลาสติก ถุงมือยาง และยังพบแกลลอนพลาสติกขนาด 20 ลิตร จำนวน 2 แกลลอนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบ ทั้งนี้ในส่วนของสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำการเก็บพิสูจน์หลักฐานก่อน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าอาจจะเป็นการเผาเพื่อสร้างสถานการณ์ หรืออาจจะเป็นการลักลอบเข้าพื้นที่เพื่อโจรกรรมชิ้นส่วนเหล็กนำไปขาย เนื่องจากพบชิ้นส่วนเศษเหล็กในบริเวณดังกล่าวด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบกับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ต่อไป และในเบื้องต้นอุตสาหกรรมจังหวัดระยองได้ทำการแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวกำลังทำการเร่งขนย้ายตะกรันอลูมิเนียมหรืออลูมิเนียมดรอส ทั้ง 7,000 ตัน ออกจากพื้นที่เพื่อนำไปบำบัดกำจัดอย่างถูกวิธีตามหลักวิชาการที่บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
ซึ่งจากการที่ทีมตรวจสุดซอยลงพื้นที่ในวันนี้ ได้มีการนำรถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมลงไปในพื้นที่ด้วย โดยเบื้องต้นคุณภาพอากาศบริเวณดังกล่าวยังอยู่ในค่าปกติ ไม่พบการปนเปื้อนของสารเคมี ซึ่งทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะนำรถดังกล่าวจอดไว้ในพื้นที่เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศจนกว่าประชาชนจะวางใจว่าสามารถใช้ชีวิตได้ปกติไม่มีเคมีอันตรายปนเปื้อนในอากาศ ทั้งนี้พื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้นั้นอยู่ห่างจากจุดที่ทำการขนย้ายตะกรันอลูมิเนียมหรืออลูมิเนียมดรอสเพียงเล็กน้อย แต่พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้ผลกระทบอะไร ซึ่งยอดขนย้ายตะกรันอลูมิเนียม ร่วมกับทีพีไอ โพลีน ตั้งแต่เริ่มขน 8 ม.ค. 68 จนถึงปัจจุบัน ขนย้ายไปแล้ว 1,592.61 ตัน
“ท่านรัฐมนตรีฯ ได้เน้นย้ำกับทีมงานว่าให้ช่วยกันตรวจสอบและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชนต้องคำนึงถึงเป็นเรื่องแรก และให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยด้านต่างๆ การตรวจสอบคุณภาพอากาศหลังเกิดเหตุ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษ ส่วนการขนย้ายตะกรันอลูมิเนียมนั้น ยังสามารถดำเนินการต่อได้ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ” นายพงศ์พล กล่าว