ไฟเขียวไปแล้ว ร่าง พ.ร.บ.การ ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ รองรับเมกะ โปรเจกต์เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโน บ่อนการพนันอยู่ในองค์ประกอบ จากนี้ร่างกฎหมายก็จะส่งไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา 1-2 เดือน ก่อนเสนอสู่กระบวนการตรากฎหมายของสภาต่อไป

ท่ามกลางข้อเสนอแนะเชิงท้วงติงจากคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็น ประกอบการพิจารณาว่าการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ ต้องทำให้ชัดเจนว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและสันทนาการโดยมนุษย์ทำขึ้นตามนโยบายรัฐบาล หรือแก้ปัญหาการลักลอบเล่นการพนัน นำธุรกิจสีเทาหรือบ่อนพนันใต้ดินเข้าสู่ระบบ

สอดคล้องกับท่าทีของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์เห็นว่าต้องให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย พิจารณาผลกระทบ ด้านลบต่อสังคม ที่สำคัญชี้ว่าในกรณีการพนันในลักษณะเงินโอน จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ไม่ส่งผลบวกเท่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้

เรื่องนี้คนในรัฐบาลได้ออกมาประสานเสียงชี้แจงความจำเป็นของร่างกฎหมายนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ชี้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การจัดเก็บภาษี ส่วนผลกระทบต่างๆก็จะมีมาตรการควบคุม ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ยืนยันเป็นเรื่องสถานบันเทิง กาสิโนเป็นพื้นที่ส่วนน้อย

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แจงว่าสถานบันเทิงครบวงจรจะช่วยเปลี่ยนโฉมประเทศไทย มีโมเดลความสำเร็จในหลายประเทศ คาดว่าจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเบื้องต้น 1–2 แสนล้านบาท และยังเพิ่มรายได้ในภาคท่องเที่ยวแต่ละปี เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ ป้องกัน แก้ปัญหาอาชญากรรมและพนันออนไลน์ได้

เอาเป็นว่าจากนี้ก็คงต้องติดตาม ต่อที่กระบวนการออกกฎหมายที่ต้องใช้เวลาพิจารณา และแน่นอนย่อมมีความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ข้อทักท้วงทั้งในสภาและหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งการเจรจาต่อรองในพรรครัฐบาล กระแสนอกสภา ภาคประชาชน ที่คัดค้าน รวมทั้งแรงต้านเชิงเกมอำนาจที่จะออกมาชุมนุมบนท้องถนน

...

จึงเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องเปิดกว้างรับฟัง อธิบายชี้แจงถึงความจำเป็น ให้สังคมเข้าใจให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญคือการนำข้อท้วงติง ข้อเสนอแนะไปปิดช่องว่างรูโหว่ มีมาตรการดูแลผลกระทบต่างๆ อย่างรอบคอบรอบด้านก่อนตัดสินใจเดินหน้าลุยเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร นโยบายเปิดกาสิโน อีกเรือธงด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม