ขึ้นชื่อว่า “การพนัน” มันก็ต้องมีลุ้น มีเสียว เป็นของคู่กัน
ตามจังหวะ “แบตเทิล” เริ่ม “เกมวัดดวง” อย่างเป็นทางการ โดยสถานะเจ้ามือใหญ่อย่าง “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย “แจกไพ่” ในวงประชุม ครม. ปล่อยคิว “กาสิโนเสรี” อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ปรับแก้เหลี่ยมคูกฎหมาย ก่อนส่งให้ที่ประชุมสภาประทับรับรอง
ล้อไปกับปฏิบัติการ “นำร่อง” โดย “นายกฯคนพ่อ” นายทักษิณ ชินวัตร ขึ้นโชว์ วิชั่นกลางวงนักธุรกิจ ในช่วงเย็นวันเดียวกัน การันตีเป็นเชิงล็อกคอพรรคร่วมรัฐบาลทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี จนสามารถผ่านหลักการเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เปิดหวูด “กาสิโนเสรี”
ตีธงหมุดหมายปลายทางสุดท้าย เป้าใหญ่คือลาก “พนันออนไลน์” มาอยู่บนดิน ขุดคุ้ยเงินใต้ดินมาทำให้ถูกกฎหมาย ขายฝัน เคลมตัวเลขภาษีนับแสนล้านบาทจากธุรกิจมืดพนันออนไลน์เข้าคลังหลวง
สไตล์ “เถ้าแก่ใหญ่” ผู้ถนัดเกมวัดดวง พูดชัด “ไม่กล้าเสี่ยงก็ไม่รวย”
โชว์ลีลาผู้เฒ่า “หมัดเมา” อดีตนายกฯในตำนานเดินชนไวน์กับเจ้าสัวใหญ่ทุกวง พูดไปกรึ่มไป ปล่อยวิทยายุทธ์แบบไม่กั๊กเชิง ขึ้นจอมโนภาพในสมอง ฉายเมกะโปรเจกต์สารพัด
โฟกัสเฉพาะเมกะโปรเจกต์เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พ่วง “กาสิโนเสรี” ที่ “นายกฯคนลูก” แจกไพ่เปิดเกมวัดดวงไปแล้ว แนวโน้มลุยถั่วไม่เบรกแน่
เพราะอีกฝั่งมันก็มีข้อมูลวงในยืนยันทุกอย่างถูกเซตเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
พร้อมลงเสาเข็มได้ทันที ที่ไฟเขียวลงนามสัญญา อย่างน้อยอัตราราคาค่าตั๋วใบละ 5 พันล้านบาท เป็นขั้นต่ำในการประมูลขอใบอนุญาต บวกค่าธรรมเนียมรายปี ปีละ 1 พันล้านบาท
...
“ไฟต์บังคับ” รัฐบาลเพื่อไทย อารมณ์ “ทักษิณ” ผูกเดิมพันบ่อนเสรีไว้กับการปั่นจีดีพี เปิดเกมเสี่ยงแลกกับโอกาสฟื้นวิกฤติเศรษฐกิจที่ดำดิ่งลึก
ฝ่าด่านต้านสังคมชาวพุทธแบบไทยๆ ลึกมาถึงขั้นจ่อผ่านสภาอีกไม่กี่อึดใจ
อาการหูทวนลม ได้ยินไม่ถนัด ไม่ว่าจะเป็นเสียงของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะทักเรื่องการเขียนนโยบายให้ชัด เคลียร์เป้าหมายให้กระจ่าง ขณะที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะท้วงติงให้หาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีผลกระทบด้านลบทางสังคมน้อยกว่า
ตามสถานะหน่วยงานใต้กำกับรัฐบาล ไม่กล้าเตือน ขวางลำกันตรงๆ
หรือแม้แต่อารมณ์ยึกๆยักๆกั๊กๆแบบที่ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว. มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่อนใบลา ครม.ไปตรวจงานเกาะสีชัง แต่ก็โผล่มาในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม ต้องร่วมเฟรมถ่ายรูปร่วมกับ “นายกฯอิ๊งค์” เป็นท่าบังคับหลังประชุม ครม.เป็นนัยรับรองมติ ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
มันก็แค่ลูกเขี้ยวในหมู่ “นักเลือกตั้งอาชีพ” ลีลายื้อไพแต้มอ่อน ที่ไม่เกินวิสัยโคตรเซียนอย่าง “นายใหญ่” จะอ่านไต๋ทะลุ
รู้ทันก๊วนเซราะกราวขอเอี่ยว หุ้นตั๋วกาสิโนเสรีในบุรีรัมย์
ถึงจุดต้องวางเดิมพันกันจริงๆก็ไม่น่าจะมีผลต่อเกมกอดคอวัดดวง
ทั้งหมดทั้งปวง ด่านสำคัญจริงๆ ที่ยังไงก็ไม่เอาด้วยกับเกมเสี่ยงแล้วรวย พลาดแล้วเจ๊ง สไตล์รัฐบาล “เถ้าแก่ใหญ่” อารมณ์ แบบที่อดีตนายกฯในตำนาน ตั้งใจบ่นดังๆกลางวงเจ้าสัว ให้ได้ยินกันทั้งบ้านทั้งเมือง ไม่เก็บอาการขุ่นเคืองในหัวใจ
กระแทก “แบงก์ชาติ” ภายใต้การกำกับของ “ด็อกเตอร์นก” นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เก็บตัวนิ่งเป็นปู่โสมเฝ้าสมบัติอยู่ในวังบางขุนพรหม ไม่สุงสิงกับใคร
พูดจาคนละภาษากับรัฐบาล เหมือนอยู่กันคนละประเทศ
เรื่องของเรื่อง เทียบกับฉากละครน้ำเน่า 2 ตัวเอกสุดโต่งคนละด้าน รัฐบาลเพื่อไทยคือเพลย์บอย ขาบู๊ชอบเสี่ยงวัดดวงได้เสีย แต่แบงก์ชาติคือคุณชายผู้สุขุมลุ่มลึก ต้องรักษาเงินก้นถุงก้อนสุดท้ายของตระกูล
ณ จุด “ศูนย์ถ่วง” คนไทยไม่เสี่ยงผาดโผนและไม่ช้าแบบเต่าคลานเกินไป.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม