“รองนายกฯ ประเสริฐ” เผย ครม.เห็นชอบ “ดีอี - มท. - กฤษฎีกา” พิจารณากฎหมายระดับรองให้เสร็จภายใน 1 เดือน รับพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ระบุเตรียมเรียก OPPO-Realme แจงเพิ่ม หลังยังไม่เคลียร์ พร้อมคุยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งต้นทางฝั่งแอปฯ เงินกู้ผิดปกติ

วันที่ 14 ม.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ตามข้อเสนอแนะของกระทรวงดีอี เรื่องการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับพนันออนไลน์ โดยข้อเสนอแนะดังกล่าวเห็นชอบให้แก้ไขกฎหมายระดับรอง ก่อนที่จะมีการแก้ไขกฎหมายใหญ่ต่อไป สำหรับการแก้กฎหมายระดับรองให้ 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงดีอีทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยกฎหมายระดับรอง คือพระราชกฤษฎีกาซึ่งอาจต้องให้ครม.พิจารณา แต่หากเป็นกฎกระทรวงก็ไม่ต้องเข้าครม. ซึ่งคิดว่าจะใช้เวลาดำเนินการภายใน 1 เดือน

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้พนันออนไลน์ เช่น พนันบอลที่คนไทยเล่นกันมากในโลกออนไลน์ หรือการพนันอื่นๆ ที่อยู่ในโลกออนไลน์ทั้งหมด หรือโครงสร้างการพนันที่เป็นระบบดิจิทัล หรือสรุปแล้วเอาของใต้ดินที่เป็นเงินไม่ถูกต้องมาไว้บนดินให้หมด ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้เสียภาษี

เมื่อถามว่า 3 หน่วยงานดำเนินการเรื่องนี้ถือว่าน้อยไปหรือไม่ เพราะมีมิติที่กระทบต่อสังคม และต้องรับฟังความเห็นประชาชนด้วยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราเข้าใจอยู่ เบื้องต้นแม้จะมี 3 หน่วยงาน แต่หากเกิดผลกระทบในส่วนอื่นๆ ก็สามารถเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมได้อีก ส่วนการรับฟังความคิดเห็นประชาชน คิดว่าเมื่อครม.เห็นชอบแล้วหน่วยงานต่างๆ ก็ทำงานได้เลย แต่ถ้าจำเป็นก็ถามได้

...

เมื่อถามว่า เรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมถึงไม่แถลงเป็นมติครม. แต่ประชาชนกลับทราบข้อมูลผ่านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พูดในงานดินเนอร์ทอล์ค เมื่อวันที่ 13 ม.ค. นายประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้บ้าง แต่สังคมไปสนใจเรื่องร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์มากกว่า

เมื่อถามว่า หากกฎหมายเรื่องการพนันออนไลน์มีผลบังคับใช้ ภาครัฐหรือภาคเอกชนจะเป็นเจ้ามือ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดว่าใครจะเป็นเจ้ามือ ขอให้กฎหมายระดับรองออกมาก่อน แต่ในหลักการมีการแก้ไขเรื่องการพนันออนไลน์แล้ว

เมื่อถามว่า ขณะนี้ในส่วนของเจ้ามือมีบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่เตรียมที่จะเข้ามาแล้วหรือยัง นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่มี

เตรียมเรียก OPPO-Realme แจงเพิ่ม หลังยังไม่เคลียร์

นอกจากนี้ นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรียก บริษัท OPPO-Realme ปรากฏแอปพลิเคชันกู้เงิน ซึ่งยังเหลืออีกหนึ่งบริษัทที่ยังไม่มีความชัดเจนในการถอนแอปพลิเคชันออกจากโทรศัพท์ว่า เหมือนการชี้แจงของเขายังตอบไม่เคลียร์ ซึ่งตนจะเรียกกสทช. เข้ามา เพื่อสอบถามดูว่ามีประเด็นไหนที่ยังค้าง ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ก็ได้เรียกให้ทั้งสองบริษัทเข้ามาชี้แจง

เมื่อถามว่า วันนี้เริ่มมีผู้เสียหายออกมาเปิดตัวเยอะมากขึ้น เปรียบเสมือนการเป็นหนี้นอกระบบ มีการดึงเอาข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์ไปใช้ นายประเสริฐ กล่าวว่า โทรศัพท์มือถือเวลาเข้าแอปพลิเคชันต่างๆ จะถามว่า อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลรายชื่อหรือไม่ ให้เข้าถึงข้อมูลด้านไหนหรือไม่ ซึ่งหากเราอนุญาตให้เข้าถึง ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อทันที ซึ่งเท่าที่ตนได้ติดตามดู การเข้าชี้แจงของทั้ง 2 บริษัทกับกสทช. ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเคลียร์ต้องมีการมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้แบล็กลิสต์ ทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน ประเด็นคือการลงซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันนี้ยังไม่มีความชัดเจน ที่จะเข้าไปกำกับดูแล เพราะฉะนั้นต่อไปนี้จะต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกสทช. ที่เป็นผู้ควบคุมมาตรฐานสัญญาณโทรศัพท์มือถือและระบบคลื่น ส่วนในมือถือที่มีแอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น App Store หรืออะไรที่อยู่ในนั้น ต่อไปนี้ต้องเข้าไปดูแล้วว่า มีอะไรบ้าง ที่ไม่ขัดต่อหลักกฎหมาย

เมื่อถามว่า ทั้ง 2 บริษัทดังกล่าวได้ยอมรับแล้วว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวได้ถูกฝังมาจากโรงงานที่ผลิตจากประเทศจีน กระทรวงดีอีจะต้องแจ้งไปที่ประเทศต้นทางหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า คงจะต้องแจ้งเขาไป เพราะแอปพลิเคชันดังกล่าว ไม่ใช่แอปพลิเคชันพื้นฐานตามปกติ ซึ่งตนขอไปหารือระหว่างกสทช. และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPC และนอกจากนี้ตนจะไปดูเรื่องความผิด ตามกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ว่าการติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าว เป็นการรบกวนประชาชนหรือไม่ เพราะในกฎหมายมีระบุไว้หนึ่งข้อ ที่ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับทำให้เกิดความไม่สงบ แต่จะขยายผลขนาดไหนขอไปดูข้อกฎหมายก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบแล้วว่า รูปแบบในโทรศัพท์จะต้องมีข้อกำหนดอย่างไร ให้มีความเหมาะสม ขณะที่การตรวจสอบบริษัทเงินกู้ดังกล่าว ก็จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่