นายกฯแพทองธาร ชินวัตร แถลงผลการประชุม ครม.วันจันทร์ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถาบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ และแก้ปัญหาการพนันที่ผิดกฎหมายในปัจจุบัน และบอกว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ได้ขวางกฎหมายฉบับนี้ แต่ให้ความเห็นเฉยๆ แค่จะปรับเนื้อหาข้างในให้เข้ากับนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาในการส่งเสริมการท่องเที่ยว หลังจากนี้ก็เข้าสภาได้เลย

Entertainment Complex ของรัฐบาลเพื่อไทย ความจริงก็คือ Casino Complex ที่มีอยู่ดาษดื่นใน ลาสเวกัส และ มาเก๊า นั่นแหละ รายได้หลักของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะมาจาก “บ่อนการพนัน” หรือ “กาสิโน” ซึ่งเปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง 365 วันตลอดปีไม่มีวันหยุด มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์หรู สวนสนุก และกิจกรรมบันเทิง

นายกฯแพทองธาร กล่าวว่า จะพยายามเร่ง ถ้าเกิดเร็วก็ดี เช่น ประเทศสิงคโปร์มีกาสิโน 10% และที่ท่องเที่ยวอีก 80-90% แม้ในอดีตจะบอกว่ามีน้อย แต่เมื่อมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้ามา ก็ทำให้จีดีพีโตขึ้นอย่างมาก จะเกิดผลดีต่อประเทศในอนาคต สำหรับข้อกังวลเรื่องมาเฟียนั้น นายกฯแพทองธาร กล่าวว่า ต้องอยู่กับความเป็นจริง ทุกวันนี้มีการพนันไม่ถูกกฎหมายเต็มไปหมด เพราะฉะนั้น การส่งเสริมการท่องเที่ยวจะเป็นการแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล ทำให้กฎหมายคลุมชัดเจน ชีวิตประชาชนปลอดภัยด้วย เงินที่ได้ก็เป็นภาษีเข้าประเทศ

คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกสำนักนายกฯ แถลงเพิ่มว่า สัดส่วนของกาสิโนมีเพียง 10% เท่านั้น ที่เหลือจะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์และศูนย์ท่องเที่ยวครบวงจรที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก เช่น การจัดประชุม การจัดนิทรรศการระดับโลก การจัดคอนเสิร์ต สวนน้ำสวนสนุก ในรูปแบบสมัยใหม่ ประเทศไทยถึงเวลายอมรับความจริงหรือยังว่า วันนี้มีแหล่งการพนันทั้งบนดินและใต้ดินทั้งในประเทศและรอบๆ ประเทศ โครงการนี้จะเน้นการสร้างเม็ดเงินจากธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ

...

คุณปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ถูกพาดพิงว่าขวางกฎหมายกาสิโนฉบับนี้ ชี้แจงที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักการทำกฎหมายของรัฐบาลต้องยึดนโยบายรัฐบาลเป็นหลัก แต่ร่างกฎหมายที่กระทรวงการคลังเสนอ ร่างขึ้นตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนฯเป็นหลัก พูดถึงเฉพาะ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ การแก้ไขปัญหาการพนัน จึงแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ คณะกรรมการกฤษฎีกา จึงมีความเห็นว่า ถ้าเป็น Man–made destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ตขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว มีสวนน้ำสนวนสนุกสำหรับเด็ก

ความเห็นกรรมการกฤษฎีกาเป็นเรื่องที่ดี แต่รัฐบาลคงไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะต้องใช้เงินลงทุนเยอะ สู้ทำบ่อนกาสิโนไม่ได้ ใน ครม.ก็มีขาใหญ่ที่รู้เรื่องดี สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ บ่อนกาสิโนทุกแห่งจะมี “กาสิโนออนไลน์” ด้วย เพราะทำรายได้ดีกว่าบ่อน ไม่รู้ กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะอนุญาตให้มี “กาสิโนออนไลน์” ด้วยหรือไม่ ถ้ามีก็หายนะแน่นอน

ผมเคยเล่าในคอลัมน์นี้ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนกำลังเปลี่ยน มาเก๊า จากเมืองการพนันเป็น “ศูนย์กลางการเงินแห่งใหม่” ของ เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง เพราะ นักพนันขาใหญ่วีไอพีในมาเก๊า ส่วนใหญ่มาจากจีน ร่ำรวยจากการทุจริต และค้าขายสิ่งผิดกฎหมาย มหาเศรษฐีระดับโลกที่ร่ำรวยจากธุรกิจ ไม่มีใครเข้าบ่อนกันหรอก อีก 10 ปีนับจากนี้ ใบอนุญาตบ่อนกาสิโนกว่า 30 แห่งในมาเก๊าจะหมดอายุลง คาดกันว่า ผู้นำจีนคงจะไม่ต่อใบอนุญาตให้ทั้งหมด ประเทศไทยอาจถูกหวยกลายเป็น “มาเก๊าแห่งที่สอง” ในอนาคตก็เป็นไปได้ แค่บ่อนข้างประเทศก็หายนะกันไม่รู้เท่าไหร่แล้ว.


“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม