ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ บ้านเราเวลานี้ดูเหมือนจะมีเรื่องราวที่พัวพันกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง
นับแต่ลูกเรือประมงที่ถูกเมียนมาจับแล้วยังไม่ได้รับการปล่อยตัวก็มีเรื่องว้าแดงบุกรุกชายแดนแบบอหังการ
จากนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีนอกทำเนียบก็ได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนให้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว
นัยเพื่อให้ช่วยกันแก้ปัญหาและทำให้อาเซียนผงาดขึ้นมาอีกครั้ง
รวมถึงการแก้ไขปัญหาการเมืองในเมียนมาที่รัฐบาลทหารยึดครองจนเกิดการสู้รบกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ
เป็นปัญหาที่ทำให้อาเซียนลดความเข้มแข็งไปเยอะ
เช่นกันไทยก็คงฝากความหวังให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซียช่วยคลี่คลายปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่ยืดเยื้อคาราคาซังมานานแล้ว และไม่มีท่าทีจะสงบลงได้
เนื่องจากมาเลเซียเป็นหลังพิงให้กลุ่มก่อความไม่สงบ
ก็หวังว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหากสำเร็จก็ได้คะแนนไป แต่ถ้าไม่สำเร็จก็เสียเครดิตที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
รัฐบาลก็ไม่ได้คะแนนนิยมไปด้วย
อีกฟากหนึ่ง อดีต สส.กัมพูชาซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมืองของ “ฮุน เซน” ผู้มากบารมีของกัมพูชาก็มาถูกลอบยิงเสียชีวิตกลางกรุงเทพฯ
แบบอุกอาจไม่น้อย!
เวลานี้สามารถจับกุมมือปืนได้แล้วและกำลังขยายผลเพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องรวมไปถึงการสอบสวนเชิงลึก
ว่าเป็นคดีการเมือง “สั่งฆ่า” ข้ามประเทศหรือไม่?
ไล่เรียงกันมาก็ปรากฏคนไทยตกตึกกลางกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นที่ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสูบเงินคนไทยมานานแล้ว
ยังไม่ทราบว่ามีสาเหตุอะไร!
แต่ที่แน่ๆเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างแน่นอนและรัฐบาลก็ยังไม่สามารถจัดการแก้ไขได้ทั้งในกัมพูชาและเมียนมา
...
นี่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงที่ผ่านมา...
ท้าทายรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร
เพราะก่อนหน้านี้ “ทักษิณ” ผู้พ่อเคยประกาศว่าจะส่งกองกำลังเข้าไปจัดการเองทั้งเมียนมาและกัมพูชา
ระบุด้วยว่าตั้งอยู่ไหนเหมือนจะรู้เบาะแสเป็นอย่างดี
ฉายา “สทร.” ก็ลองทำให้ได้สักเรื่องเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนจะได้ยกย่องชมเชยให้ปรากฏให้จริงเหอะ...
นายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการกำลังเคลื่อนตัวเพื่อสร้างคะแนนนิยมอย่างเต็มที่ นอกจากจะเดินสายช่วย
ผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นที่ภาคอีสานแล้ว
ยังจะเดินทางลงใต้เน้นไปที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะตั้งแต่เข้าบริหารประเทศก็ยังไม่ได้เดินทางไปแม้จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ก็ตาม
นอกจากนั้นก็ยังมีโปรแกรมประชุม ครม.สัญจรที่สงขลาเรียกคะแนนจากคนใต้ที่ “เพื่อไทย” ไม่เคยได้ สส.แม้แต่คนเดียว
การเดินสายไปหลายจังหวัดรวมถึงการช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นก็คงหวังเรียกคะแนนนิยมให้พรรค
อีกด้านหนึ่งก็เพื่อเตรียมความพร้อมเอาไว้ เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอนที่บอกว่าจะอยู่ครบเทอมนั้น
ก็เป็นแค่คำพูดแต่ความเป็นจริง
ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นมา เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เคยเห็นกันมาแล้ว
วันนี้ต้องยอมรับว่ารัฐบาลยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันปรากฏ
หลายอย่างที่ประกาศเอาไว้ก็ยังทำไม่ได้
ทางเดียวก็คือต้องเดินสายเข้าหาประชาชนเองเพื่อให้อยู่ในสายตา
ส่วน “พ่อ” ก็ขายฝันขายบารมีเก่าๆให้ประชาชนหลงไหลต่อไป!
“ลิขิต จงสกุล”
คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม