ประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญกลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอยู่ในกระแสอีกครั้ง หลังจากล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 256 ต่อรัฐสภา เพื่อเปิดทางตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เตรียมยื่นประกบไปกับร่างฉบับของพรรคประชาชนที่ยื่นมาก่อนหน้านี้
เนื้อหาร่างแก้ไข มาตรา 256 ของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน มีจุดยืนเหมือนกัน คือให้มี ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้ง ต่างกันที่ฉบับของพรรคเพื่อไทย มีหลักการสำคัญห้ามแก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ขณะที่ร่างของพรรคประชาชนให้อิสระ ส.ส.ร.เขียนกติกาฉบับใหม่ ไม่มีข้อห้ามแตะหมวด 1 และ 2
รวมถึงต้องรอดูท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้ามาประกบเพิ่มเติมอีกหรือไม่ แม้วาระการพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญจะถูกเลื่อนไป 1 เดือน รอไปเข้าที่ประชุมรัฐสภากลางเดือน ก.พ. แต่ก็ถูกจับตาจะเป็นหัวเชื้อปลุกความขัดแย้งในสังคมระลอกใหม่หรือไม่ เพราะเสียงแตกเป็น 2 ขั้ว 2 ฝ่าย
ฝ่ายที่ต้องการให้แก้ไขอย่างพรรคประชาชน และ สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ยกเหตุผลเนื้อหารัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่เป็นประชาธิปไตยเพราะเป็นมรดกตกทอดมาจากยุครัฐบาล คสช. จึงเดินหน้ารณรงค์ลดอำนาจองค์กรอิสระ และให้ยกเลิกการใช้เสียง สว.1 ใน 3 หรือ 67 เสียงขึ้นไปร่วมเห็นชอบการแก้รัฐธรรมนูญในวาระ 1 และ วาระ 3
ฝั่งที่คัดค้านอย่างพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สว. สีน้ำเงินที่เป็น สว.เสียงส่วนใหญ่ มองว่าเป็นการแก้เพื่อเอื้อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง มุ่งแต่ประเด็นจริยธรรมนักการเมือง ลดอำนาจ องค์กรอิสระและ สว. เลี่ยงถูกตรวจสอบจากองค์กรอิสระ ย้อนแย้งหลักการเป็นนักการเมืองย่อมถูกตรวจสอบได้
ส่วนพรรคเพื่อไทยแกนนำหลักฝั่งรัฐบาล แม้จะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ท่าทียังออกลูกแทงกั๊ก ไม่ออกตัวแรงในการแก้เรื่องปมจริยธรรมนักการเมือง การหั่นอำนาจ สว. การลดอำนาจองค์กรอิสระ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับตัวเอง โยนให้เป็นอำนาจของ ส.ส.ร. มายกร่างกติกาประเทศ ฉบับใหม่ เพราะกลัวจะขัดแย้งกับ สว.ตั้งแต่เริ่มต้น
...
ท่าทีแต่ละฝ่ายในการแก้ รัฐธรรมนูญมุ่งไปที่การปกป้องและชิงความ ได้เปรียบทางการเมือง คุมดุลอำนาจการเมือง สร้างประโยชน์ให้แก่ฝ่ายตัวเอง แต่ไม่ค่อยพูดถึงการยกระดับสิทธิ เสรีภาพ ลดความเหลื่อมล้ำประชาชน ดังนั้นถึงจะยกร่างใหม่อย่างไร ก็อาจไม่ใช่เป้าหมายรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม