สำนักงาน กกต. จัดคิกออฟ เลือกตั้ง อบจ. ดึง “หมูเด้ง” ชวนคนออกไปใช้สิทธิ “อิทธิพร” ตั้งเป้าคนออกมาเลือกตั้ง 65% ชี้สอบขนเงิน 20 ล้าน ให้เวลาเต็มที่ไม่กดดันเจ้าหน้าที่ ด้านเลขาฯ กกต. ลั่นในสนามเลือกตั้งไม่มีเจ้าพ่อ ไล่ไปแก้กฎหมายเอง ถ้าเห็นกติกาไม่ดีอย่าโทษคนปฏิบัติ

วันที่ 8 ม.ค. 2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดกิจกรรม kick off การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ที่จะมีการเลือก อบจ. ขึ้นในวันที่ 1 ก.พ. 2568 นี้

นายอิทธิพร กล่าวว่า กิจกรรม kick off การเลือกตั้ง อบจ. นับเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวที่จะช่วยสร้างความเข้าใจและส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้การเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.พ. 2568 เป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ซึ่ง กกต.ในฐานะองค์กรจัดการเลือกตั้งขอยืนยันต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชน ให้มั่นใจว่า กกต. สำนักงาน กกต.และภาคีเครือข่ายที่จัดการเลือกตั้งทุกภาคส่วนพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย พร้อมเปิดตัวมาสคอต “หมูเด้ง” เพื่อเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้มากที่สุด

ต่อมานายอิทธิพร ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.พ. 2568 ว่า ทางสำนักงานกกต. ได้ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 เพราะตัวเลขเฉลี่ยในการเลือกตั้งอบจ. เมื่อปี 2563 อยู่ที่ 62.86% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจจะไม่สูง เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งทั่วไป แต่บางจังหวัดอย่างเช่นพัทลุง มีผู้มาใช้สิทธิจำนวน 78% สตูล 77% เชียงใหม่ 72% มีบางจังหวัดที่ผู้ออกมาใช้สิทธิไม่สูง เช่น นนทบุรี หรือ บุรีรัมย์อยู่ในร้อยละ 50 กว่า ซึ่งก็เป็นประเด็นหนึ่งที่เราต้องขอความร่วมมือ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิให้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

...

ส่วนการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.ยังเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิลดลงกว่าเป้า เพราะเราได้มีการเตรียมการประชาสัมพันธ์ ทั้งความพร้อมในการอำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและขอความร่วมมือ ไปยังนายจ้าง บริษัทห้างร้านต่างๆ อนุญาตให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อาจต้องทำงานในวันนั้นออกมาใช้สิทธิ เพราะเป็นหน้าที่ของนายจ้างที่ต้องอนุญาตขณะเดียวกันประชาชนที่อาจต้องทำงานในวันนั้น สามารถขออนุญาตนายจ้างออกมาใช้สิทธิได้

เมื่อถามว่าถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคลิปเสียงขนเงิน 20 ล้านที่จังหวัดปราจีนบุรีมีความคืบหน้าอย่างไร นายอิทธิพร กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการของทีมงานกกต. ยังไม่ถึงขั้นเสนอเข้าที่ประชุมกกต. คงต้องใช้เวลาอยู่บ้าง

เมื่อถามต่อว่าการสอบสวนจะเสร็จทันก่อนวันเลือกตั้งหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่สามารถให้ข้อเท็จจริงได้ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และผู้ที่เกี่ยวข้องที่เราจะต้องเชิญมาสอบ จะไปเร่งรัด ให้เสร็จก่อนเสร็จหลัง คงไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการยุติธรรม แต่ในส่วนของความคืบหน้าต่างๆ เชื่อว่าสำนักงานกกต.ปราจีนบุรี รวมถึงสำนักงานกกต.ประจำจังหวัดอื่นๆ ที่มีเหตุเกิดขึ้นในลักษณะนี้ ก็จะมีการประสานงานมายังสำนักงานกกต.กลาง อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นการทำงานในภาคปฏิบัติ เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ก็จะเสนอเรื่องพร้อมความเห็นมายังกกต.เพื่อพิจารณาต่อไป

เมื่อถามอีกว่าถึงขณะนี้มีการรายงานเรื่องร้องเรียนจำนวนเท่าใด นายอิทธิพร กล่าวว่า ตัวเลขเรื่องร้องเรียนยังไม่ชัดเจนแต่ไม่เยอะ ขณะนี้มีประเด็นว่า เมื่อเราปิดรับสมัคร เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2568 ได้มีการประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งมีบางกรณีที่เราไม่ประกาศรายชื่อและมีผู้คัดค้านโดยในภาพรวมการเลือกตั้งอบจ. ในครั้งนี้มีผู้สมัคร 7,007 คน เป็นผู้สมัครนายกอบจ. 192 คน ซึ่งกกต.ไม่ประกาศรายชื่อ 3 คน โดยผู้สมัครร้องคัดค้าน 2 คน และสมาชิก 6,815 คน ไม่ประกาศรายชื่อ 92 คน ร้องคัดค้าน 17 คน โดยในวันที่ 13-14 ม.ค. นี้ ทางสำนักงานก็จะเสนอให้กกต. วินิจฉัยสิทธิสมัคร ส่วนสาเหตุที่บุคคลเหล่านี้ไม่ได้รับการประกาศชื่อเพราะว่าถูกจำกัดปิดการสมัคร เนื่องจากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิ ซึ่งก็จะถูกจำกัดสิทธิเป็นระยะเวลา 2 ปี ตนจึงอยากเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิ เพราะหากไม่ไปใช้สิทธิ์แล้วไม่แจ้งเหตุ จะทำให้เสียสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งต่างๆ

ลั่นในสนามเลือกตั้งไม่มีเจ้าพ่อ ไล่ไปแก้กม.เอง ถ้าเห็นว่าไม่ดีอย่าโทษคนปฏิบัติ

ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวตอนหนึ่งของการเสวนา “ความสำคัญของการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด” ว่า กกต.มีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งให้ออกมาดี ทั้งกระบวนการให้เป็นที่ยอมรับ จริงๆ เราผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้งแล้วก็พยายามทำให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ เรายึดหลัก ฟรีแอนด์แฟร์ และความโปร่งใส ฟรีคือความอิสระเราไม่มีเจ้าพ่อในสนามเลือกตั้ง มีแต่ผู้สมัคร และเราเห็นผู้สมัครเท่ากัน แฟร์ คือตัวเราที่ทั้งเที่ยงและตรง ถ้าเห็นว่ากติกาไม่ดีก็อย่ามาโทษคนปฏิบัติ ให้ไปแก้กฎหมายเอง เพราะถ้ากฎหมายยังเป็นแบบเดิมจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม และความโปร่งใสคือเป็นเรื่องของกระบวนการที่โปร่งใส แต่สิ่งที่ถดถอยลงคือความชอบธรรม ซึ่งในที่นี่คือในเชิงปริมาณ คือผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นเราจึงต้องรณรงค์ให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อให้มีผู้มาบริหารประเทศ

นายแสวง กล่าวอีกว่า กกต. เราอยากเห็นการเลือกตั้งมีความสุจริต ยุติธรรม และความโปร่งใส การเลือกตั้งครั้งนี้ทางการบริหารเป็นไปตามแผนแน่นอน แต่จะให้การเลือกตั้งออกมาดีเราต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย อย่างที่มีคนว่าเรา มีการซื้อเสียงกันแล้ว กกต.ไปอยู่ไหน เราเองรับทราบแต่เราไม่เห็นก็มีไปจับทีหลัง อย่างไรก็ตามเรายืนยันว่าในการบริหารจัดการแผนการเลือกตั้งเราจะดูแลไปถึงวันที่ 1 ก.พ. เพื่อให้การเลือกตั้งเรียบร้อยดี

“การเลือกตั้งดีจะทำให้การเมืองดี 40 ปีที่ผ่านมาที่ว่ามีการปฏิรูปกฎหมาย แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้อยู่กับที่หรือถอยหลัง เพราะคนแพ้ไม่ยอมกัน และบ้านเราเอาการเมืองนำ ยังไม่มีคนแพ้ที่ดีหรือคนชนะที่ดี ถ้าจะบอกว่าการเลือกตั้งก็เหมือนเล่นฟุตบอล แต่เลือกตั้งไม่มีถ่ายทอดสด การเลือกตั้งอยู่ใต้ดินครึ่งหนึ่งบนดินครึ่งหนึ่ง เราเป็นกรรมการถ้าไร้เดียงสาก็เอาไม่อยู่ เพราะคนที่ลงมาแข่งขันเป็นผู้มีอำนาจ เป็นคนใหญ่คนโตของบ้านเมือง แต่เราที่เป็นกรรมการที่มีแต่กฎหมาย และกติกา และถ้าคิดว่ากติกาไม่ดีอย่ามาว่าแต่กรรมการ แต่ให้ไปแก้กฎหมาย” นายแสวง กล่าว