ประเทศไทยเข้าสู่โหมดของการแก้ไขรัฐธรรมนูญกันอีกกระทอก เหตุผลที่นักการเมืองต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะมองว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นโดยเผด็จการ มีหลายประเด็นที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศไทยเลยไม่สะเด็ดน้ำ และเป็นประเทศที่มีรัฐธรรมนูญมากที่สุดในโลก

ความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับการเมืองเป็นอุปสรรคในการปกครองประเทศตามระบอบประชาธิปไตย เป็นเพียงวิวาทะหรือการมโน หรือเป็นเรื่องจริงจัง จนบัดนี้ยังไม่มีคำตอบเพราะ การเมืองกับการทหาร พัวพันกันอีนุงตุงนังจนแยกไม่ออก วันดีคืนดี นักการเมือง เคาะระฆังจะออกกฎหมายป้องกันการปฏิวัติ วันดีคืนดี รมว.กลาโหม ไปร่วมวงกินข้าวกับบรรดา ผบ.เหล่าทัพเพื่อกระชับพื้นที่ ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน

สรุปว่า ประเทศไทยอยู่บนความท้าทายตลอดเวลา ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม สุดท้ายก็มาโทษกันเอง การเมืองเป็นตัวถ่วง กองทัพเป็นตัวถ่วง คนที่รับกรรมคือประชาชนตาดำๆ บ้านเรามีช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมากเกินไป ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในทุกๆด้าน

ความท้าทายของทุกรัฐบาลคือ การแก้ปัญหาความยากจน รายงานสถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ของ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่ามีจำนวนคนยากจนลดลงจาก 3.79 ล้านคน มาอยู่ที่ 2.39 ล้านคน ในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนคนจน 3.41% ลดลงจาก 5.43% ในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ปัญหาความยากจนยังส่งผลกระทบกับทรัพยากรบุคคลของประเทศโดยตรง

พบว่าบ้านเรามี เด็กนักเรียนยากจน เกือบร้อยละ 50 กระจุกตัวอยู่ในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคเหนือ บางจังหวัด เช่น แม่ฮ่องสอน มีเด็กนักเรียนยากจนมากเป็นพิเศษ ร้อยละ 54.99 เป็นกับดักของความยากจน ที่สำคัญที่สุดความไม่เสมอภาคทางด้านการศึกษากำลังเป็นปัญหาใหญ่ มากกว่า ที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุด้วยซ้ำไป

...

จำนวนเด็กไทยในปี 2567 ที่ผ่านมา เกิดต่ำที่สุดเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่มีจำนวนเด็กเกิดใหม่ไม่ถึง 5 แสนคนต่อปี และมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ จากที่เคยมีสถิติเด็กเกิดใหม่ในไทยประมาณ 1 ล้านคน

ปี 2567 ที่ผ่านมาเรา เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบคือมีอัตราผู้สูงอายุเกินกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ที่น่ากังวลมากกว่า ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีคุณภาพ ไม่สามารถช่วยตัวเองได้และรัฐไม่สามารถจัดหาสวัสดิการให้ความช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง

การจัดอันดับมหาเศรษฐีของโลก ปรากฏว่า อภิมหาเศรษฐีระดับหัวกะทิเป็นชาวอเมริกันจำนวน 12 ราย ในปี 2024 ที่ผ่านมา รวมกันแล้วรวยเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งที่มีรัฐธรรมนูญแค่ฉบับเดียว.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม