แกนนำ พท.ดาหน้าป้อง “นายใหญ่” “ภูมิธรรม” ขำๆ ตัวตลกปล่อยข่าวปรับ ครม. “ประเสริฐ” เด้งรับยกพนันออนไลน์ ขึ้นมาอยู่บนดิน หนุนสุดตัวช่วยปราบบัญชีม้า-แก๊งคอลฯ แถมช่วยผลักดันระบบเศรษฐกิจ “วิสุทธิ์” ชี้ลีลาหาเสียงดุเดือดยังอยู่ในขอบเขต “เสี่ยหนู” ยังไม่ได้รับสัญญาณปรับ ครม. โอ่ ภท.ไม่โดน เขี่ยทิ้งแน่ “อังคณา” ชี้ ปชน.เหนื่อยเข็นแก้ รธน. บี้ “ทักษิณ” ขอโทษพูดจาเหยียดสีผิว “นายกฯอิ๊งค์” พบประธาน Google Cloud ผนึกกำลังป้องกันภัยไซเบอร์ ย้ำรัฐบาลหนุนทุนศึกษา ODOS “สว.นันทนา” แฉกรมที่ดินตั้ง “เพื่อนเนวิน” สอบเขากระโดง “อนุทิน” เล่นลิ้นไม่รู้สนิทกันแค่ไหน

แกนนำพรรคเพื่อไทยดาหน้าออกมาปกป้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงที่ จ.เชียงราย คืนลีลาดุเด็ดเผ็ดมันในหลายประเด็น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า เป็นเรื่องดีที่ไปพบปะเพื่อให้ความหวังแก่ประชาชนถึงอนาคตข้างหน้า

“อ้วน” ขำๆคนปล่อยข่าวปรับ ครม.

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกจากการร่วมรัฐบาล ถือว่าทำเกินอำนาจหรือไม่ว่า ไม่ทราบว่านายทักษิณมีข้อมูลอะไร หรือพูดในสถานะไหน แต่เป็นเรื่องตลกมากกับข่าวปรับ ครม. สื่อต้องเลือกฟังแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่านี้ ยืนยันอำนาจปรับ ครม.อยู่ที่นายกฯ คนในรัฐบาลไม่ต้องระวังอะไร ทุกคนที่ถูกเอ่ยชื่อก็มานั่งคุยกันว่ามันตลกดี ไปเอาข่าวมาจากไหน พอรู้แหล่งข่าวยิ่งรู้สึกตลกใหญ่ อย่าไปฟังมากทายผิดมาหลายครั้ง ส่วนที่นายทักษิณกล่าวปราศรัยด้วยถ้อยคำรุนแรง ถ้าถามคนในรัฐบาลทุกคนจะบอกว่าไม่มีอะไร เราควรให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริง และแหล่งข่าวมากขึ้น “วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลโอเคดี ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย”

...

เมินฝ่ายค้านซักฟอกมั่นใจไร้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมนี้ นายภูมิธรรมตอบว่า เห็นฝ่ายค้านพูดมายังไม่เห็นตัดสินใจจริงๆ รอดูเขาตัดสินใจให้ชัดเจนว่าจะอภิปรายใครบ้าง พรรคร่วมรัฐบาลจึงมาคุยกัน เรื่องที่ยังไม่เกิดยังไม่ต้องไปคุยให้มันเกิดปัญหารกใจ เมื่อถามว่าดูเหมือนรัฐบาลไม่สะเทือนกับการถูกอภิปราย นายภูมิธรรมตอบว่า เราแข่งกับตัวเองตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด แต่ละเรื่องที่ยากลำบากก็พยายามจัดการ และผ่านไปได้ ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรน่ากังวล อยากอภิปรายถ้ามีข้อมูลก็มา มั่นใจว่าเราไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา

ดีอีศึกษาพนันออนไลน์ขึ้นบนดิน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดถึงนโยบายรัฐบาลจะยกพนันออนไลน์ขึ้นมาอยู่บนดินว่า การเอาเรื่องใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน เป็นการป้องกันหลายๆเรื่อง เพราะพนันออนไลน์ไปเชื่อมโยงกับบัญชีม้า ข้อมูลส่วนบุคคล แก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย หากนำขึ้นมาไว้บนดินกฎหมายจะเข้าไปกำกับดูแลได้ และเป็นเรื่องดีต่อระบบเศรษฐกิจ ต้องมีการแก้ไขกฎหมาย กระทรวงดีอีกำลังรวบรวมว่าต้องมีกระบวนการอย่างไร เพื่อเป็นข้อเสนอแนะ เข้าใจว่าสิ่งที่นายทักษิณพูดคงดูตัวอย่างจากที่อื่น ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ยังตอบไม่ได้ แต่เนื่องจากมีคนเล่นจำนวนมาก และ Server อยู่ต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่เรากังวล เพราะเป็นต้นตอของอาชญากรรม

โว “ทักษิณ” ไปช่วยที่ไหนชนะเรียบ

นายประเสริฐยังกล่าวถึงการเดินสายหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. ของนายทักษิณว่า ทุกสนามที่นายทักษิณเคยไปช่วยชนะมาตลอด พรรคเพื่อไทยมียุทธศาสตร์แต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ชัยชนะที่ได้มาแต่ละครั้งเกิดจากหลายเรื่อง พรรคมองว่าเรื่องท้องถิ่นสำคัญ เราให้ความสำคัญกับทุกสนามที่ส่ง เพราะหากทำงานสอดคล้องกับการเมืองระดับประเทศได้ จะทำให้ประเทศเดินหน้า และทำให้การขับเคลื่อนในหลายมิติสอดคล้องกัน เมื่อถามว่านายทักษิณตั้งเป้าว่าการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะได้อันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว นายประเสริฐตอบว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่การได้ สส.อันดับ 1 เป็นไปได้ ในอดีตเคยทำแล้ว เรามุ่งหวังว่านโยบายที่ออกไปจะตรงใจประชาชน และมั่นใจว่าจะนำชัยชนะมาได้ เมื่อถามว่าหลายพื้นที่ต้องชนกับพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทย จะมีปัญหาหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ไม่มีต้องแยกแยะให้ออก ไม่เกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล

ป้อง “นายใหญ่” หาเสียงดุเดือด

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงเสียงวิจารณ์นายทักษิณปราศรัยหาเสียงมีเนื้อหาไม่เหมาะสมว่า ไม่ได้ฟังว่าปราศรัยอย่างไร แต่คิดว่าทำได้ในขอบเขตที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อนุมัติให้ทำในฐานะผู้ช่วยหาเสียง เป็นสิทธินายทักษิณจะพูดอะไร ถ้าไปแล้วไม่พูดหาเสียงจะไปทำไม เป็นผู้ช่วยหาเสียงก็ต้องไปหาเสียงไม่แปลก คนไทยทั้งประเทศรอพบนายทักษิณ เป็นเรื่องดีที่ไปพบกันให้ความหวังประชาชนถึงอนาคต ท้องถิ่นถือเป็นกำลังเสริมให้รัฐบาลทำงานเต็มที่ ส่วนข้อวิจารณ์นายทักษิณเลือกปฏิบัตินั้น ต้องเลือกปฏิบัติหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว จะไปหาเสียงให้พรรคอื่นได้อย่างไร

“หนู” มั่นใจ ภท.ไม่โดนเขี่ยทิ้งแน่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า ยังไม่มีการส่งสัญญาณมาถึงพรรค ภท. ไม่มีการแจ้งอะไรมา ยังทำงานตามปกติ เมื่อถามว่าต้องตรวจการบ้านรัฐมนตรีในพรรคหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต้องทำ ต้องตรวจทุกวันอยู่แล้ว ทุกคนต้องทำงานเต็มที่ เมื่อถามย้ำว่ามีรายงานว่าอาจมีการปรับบางพรรคร่วมออก นายอนุทินตอบยิ้มๆว่า “คงไม่ใช่พรรคผมมั้ง ผมก็ทำงานขนาดนี้ น่ารักแบบนี้”

พท.แทงกั๊กหนุนร่างแก้ รธน.256

ช่วงสายที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาว่า เตรียมขอมติจากที่ประชุมพรรคเพื่อไทยในวันที่ 7 ม.ค. เพื่อผลักดันร่างแก้รัฐธรรมนูญของพรรค ท่าทีพรรค พท.มุ่งเน้นไปที่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นหลัก จะเป็นประโยชน์กว่า เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ของพรรคประชาชนหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่า ยังพูดถึงขนาดนั้นไม่ได้ รอพิจารณาในรัฐสภาก่อน และหากจะพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ควรเปิดโอกาสให้พรรคอื่นร่วมเสนอด้วย แต่จะทันการพิจารณาวันที่ 14-15 ม.ค.หรือไม่ ยังไม่ทราบ ต้องฟังความเห็นแต่ละฝ่ายด้วย

“อังคณา” ชี้ ปชน.เหนื่อยแก้ รธน.

นางอังคณา นีลไพจิตร สว. กล่าวถึงพรรคประชาชนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ให้มี ส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า สนับสนุนเนื้อหาที่พรรคประชาชนเสนอ เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ประเมินแล้ว พรรคประชาชนอาจเหนื่อย เพราะไม่ได้เสียงสนับสนุนจาก สว.ส่วนใหญ่ ขอเรียกร้องไปยังสว.ส่วนใหญ่ให้คำนึงถึงอนาคตประเทศและประชาชน ต้องยอมรับรัฐธรรมนูญปัจจุบันมีปัญหาหลายประการ ควรได้รับการแก้ไขโดย ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ที่ ประเมินว่ามีกระบวนการยืดเยื้อ อาจถูกยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยนั้น ไม่ทราบว่าจะมีฝ่ายใดเป็นผู้ดำเนินการ แต่เมื่อมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว การพิจารณาต้องหยุดไปก่อนจนกว่ามีคำวินิจฉัย

บี้ “ทักษิณ” ขอโทษพูดเหยียดสีผิว

นางอังคณายังกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวเหยียดผู้หญิงผิวสีว่า ขอให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เตือนนายทักษิณในฐานะบิดาให้ระวังคำพูด เนื่องจากการพูดลักษณะเหยียดสีผิวอาจมีผลกระทบกับหลักการของสหประชาชาติได้ แม้นายทักษิณไม่มีตำแหน่งทางบริหาร แต่เป็นที่รู้กันกว้างขวางว่าเป็นผู้มีอิทธิพลของพรรคเพื่อไทย แม้เป็นสิทธินายทักษิณพูดหาเสียง แต่ไม่ได้หมายถึงจะพูดอย่างไรก็ได้ ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ด้อยค่าหรือลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้กรณีดังกล่าวไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว แต่เพื่อเป็นการป้องกัน นายทักษิณควรออกมาขอโทษ

“หมอเปรม” ต้านร่างพรรค ปชน.

ขณะที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กล่าวว่า ขอคัดค้านการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ของ สส.พรรคประชาชน ที่เสนอให้ตัดเงื่อนไขที่ต้องใช้เสียง สว.ร่วมรับรอง 1 ใน 3 ทิ้ง โดยให้ใช้เสียงเห็นชอบจาก สส. 2 ใน 3 แทน เป็นการตัดทอนอำนาจของ สว.ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ อาจเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งระหว่าง 2 สภา ที่สำคัญรัฐธรรมนูญมาตรา 156 บัญญัติชัดเจนให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 ต้องกระทำร่วมกันของรัฐสภา อีกทั้งได้ลงพื้นที่ช่วงปีใหม่พบว่า ประชาชนเดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ทำไมต้องเร่งแก้รัฐธรรมนูญมากกว่าปัญหาปากท้อง

“ราเมศ” ป้อง “ชวน” หลังถูกพาดพิง

นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปราศรัยพาดพิงนายชวนว่าแค้น เพราะแพ้การเลือกตั้งมาตลอดว่าที่นายชวนต่อสู้ไม่ใช่เพราะความแค้นส่วนตัวกับนายทักษิณ แต่เป็นการต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่มีการอ้างประชาธิปไตยเข้าสู่อำนาจ แล้วใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบ และที่นายชวนแพ้เพราะไม่ซื้อเสียง ไม่โกงเลือกตั้ง มีเกียรติยศศักดิ์ศรีมากกว่าคนที่ทนงตนว่าชนะ ถ้าชนะเพราะซื้อเสียงนายชวนไม่เอา ถ้าเป็นนายกฯแล้วมาโกงบ้านโกงเมืองก็ไม่เอา ตั้งใจเข้ามาเป็นนักการเมืองเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่มาเพื่อหาประโยชน์

ไทย–Google ผนึกป้องกันภัยไซเบอร์

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องโดมสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายคาราน บาจวา (Karan Bajwa) ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่เข้าเยี่ยมคารวะ และเป็นการต่อยอดความร่วมมือด้านดิจิทัลอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่ที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันเมื่อปี 2566 โดยเฉพาะด้านความมั่นคงไซเบอร์และปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ยินดีที่ Google จะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา นายคารานกล่าวว่า Google พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลผ่านการจัดตั้งหน่วยงานส่งเสริมบทบาทสำคัญในการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศที่สำคัญของประเทศ ขณะที่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จะมอบหมายให้กระทรวงดีอี หารือกับ Google เพื่อยกระดับความสามารถด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ปกป้องประชาชนไทยจากการถูกหลอกลวงในทุกกรณี

ย้ำรัฐบาลหนุนทุนศึกษาทุกพื้นที่

ต่อมาเวลา 15.00 น. คณะผู้แทนเยาวชนไทยที่เข้าร่วมโครงการ APEC Voices of the Future 2024 ประกอบด้วยนายกรวิชญ ปราสาททองโอสถ น.ส.ณัฐณิชา ธีระเกียรติกาจร น.ส.ชฎามุก มหิทธิวาณิชชา และ ร.ต.จีรวุฒิ ชวนะประยูร ผู้นำทีมเยาวชน เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เคยพบกันในที่ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก (APEC) ที่ประเทศเปรูเมื่อปี 2567 หวังว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเข้าร่วมโครงการ ขอให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในด้านการศึกษา ทุนการศึกษา ตามนโยบาย “หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน” หรือ ODOS นำกลับมากระจายทุนการศึกษาให้โอกาสไปถึงทุกพื้นที่ของประเทศ สร้างคนสำหรับอนาคต

แฉตั้ง “เพื่อนเนวิน” สอบเขากระโดง

ที่รัฐสภาเมื่อเวลา 11.30 น. มีการประชุมวุฒิสภา มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามของ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. สอบถาม รมว.มหาดไทย ถึงมาตรการแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ 5,083 ไร่ ที่กรมที่ดินไม่ได้เพิกถอนโฉนดที่ออกโดยมิชอบ ทั้งที่มีคำตัดสินของศาลฎีกา ระบุว่าเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยกรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 มีมติยืนยันไม่สมควรเพิกถอนที่ดินดังกล่าวตามคำพิพากษาศาล พบว่า 1 ในกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 คือ นาย ส. เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตอนลงสมัครรับเลือกตั้งใช้ชื่อว่า “กลุ่มเพื่อนเนวิน” ไม่ทราบว่าเป็นเพื่อนกันจริงหรือไม่ แต่บังเอิญมาเป็นกรรมการชุดนี้ กระทรวงมหาดไทยจะมีมาตรการอย่างไรต่อการเร่งรัดให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ให้เพิกถอนที่เดินเขากระโดง

“อนุทิน” ตีมึนไม่รู้สนิทกันแค่ไหน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ชี้แจงว่า การกล่าวอ้างที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ เป็นของ รฟท.แล้ว เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเป็นคำพิพากษาที่ผูกพันเฉพาะกับราษฎร 35 ราย กับ รฟท.เท่านั้น กรมที่ดินดำเนินการตามคำพิพากษาแล้ว แต่ไม่ได้ครอบคลุมถึงที่ดินเขากระโดงทั้งหมด 5,083 ไร่ การอ้างคำพิพากษายืนยันกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งหมด เป็นการขยายความเกินขอบเขตคำพิพากษา ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 มีการกำหนดว่าให้ตั้งคนในพื้นที่ เช่น นายอำเภอ เป็นคณะกรรมการ จะไปเอาคนอื่นที่อยู่นอกพื้นที่มาเป็นกรรมการไม่ได้ การอ้างถึงนาย ส. มาเป็นกรรมการ ตนไม่รู้จัก ส่วนตระกูลชิดชอบจะรู้จักนาย ส.หรือไม่ เขาก็อาจรู้จักกันเพราะทำการเมืองอยู่ตรงนั้น แต่จะสนิทกันมากน้อยแค่ไหน ไม่ทราบ แต่ตนไม่รู้จักไม่มีความเกี่ยวพันใดๆ ไม่สามารถสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาในเรื่องผิดกฎหมายได้

“ภูมิธรรม” คลำเป้าช่วย 4 ลูกเรือ

วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาขอปล่อยตัว 4 ลูกเรือไทยที่ถูกทางการเมียนมาจับกุมว่า กระทรวงการต่างประเทศ ทหาร ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด กำลังพยายามทำหน้าที่ ซึ่งทางเมียนมาตอบสนองโดยปล่อยคนไทย 151 คน มา ส่วน 4 ลูกเรือเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วน เมื่อถามว่าทั้ง 4 คนต้องรับโทษของเมียนมาก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่ใช่ แต่ต้องให้กระบวนการทำหน้าที่ไป ขณะนี้ยังไม่จบ เรื่องระยะเวลาคงตอบไม่ได้ อาจจบพรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้าก็ได้ อยู่ที่กระบวนการและทางเมียนมาด้วย แต่ละคดีไม่เหมือนกัน เอามาเป็นบรรทัดฐานเหมือนกันไม่ได้ ขอให้รอให้จบก่อน อย่ารู้รายละเอียดมาก เพราะจะทำให้การพูดคุยยากลำบาก

“อิ๊งค์” เปิดทำเนียบต้อนรับวันเด็ก

อีกเรื่อง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทำเนียบรัฐบาลเตรียมจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 วันที่ 11 ม.ค. เพื่อส่งมอบความสุขให้กับเด็กและเยาวชน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะเป็นประธานพิธีเปิดงานและร่วมกิจกรรม รวมทั้งเปิดโอกาสให้น้องๆได้นั่งเก้าอี้นายกฯ เข้าเยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ห้องทำงานนายกฯ และกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และบูรพกษัตริย์ไทย ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทดสอบการอ่านข่าวภาคภาษาไทย และภาคภาษาอังกฤษ สวมบทบาท “โฆษกรัฐบาล...นิวส์จิ๋ว” ที่ตึกนารีสโมสร รวมทั้งกิจกรรมผู้แทนเยาวชนภูมิภาคต่างๆ ร่วมพูดคุยกับนายกฯผ่านระบบซูม ที่ตึกสันติไมตรี และตั้งแต่วันที่ 6-9 ม.ค. ได้จัดกิจกรรมให้เด็กๆ ร่วมส่งข้อความ “อยากบอก #นายกฯแพทองธาร” ผ่าน https://forms.gle/dY8RzbMrPexSsv8j9 ในรูปแบบ อาทิ e-card รูปถ่ายการ์ด คลิป ที่ทุกข้อความจะส่งถึงนายกฯ

กองทัพขนยุทโธปกรณ์โชว์เต็มพิกัด

ทางด้านเหล่าทัพ และหน่วยในสังกัดทั่วประเทศ เตรียมขนอาวุธยุทโธปกรณ์โชว์แบบจัดเต็ม ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ มีแสดงยานพาหนะและยุทโธปกรณ์ การให้ความตระหนักรู้ด้านไซเบอร์ กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินกลาง จัดแสดง รถถังสไตรเกอร์ รถหุ้มเกราะ VN-1 เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนต่อสู้อากาศยาน กองทัพเรือ กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดให้เข้าชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงภูมิพล เรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงช้าง ที่ท่าเรือจุกเสม็ด ที่โรงเรียนนายเรือ จ.สมุทรปราการ มีการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารนาวิกโยธิน อาทิ ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบกแบบ AAV P-7 รถหุ้มเกราะคอมมานโด ฯลฯ ด้านกองทัพอากาศ พื้นที่หลักจัดที่กองบิน 6 ดอนเมือง จัดแสดงการบินภาคเช้า และบ่าย แสดงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่โจมตี gripen จากกองบิน 7 และ F-16 กองบิน 1 AT-6 กองบิน 41 เชียงใหม่

แฮปปี้ร่วมวงหม่ำข้าว ผบ.เหล่าทัพ

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงบรรยากาศการร่วมรับประทานอาหารกับ ผบ.เหล่าทัพเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า การทำงานร่วมกับเหล่าทัพ ไม่เคยไม่ราบรื่น เมื่อถามว่า ผบ.ทอ.รายงานความคืบหน้าการจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่กริพเพนหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เราคุยกันทุกเรื่อง รวมถึงเรื่อง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แค่นั่งกินข้าวก็เป็นข่าวแล้ว แต่ยอมรับว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่คุยเรื่องที่มาที่ไปของ ผบ.เหล่าทัพแต่ละคน คุยสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน ทำให้รู้สึกผูกพันกันมากขึ้น เมื่อถามว่ากองทัพเรือจะเสนอซื้อเรือฟริเกต 2 ลำ ในงบปี 2569 นี้หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ยังไม่เห็น ยังไม่มีเรื่องส่งขึ้นมา ทำจริงหรือไม่ยังไม่รู้ ฟังอะไรมาต้องระมัดระวัง

ฮึ่มผับถ่ายบัตร ปชช.ผิด ก.ม.PDPA

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดีอี กล่าวถึงกรณีสถานบันเทิงย่านบางใหญ่ถ่ายบัตรประชาชนและใบหน้าลูกค้าว่า ตามกฎหมายไม่สามารถทำได้ ถือว่าผิดกฎหมาย PDPA ได้สั่งการให้รักษาการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPC ตรวจสอบและดำเนินการ ขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีแล้วประมาณ 65 คน พร้อมแนะนำให้ประชาชนที่ไปร้านแห่งนี้ไปแจ้งความไว้ แม้จะยังไม่ได้รับความเสียหาย แต่ป้องกันไว้ก่อน เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวจะทำให้เกิดความเสียหายภายหลังได้ หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปว่าสถานบันเทิงดังกล่าวได้ข้อมูลส่วนบุคคลไปมากน้อยแค่ไหน สำหรับโทษของการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปขาย มีโทษร้ายแรง และมีโทษปรับสูง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่