หมดเวลาชาร์จแบตฯเติมพลัง กลับเข้าสู่วงจรชีวิตปกติ

โหมดแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2568 ของคนไทยในช่วงวันหยุดยาวฉลองเทศกาลแห่งความสุขผ่านพ้นไปแล้ว ก็ต้องกลับมาปากกัดตีนถีบ ดิ้นรนทำมาหากินเหมือนเดิม

เช่นเดียวกับสนามการเมืองศักราชใหม่ ปีมะเส็ง ที่ยังต้องฟาดฟันชิงอำนาจกันต่อไป อุณหภูมิการเมืองปี 2568 ส่อร้อนฉ่ายิ่งกว่าปี 2567

ตามฉากทัศน์หลายสังเวียนที่รัฐบาล-ฝ่ายค้านรอประจันหน้าวัดพลังกัน

แต่ที่ต้องเร่งเครื่องหนักเป็นพิเศษตั้งแต่ต้นปีคือ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตรที่ต้องเร่งกู้แต้มแต่หัววัน หลังออกอาการแผ่วปลายท้ายปี 2567

เพลี่ยงพล้ำถูกคู่ปรับ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน เบียดแซงขึ้นอันดับ 1 บุคคลที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ตามผลสำรวจนิด้าโพลในไตรมาส 4

คะแนนนิยมผู้นำฝ่ายค้านกลับมาเปล่งบารมีเหนือผู้นำฝ่ายบริหารอีกครั้ง ขณะที่เรตติ้งค่ายส้มยังคงยืนระยะ มีแต้มเหนือพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง

อาการก้นร้อนอยู่นิ่งไม่ได้ อย่างที่ลูกพรรคเพื่อไทยต้องโร่แก้ต่าง ไม่เสียขวัญผู้นำแต้มร่วง ยกเป็นแค่ธรรมชาติผลโพล มีทั้งนำและตาม

ผลโพลส่งสัญญาณเพื่อไทยเครื่องช็อต ถ้าไม่เร่งสร้างผลงาน อาจเสี่ยงเครื่องยนต์ดับตามมา

ภาคบังคับ “นายกฯอิ๊งค์” ต้องทำงานมือเป็นระวิง เหยียบคันเร่งนโยบายหาเสียงทั้งการแจกเงินหมื่น การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ขึ้นค่าแรง 400 บาท ทั่วประเทศ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

สปีดผลงานโบแดงด่วนจี๋ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ กู้กระแสในยามเพื่อไทยแต้มวูบ

คู่ขนานไปกับอาการนั่งไม่ติดของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ศูนย์กลางอำนาจรัฐบาลตัวจริง ก็ต้องลุยขับเคลื่อน ช่วยปั๊มคะแนนรัฐบาลลูกสาวอีกทาง

...

วางโปรแกรมลงพื้นที่รุกหนักภาคอีสาน ภาคเหนือ จ่อเดินสายช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทยหาเสียงศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ต้นเดือน ก.พ.นี้

บุกตีท้ายครัวบ้านใหญ่เครือข่ายพรรคร่วมรัฐบาลหลายพื้นที่ให้กลับมาอยู่ในมือมากที่สุด ใช้กระแสบ้านใหญ่เป็นทางลัด ฟื้นความยิ่งใหญ่ ยึดครองความเป็นเจ้าสนามนายก อบจ.

เดิมพันเฉพาะหน้า ชี้วัดบารมีนายใหญ่ ที่ต้องขับเคี่ยวสู้กับกระแสพายุสีส้มพรรคประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล บทพิสูจน์เบื้องต้นเลือกตั้งสนามเล็ก เรตติ้งค่ายเพื่อไทยจะกู่กลับหรือไม่

งานนี้เพื่อไทยเป่าปากเหนื่อยหนัก เลือกนายก อบจ.ตั้งแต่ต้นปี ตามสถานการณ์ที่จ่อปะทะหนักต่อเนื่องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่คาดการณ์จะเปิดศึกลับฝีปากเดือน มี.ค.

เวทีที่พรรคประชาชนชักธงรบเต็มที่ โจทย์ใหญ่หัวหน้าค่ายส้มคนใหม่ต้องรีบโชว์ศักยภาพ ลบฉายา “เท้งเต้ง”

สังเวียนที่พรรคเพื่อไทยประมาทไม่ได้ แม้จะชนะโหวตในสภา แต่อาจค้านสายตาคนดู สถานการณ์ที่เสียงในสภา เทียบไม่ได้กับศรัทธาประชาชน

จำเป็นที่ “นายกฯอิ๊งค์” และ ครม.ต้องชี้แจงให้เคลียร์ หากเพลี่ยงพล้ำซ้ำซาก ก็ยิ่งลำบากยาว

เส้นทางรัฐบาลที่ลากเข้าสู่ช่วงกลางเทอม ตามธรรมชาติต้องเผชิญแรงเสียดทาน จากการแบกความหวังประชาชน มีแรงกดดันหนักขึ้น สวนทางกับภูมิคุ้มกันรัฐบาลที่ลดต่ำลง

ขณะที่ประเด็นอันตรายต่อรัฐบาล อาทิ กรณีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เอ็มโอยู 44 ไทย-กัมพูชา จะถูกเติมฟืนใส่กองไฟ โหมหัวเชื้อเรื่องความเหลื่อมล้ำกระบวนการยุติธรรม ปมรักชาติ ให้ลุกลามหนักขึ้น

โหมดเร้าความรู้สึกประชาชนให้ชิงชังรัฐบาลโดนปลุกระดมหนัก บั่นทอนความเชื่อมั่นฝ่ายบริหาร รอจังหวะสุกงอมให้ฝ่ายแค้น หัวโจกม็อบสารพัดสี พามวลชนลงถนนขยี้รัฐบาลอีกทาง

รัฐบาลโดนระดมปาหินใส่ทุกทิศ ไม่ใช่แค่ต้องระวังฝ่ายค้าน

ฝ่ายแค้น แต่ยังต้องระแวงพรรคร่วมรัฐบาลควบคู่ไปด้วย ปรากฏการณ์ชิงไหวชิงพริบ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ยังต้องตบๆจูบๆ วัดพลังต่อเนื่องทั้งเกมในสภา การเลือกตั้งท้องถิ่น ต่างฝ่ายต่างดักจังหวะ ช่วงชิงความได้เปรียบ สร้างอำนาจต่อรองทางการเมือง

แนวโน้มเสถียรภาพรัฐบาลทรงๆทรุดๆ โจทย์หินที่รัฐบาลต้องรู้จักจัดลำดับความเร่งด่วนการทำงาน มุ่งให้ความสำคัญปมปากท้องประชาชน กู้ความรู้สึกชาวบ้านสำคัญมากกว่าการช่วงชิงผลประโยชน์การเมือง

ด่านหินตั้งตระหง่านตลอดปี 2568 จู่โจมพ่อ–ลูกเหนื่อยหนัก ต้องรีบกู้แต้มมือเป็นระวิง.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม