พิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ว่าจะมีบารมีเต็มพิกัดเหมือนเดิมหรือไม่ แม้ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่อุดรฯ และอุบลฯมาแล้วก็ตาม

แต่สนามสำคัญต่อเชียงใหม่ซึ่งจะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภาจังหวัดในวันที่ 1 ก.พ.2568

คือสนามวัด “บารมี”!

เชียงใหม่นั้นคือบ้านเกิดของ “ทักษิณ” และครอบครัวของเขาที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 4 คน ไล่เรียงกัน

“แพทองธาร ชินวัตร” คือนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

ที่ต้องการเสียงสนับสนุนทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อจะได้เป็นผู้นำประเทศ รักษาอำนาจให้ยืนยาวต่อไปอย่างไม่มีกำหนด

การเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมาสนามเลือกตั้งเชียงใหม่ได้สร้างความรู้สึกเสียหน้าเสียตาไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เพราะพรรคเพื่อไทยได้ สส.เพียง 2 คน 2 เขตเท่านั้น

ปรากฏว่าพรรคก้าวไกล (ประชาชนในปัจจุบัน) กวาดไปทั้งหมด 7 คน 7 เขตอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นมาแล้ว

จึงไม่แปลกที่ “ทักษิณ” และ “เพื่อไทย” จะต้องกู้หน้าให้ได้

“ทักษิณ” ไปเชียงใหม่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยได้ประกาศว่าจะต้องชนะเลือกตั้ง

และขอให้ชาวเชียงใหม่เลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะเลือกตั้งได้ สส.ครบทุกเขต

นี่เป็นคำประกาศที่มีนัยสำคัญยิ่ง!

ก่อนถึงวันเลือกตั้ง “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทยได้วางโปรแกรมการหาเสียงด้วยการลงพื้นที่ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสานที่ต้องการชนะเช่นกัน

เพราะต้องการที่จะปักธงหวังผลชนะเลือกตั้งใหญ่ในปี 2570ด้วย

แต่สนามเชียงใหม่ถือว่าสำคัญที่สุดแบบว่าแพ้ไม่ได้ ฉะนั้นจึงต้องทุ่มเททุ่มทุนเป็นพิเศษ เพราะคู่ต่อสู้ก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน

...

เนื่องจากมี สส.ถึง 7 คน ทำให้ฐานเสียงแข็งแกร่งไม่น้อย อีกทั้งพรรคประชาชนก็มุ่งหวังว่าพวกเขามีโอกาสที่จะชนะเลือกตั้งได้เช่นกัน

หลังจากที่ผู้สมัครในจังหวัดที่ส่งเข้าประกวดยังไม่สามารถที่จะชนะได้แม้แต่คนเดียว เพียงแต่มีข้อดีตรงที่คะแนนจากผลการเลือกตั้งสูงขึ้น อันแสดงให้เห็นว่าพรรคนี้ประชาชนให้การสนับสนุนมากขึ้น

แม้จะไม่ชนะแต่ก็ทำให้พรรคอื่นหวั่นไหวได้ไม่น้อย

หากพวกเขาชนะเลือกตั้งที่เชียงใหม่ได้ก็เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว

คือยึดพื้นที่เชียงใหม่เอาไว้ได้...

และหักหน้า “ทักษิณ” ที่ไม่สามารถรักษาพื้นที่บ้านเกิดของตัวเองได้

ว่าไปแล้วที่เชียงใหม่นี้แวดวงการเมืองต่างก็ให้ความสนใจกันมากก็เพราะจะเป็นพื้นที่ที่แข่งขันเข้มข้นและดุเดือดมากกว่าที่อื่น

เพราะเป็นการแข่งขันที่มีเดิมพันสูง

และยังเป็นตัวชี้วัดการเลือกตั้งใหญ่อีกด้วย

แน่นอนว่า “ทักษิณ” คงต้องทุ่มสุดตัวเพราะแพ้ไม่ได้ หากแพ้ก็เท่ากับว่าอำนาจบารมีของเขาไม่ได้เบ่งบานอย่างที่พยายามแสดงออก

เป็นเพียงภาพ “ลวงตา” เท่านั้น

เพราะพื้นที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวเองแท้ๆยังพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ป่วยการที่จะพูดถึงจังหวัดอื่นหรือพื้นที่อื่น

1 ก.พ.68 จะเป็นการพิสูจน์ความจริงอีกครั้งหนึ่ง!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม