สวัสดีปีใหม่ 2568 ครับ...
ปีมะเส็ง (งูเล็ก) แต่พิษรอบตัวจึงบอกกล่าวไปถึงผู้มีอำนาจและบริวารอย่าประมาท หลงเพลินอาจอวสานเอาได้ง่ายๆ
การเมืองนั้นไม่มีอะไรแน่นอนเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาที่บอกว่ามั่นคงๆนั้นพูดได้ แต่ความเป็นจริง
พร้อมจะเกิด “อุบัติเหตุ” ได้ตลอดเวลา...
ผู้มีอำนาจนอกรัฐบาลที่อวดบารมีข้ามปีว่าจะส่งกองกำลังไปปราบปรามมิจฉาชีพในประเทศเพื่อนบ้าน
อีกทั้งได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนปี 2568 เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว ได้มีพูดคุยกันไปรอบหนึ่งแล้วว่าจะแก้ไขปัญหาเมียนมา 1 ในประเทศสมาชิกอาเซียน
และจะผนึกกำลังเพื่อให้ 10 ชาติสมาชิกอาเซียนสามัคคีกลมเกลียวเพื่อมีพลังที่จะทำให้สมาชิกอาเซียนซึ่งมีประชากรราว 500 ล้านกว่าคน
มีความเข้มแข็งสามารถที่จะมีอำนาจต่อรองกับบรรดาชาติใหญ่และมีพลานุภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก็เป็นเรื่องดีและน่าสนับสนุน!
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องหันกลับมามองประเทศตัวเองด้วยว่า รั้วรอบขอบชิดของเราเองนั้นเข้มแข็งมั่งคงแล้วหรือยัง
ก่อนที่จะไปคิดการใหญ่ในเรื่องอื่นๆ
วันนี้ประเทศเราเองยังมีปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยังต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ประชาชนคนไทยยังรอความหวังอยู่...
อีกทั้ง 20 ม.ค.68 นี้ สหรัฐอเมริกาประเทศมหาอำนาจโลกจะมีพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของ “โดนัลด์ ทรัมป์”
ที่ได้ประกาศนโยบายของเขา “อเมริกาต้องมาก่อน” ซึ่งจะทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการสงคราม
จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ดี
นั่นคือการประกาศสงครามเศรษฐกิจ ที่ชัดๆคือการตั้งกำแพงภาษีสูงขึ้นไม่ว่าประเทศไหนก็ตามที่ส่งสินค้าไปขายในสหรัฐอเมริกา
...
เน้นย้ำไปที่ “จีน” ได้กำหนดเอาไว้ 60%
นอกจากนั้น จะยุติสงครามที่ยูเครนและในตะวันออกกลาง ซึ่งมีการปูทางล่วงหน้าเอาไว้แล้ว แต่จะหันมาเปิดสนามรบในพื้นที่อินโด-แปซิฟิกแทนเพื่อปิดล้อมจีนโดยตรง
นั่นแหละไทยและอาเซียนจะต้องเจอกับสถานการณ์ใหม่ๆ อีกครั้ง เพราะสหรัฐฯคงจะต้องกดดันให้เลือกข้างและใช้พื้นที่เพื่อปฏิบัติการทุกรูปแบบ
ประเทศในกลุ่มอาเซียนนั้นที่ชัดเจนคือ เมียนมา กัมพูชา ที่อยู่ตรงข้ามชัดเจน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์นั้นคือพวกเดียวกับสหรัฐฯ
เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซียนั้นวันนี้มุ่งเน้นไปที่การค้าและการลงทุน แต่ถึงที่สุดแล้วคงไม่ชอบสหรัฐฯเท่าใดนักถ้าถึงเวลาที่จะต้องเลือกข้าง
“ไทย” นั้นมีความสัมพันธ์แนบแน่นทั้งสหรัฐฯและจีน อีกทั้ง สภาพภูมิศาสตร์ของประเทศก็อยู่ในจุดที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ
“สหรัฐฯ-จีน” จึงต้องการให้ไทยสนับสนุน
นี่แหละที่รัฐบาลจะต้องดำเนินนโยบายที่ชาญฉลาดเพราะจะได้รับแรงกดดันอย่างแน่นอนไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม
หากสถานการณ์ของ 2 มหาอำนาจตึงเครียดและเข้มข้น “ไทย” ก็ยิ่งจะถูกกดดันจากทั้ง 2 ฝ่ายมากขึ้นไปด้วย
ความเป็นไปต่างๆเหล่านี้จึงต้องทำการบ้านล่วงหน้าเอาไว้ได้เลย!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม