“รองนายกฯ อนุทิน” สั่งกำชับผู้ว่าทั่วประเทศ ตรวจเข้มที่พัก รับปีใหม่ ป้องกันความสูญเสียซ้ำ พร้อมเร่งสอบสาเหตุไฟไหม้โรงแรมย่านข้าวสาร ยัน มหาดไทยยุค “มท.หนู” เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีเดินแตกแถว รมต.-บิ๊กมท. สุมหัวลงพื้นที่ตะลุยแก้ปัญหาประชาชน

วันที่ 30 ธ.ค. 2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้รับรายงานเหตุเพลิงไหม้โรงแรมบริเวณถนนตานี เขตพระนคร กทม. และได้มีข้อสั่งการให้กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสอบสวนหาสาเหตุ และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเข้มงวด เนื่องจากได้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ และอาจกระทบต่อการท่องเที่ยวเนื่องจากโรงแรมที่เกิดเหตุตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญซึ่งเป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างถนนข้าวสาร

พร้อมกันนี้ นายอนุทินได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินการตรวจสอบด้านความปลอดภัยของโรงแรมที่พัก ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิงต่างๆ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงของเทศกาลปีใหม่ที่ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินทางท่องเที่ยว มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก ดูแลให้โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ในสภาพที่มีความพร้อม ปลอดภัย ทั้งในส่วนของโครงสร้างตัวอาคาร ทางเข้า-ออก ระบบไฟฟ้า แผนการรับมือเมื่อเกิดเหตุต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำจนนำไปสู่ความสูญเสีย

“มท.1 ให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งสอบสวนถึงสาเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัย เป็นอุบัติเหตุ หรือความประมาท เจ้าของสถานที่ได้ดูแลป้องกันเหตุตามกฎหมาย หรือมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ และดำเนินตามกฎหมายอย่างเข้มงวด ต้องแสดงให้เห็นว่าทางการมีกฎหมายดูแลเรื่องความปลอดภัยที่ชัดเจนที่ผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

...

มหาดไทยยุค “มท.หนู” เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีเดินแตกแถว

วันเดียวกัน นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีการทำงานของกระทรวงมหาดไทยตลอดในปี 2567 ที่สลายขั้วอำนาจเดิมในกระทรวงได้หรือไม่ว่า ยืนยันไม่เคยมีปัญหากับใคร อาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่งานไม่เคยเสีย ต่อให้มีความเห็นไม่ตรงกัน ระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายประจำ แต่งานบริการประชาชนยัง 100% ตรงนี้อย่าไปกังวล ระบบดีเราทำงานที่ระบบไม่ใช่ตัวบุคคล ตนตอบอย่างนี้ไม่พอใจหรือไม่ เมื่อถามถึงสลายขั้วอำนาจเก่าในกระทรวงมหาดไทยได้เรียบร้อย นายอนุทินตอบว่า อำนาจเก่าคืออะไร สื่อจึงตอบกลับว่า อำนาจเก่า คนเก่า นโยบายเก่า ที่วางไว้ นายอนุทินตอบกลับ โดยได้ยกตัวอย่างถึง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมต่างๆ ในขณะนี้ ก็เป็นคนเก่าในกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด เพียงแต่ต่อให้เป็นปลัดเก่าหรือปลัดใหม่ ถ้าตนสั่งการ หรือมีนโยบายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ไม่ต้องทำ แต่ถ้าชอบด้วยกฎหมายที่เป็นประโยชน์ ก็ต้องทำ ใครไม่ทำก็ต้องมีความผิด

เมื่อถามว่า ในยุคต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานแบบเกียร์ว่างอีกใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ตอนนี้ เข้าเกียร์ 5 คว้าเกียร์ 6 ยกเกียร์ 7 เสร็จเกียร์ 8 เกียร์ 9 เข้าเกียร์ 10 ทุกอย่างมีความชัดเจน ทุกคนพิสูจน์ให้สังคมเห็นเข้ามาร่วมกันทำงานให้กับประชาชนและประเทศชาติ เมื่อถามว่าการทำงานของกระทรวงมหาดไทยจะไม่มีแตกแถวใช่หรือไม่และหากแตกแถวจะทำอย่างไร นายอนุทินตอบว่า มันจะไม่มีด้วยวิธีการทำงานของตน มีแต่คนมาเข้าแถวเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าสนุกและเห็นๆ อยู่ว่า ตนไม่ได้สนุกคนเดียว แต่ทุกคนสนุกไปด้วย ทุกคนได้เห็นชาวบ้าน ได้เห็นประชาชน ได้เห็นความทุกข์ ได้เห็นความสุข ได้เห็นน้ำตา ได้เห็นรอยยิ้ม ของพวกนี้เวลาทำงานไปเรื่อยๆ ก็เข้าไปในจิตสำนึกของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกคน กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่ราชการระดับสูงต้องสุมหัวลงพื้นที่ด้วยกัน เวลาตนลงพื้นที่ต้องมีปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีไปด้วย จะได้ไม่ต้องสั่งการด้วยตนเอง มีการดำเนินการสั่งการในสายงาน ไปด้วยความเรียบร้อย มีผลงานออกมาตลอด ดังนั้น แตกแถว นับจากวันนี้เป็นต้นไปก็คงไม่มีและคงไม่น่าจะกล้าด้วย