“รองนายกฯ ภูมิธรรม” เอาจริง 6 เดือน แก้ยาเสพติดต้องจบ เผย 20 ม.ค. 68 เรียกประชุม 76 สถานีตำรวจ-51 นายอำเภอ ซีลสกัดแนวชายแดน ฮึ่มไม่ดีขึ้น ผู้กำกับ-นายอำเภอ ต้องสมัครใจรับผิดชอบ หากทำดีต้องได้รับคุณ
วันที่ 29 ธ.ค. 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดว่า ตนได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องยาเสพติด จึงคิดว่าต้องแก้ปัญหานี้ให้สำเร็จ เห็นผลในระยะสั้น ซึ่ง 6 เดือนข้างหน้าวางไว้จะทำหลายๆ อย่างให้คืบหน้า ตนคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานทหารที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการป้องกันจากภายนอกเข้ามา ปกติแบบซีลชายแดนที่ทหารทำยังไม่เพียงพอ เนื่องจากชายแดนไทยกว้างขวางและยาวมาก มีเส้นทางธรรมชาติอีกมากมายที่จะเข้า คิดว่าการร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจฯ ถึงจะสามารถทำได้ผล โดยย่อยอำนาจการควบคุมลงไปคือระดับอำเภอ คือนายอำเภอ ระดับสถานีตำรวจ คือผู้กำกับ ซึ่งตนฟังมาจากชาวบ้านว่าถ้าผู้กำกับและนายอำเภอเอาจริงทุกอย่างจะคลี่คลายไปเยอะ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า โดยจากที่ตนคุยเบื้องต้นกับทางกระทรวงมหาดไทย ป.ป.ส. สำนักงานตำรวจฯ คิดว่าเฉพาะหน้าเราน่าจะทำได้ผล ตั้ง KPI ให้ชัดถึงเวลาวัด ตอบได้ว่าไม่มีผล หย่อนยาน ไม่มีประสิทธิภาพ ยาไม่ลดลง ต้องสมัครใจย้าย จึงคิดว่า วันที่ 20 ม.ค. 68 เราจะจัดประชุม 14 จังหวัด 51 อำเภอที่อยู่ชายแดนทั้งหมด จะจัดให้นายอำเภอ 51 อำเภอและสถานีตำรวจ ระดับผู้กำกับ 76 สถานี มาคุยกันที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมอบนโยบาย โดยจะมีนายกฯ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม ผบ.ตร. ป.ป.ส. ตัวแทนกองทัพ คุยบูรณาการร่วมกัน โดยบางอย่างต้องเพิ่มทหารไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยจะซีลชายแดน และซีลอำเภอต่างๆ ด้วย
...
นายภูมิธรรม กล่าวว่า โดยจะเสนอว่า ภายใน 6 เดือนยาเสพติดต้องจบ ให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กำลังหามาตรการอยู่ว่าถ้าวางไว้ 6 เดือน ต้องมี KPI ชี้วัดชัดเจน ถ้าไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนไปในทางดีขึ้น ผู้กำกับ นายอำเภอ ต้องรับผิดชอบ ต้องสมัครใจย้าย ตนเชื่อว่าตีตรงเป้าหมาย ถ้าตรงนี้แก้ไขได้ทุกอย่างดีขึ้นเยอะ เชื่อว่า 6 เดือนคงเห็นอะไรชัดเจนมากขึ้น โดยวันที่ 20 ม.ค. 68 คงจะเห็นรายละเอียด เอานายอำเภอ และผู้กำกับมาเลย ต้องดูแลรับผิดชอบอำเภอจากนี้ไปเกิดอะไรขึ้นที่อำเภอต้องรับผิดชอบถ้าทำให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงก็จะได้คุณ ถ้ามีผลที่ดีขึ้น จะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาได้มาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้นโยบายปราบปรามแบบเด็ดขาดเหมือนกับสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคิดว่ามีการพูดถึงข้อมูลการปราบปรามยาเสพติดสมัยนายทักษิณที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง การฆ่ากันไม่ใช่ว่ารัฐเป็นคนทำ ผู้ค้ายาฆ่ากันเองก็มี ฆ่าตัดตอนตัวเองก็มี เราเองไม่อยากเห็นการใช้ความรุนแรง ต้องระมัดระวัง เราไม่อยากเห็นการทำลายมนุษย์ด้วยกัน เพราะมีกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสินอยู่แล้ว ซึ่งความเด็ดขาดไม่ได้หมายความว่าต้องใช้มาตรการความตายอย่างเดียว ความเด็ดขาดคือเห็นต้องจับ ผิดต้องดำเนินการ ข้าราชการคนไหนเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ต้องจัดการให้ขั้นเด็ดขาด ตนเชื่อว่ายาเสพติดจะหมดไป ถ้าจะมีเกิดขึ้นเรายอมให้มีไม่ได้ เรายอมให้มีเรื่องความตายไม่ได้ ดังนั้น ต้องพยายามหาผู้ทำร้ายที่ออกนอกกระบวนการยุติธรรม และต้องจัดการให้ได้ เชื่อว่าเราจะเด็ดขาดเหมือนที่เคยประสบความสำเร็จในสมัยนายทักษิณ แต่ต้องดูกระบวนการจัดการปัญหาให้รอบคอบ ไม่ให้บานปลาย ส่วนระยะยาว ต้องคิดต่อว่าเสร็จแล้วจะทำอย่างไร ซึ่งทหารต้องเข้าไปช่วยเรื่องศูนย์บำบัด อบรมบ่มเพาะ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ยังต้องคุยกันต่อไป แต่ตอนนี้ต้องให้เกิดการสกัดกันก่อน
เมื่อถามว่า นายทักษิณพูดที่เชียงใหม่ว่ารัฐบาลต้องรับลูก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินนายทักษิณพูดเลย ด้วยความสัตย์จริง คิดตั้งแต่วันเริ่มต้น และคิดหนักขึ้นตั้งแต่นายกฯ มอบว่า ยาเสพติดให้ตนไปดู อันนี้เกิดขึ้นมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับใคร ตนเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยาเสพติดมานั่งคุยกัน และเกิดความคิดจนกระทั่งเกิดรูปแบบนี้ขึ้น