“อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ” เผย ครม. เคาะจ่ายค่าชดเชยที่ดิน “เขื่อนลำปะทาว” จ.ชัยภูมิ แล้ว หลังร่วมชาวบ้านต่อสู้ทวงสิทธิ์นาน 30 ปี ขอบคุณรัฐบาลแทนชาวบ้านที่เห็นถึงความเดือดร้อนไม่ละเลยต่อการรับผิดชอบ
วันที่ 25 ธันวาคม 2567 นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยภูมิ เขต 7 พรรคกล้าธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิแล้ว เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 48,887,840 บาท
โดยเป็นการอนุมัติในหลักการเพื่อจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษในรูปค่าขนย้ายให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ โดยอนุมัติจ่ายเงินค่าชดเชยเป็นกรณีพิเศษกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฯ (ค่าชดเชยฯ) ไร่ละ 32,000 บาท ตามมติคณะกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฯ (คณะกรรมการพิจารณาฯ) ซึ่งประกอบด้วยบัญชีรายชื่อราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฯ จำนวน 4 บัญชี (บัญชีที่ 3, 4, 5 และ 6) จำนวน 131 ราย เนื้อที่รวม 1,691.47 ไร่ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 48,887,840 บาท ปรับเนื้อที่ผลการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศของผู้ที่ครอบครองและทำประโยชน์ของราษฎรที่มีเนื้อที่ไม่ถึง 1 ไร่ ให้ปรับเป็น 1 ไร่ หากมีเนื้อที่เกิน 1 ไร่ให้คิดตามความเป็นจริง
นายอัครแสนคีรี ย้ำว่าครั้งนี้เป็นการจ่ายเงินค่าชดเชย ไร่ละ 32,000 บาท (อัตราเดิม) ให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างกลุ่มที่เหลือ (บัญชีที่ 3 และ 4) และกลุ่มที่คณะกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฯ เห็นควรเพิ่มเติมครั้งนี้ (บัญชีที่ 5 และ 6) จำนวน 131 ราย เนื้อที่รวม 1,691.47 ไร่ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 48,887,840 บาท
...
“ถือเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญของคนชัยภูมิที่ต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์ที่ตนเองพึงมีพึงได้ และได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของภาครัฐมากกว่า 30 ปี ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปรับเรื่องราวร้องทุกข์ ช่วยเจรจากับผู้ชุมนุม หารือในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานหลายครั้ง จนมาถึงวันนี้ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเงินค่าชดเชยแล้ว ผมก็ต้องขอขอบพระคุณนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแทนชาวบ้านที่เห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านและไม่ละเลยต่อการรับผิดชอบ” นายอัครแสนคีรี กล่าว