“นพดล ปัทมะ” แขวะ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ปลุกม็อบลงถนนแค่รถติด ยืนยันรัฐบาลไม่ได้กังวล ซัดฝ่ายคัดค้านเปิดประเด็นใหม่ไปเรื่อย ย้ำงุบงิบเจรจา “ฮุนเซ็น” ไม่ได้
วันที่ 25 ธันวาคม 2567 เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทวงคำตอบการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 44 ว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล แต่อย่าใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดชัง ใช้ความเท็จสร้างกระแสปลุกความเกลียดชังในชาติ รัฐบาลไม่ได้กังวล ถ้าลงถนนอาจจะรถติดนิดหน่อย ข้อห่วงใยที่ยื่นมาให้รัฐบาล 6 ข้อนั้น ชี้แจงได้ทุกข้อ รัฐบาลได้ดำเนินการเรื่องเจรจาอ้างสิทธิทับซ้อนบนไหล่ทวีปต่อเนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต่างก็ใช้เอ็มโอยู 44 นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็ยืนยันชัดเจนเอ็มโอยู 44 ไม่มีปัญหาทำให้ไทยเสียดินแดน ในแง่เนื้อหาเอ็มโอยู 44 ไม่มีอะไรน่ารังเกียจ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายยืนยันชัดเจน เอ็มโอยู 44 ไม่ใช่การยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา จะเชื่อใครระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ หรือหน่วยงานรัฐทั้งกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมเอเชียตะวันออก ที่ยืนยันเอ็มโอยู 44 ไม่ทำให้ไทยเสียสิทธิด้านเขตแดน เพราะเป็นเพียงกรอบเจรจาการคุยกัน จะคุยกันรู้เรื่องหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ฝ่ายที่คัดค้านเอ็มโอยู 44 พยายามเปิดประเด็นใหม่ไปเรื่อย เชื่อมั่นว่า จะไม่ซ้ำรอยกรณีปราสาทพระวิหารในอดีต เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้กัมพูชามีสิทธิพิเศษเหนือไทย
นายนพดล กล่าวย้ำว่า ไม่มีรัฐบาลไทยชุดใดไปยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา เราเห็นตรงกับฝ่ายคัดค้านว่าไม่เห็นด้วยกับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ให้ขีดเส้นใต้ 500 เส้น เราไม่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา เพราะไม่ได้ลากตามกฎหมายระหว่างประเทศ หากถามว่าเรื่องนี้จะงุบงิบแอบทำได้หรือไม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะยกหูโทรศัพท์หาสมเด็จฮุนเซ็น หรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โทร.หานายฮุนมาเหน็ด นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าตกลงเอาอย่างนี้ได้หรือไม่ ยืนยันว่า ทำไม่ได้ เอ็มโอยู 44 จะต้องเจรจาโดยคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคไทย-กัมพูชา (เจทีซี) เท่านั้น ประกอบด้วย ข้าราชการระดับสูง ปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีต่างๆ แอบทำไม่ได้เด็ดขาด ล้านเปอร์เซ็นต์ ต้องผ่านประตู 5 บานคือ ผ่านคณะทำงาน ผ่านคณะอนุเจทีซี ผ่านคณะกรรมการเจทีซี ผ่านครม. และผ่านสภาผู้แทนราษฎร ให้รัฐสภาเห็นชอบ โปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ขอใช้คำพูดแกนนำกลุ่มที่คัดค้านว่า ความจริงมีหนึ่งเดียว ความจริงอยู่ที่นี่ ที่สภา อยู่ที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย อยู่ที่พรรคเพื่อไทย
...