น่าจะได้ข้อสรุปแล้วว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับนายก อบจ. “บ้านใหญ่” ที่มีพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลังอย่างเปิดเผยหรือซ่อนเร้นอำพรางกวาดเรียบ
“บ้านใหม่” อย่างผู้สมัครพรรคประชาชนไม่มีทางโผล่เข้ามาได้
นั่นคงเป็นเพราะอิทธิพลท้องถิ่นยังมีพลังที่เหนือกว่า “อุดมการณ์” ทางการเมืองอย่างที่พรรคประชาชนคาดหวัง
แม้การเลือกตั้งจะยกระดับสูงขึ้นคือการซื้อเสียงแทบจะไม่ปรากฏไม่มีการร้องเรียนในเรื่องนี้ จะว่า กกต. คุมเข้มก็ไม่ใช่
แต่เพราะการเลือกตั้งได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนเกาะติดทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยง
ประเด็นสำคัญคือประชาชนตื่นตัวและไปใช้สิทธิกันมากขึ้น
“กระแส” ขายไม่ออกแต่ความรู้จักมักคุ้นน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ
อีกทั้งการเลือกตั้งระดับนี้ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า คนอยู่ต่างประเทศก็ไม่ได้ลงคะแนน กระแสใหญ่ระดับชาติไม่มี
“คนเก่า–พรรคเก่า” จึงไม่พลาด!
ก็ต้องดูวันที่ 1 ก.พ.2568 เป็นการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศมีทั้งนายก อบจ.ที่เหลืออยู่ และสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) ว่าผลน่าจะออกมาอย่างไร
แต่ก็ไม่น่าจะต่างกันเท่าใด
ที่แน่นอนก็คือพรรคการเมืองใหญ่ก็แบ่งกันไปมากน้อยแล้วแต่ ฐานเสียง และจะมีผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ปี 2570 อย่างแน่นอน
3 พรรคการเมืองที่จะสู้กันอย่างเข้มข้นคือพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน เพราะต่างก็หวังชนะการเลือกตั้ง
เพื่อเป็นแกนนำรัฐบาล...
ในจำนวน 3 พรรคนี้พรรคไหนชนะคงได้เป็นแกนนำรัฐบาลประเด็นก็คือเมื่อพรรคหนึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลแล้วอีก 2 พรรคจะไปทางไหน
สมมติ “ประชาชน” ชนะเลือกตั้งแต่ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง 270 เสียงขึ้นไป อีก 2 พรรค ก็เป็นฝ่ายค้านแต่ถ้าไม่ถึงกึ่งหนึ่งแม้ชนะเลือกตั้ง
...
มีโอกาสที่จะเป็นฝ่ายค้านได้ เพราะอีก 2 พรรคก็จะรวมกันตั้งรัฐบาลแทน
จึงไม่ต้องแปลกใจที่ “ทักษิณ-อนุทิน” จะแสดงไมตรีจิต
ต่อกันอย่างออกหน้าออกตา แม้ภูมิใจไทยจะเห็นต่างกับเพื่อไทยหลายเรื่อง
ลูกพรรคเพื่อไทยอาจจะเคืองขุ่นแต่ไม่ใช่ “ทักษิณ”...
ล่าสุดก็ชวนกันไปออกรอบตีกอล์ฟกันที่สโตนฮิลล์ แม้จะมีปัญหาเรื่องกฎหมายประชามติในสภาสดๆร้อนๆ
ว่าไปแล้ว “ทักษิณ” คงไม่ติดใจเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่าใดเนื่องจากไม่ได้ไม่เสียอะไรนักแม้จะแก้ไขไม่ได้
แต่ก็หาคำตอบชี้แจงไม่ได้
ทว่าประเด็นที่สำคัญกว่าคือจะต้องร่วมรัฐบาลกันต่อไปจนกว่าจะครบวาระ และจะต้องเป็นรัฐบาลให้ได้หลังเลือกตั้ง
ที่สำคัญคือ “ทักษิณ” มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้งเหนือกว่าภูมิใจไทย
“ภูมิใจไทย” ก็คงคิดไม่ต่างกัน แต่ก็หวังว่าการเลือกตั้งจะชนะ “เพื่อไทย” แม้โอกาสจะน้อยแต่ก็ยังพอหวังได้
“สมการ” มันจะลงตัวตั้งแต่วันนี้แล้วคือ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” จับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งและจะมีพรรคเล็กอย่างพรรคกล้าธรรมร่วมด้วยอย่างแน่นอน
ขึ้นอยู่กับว่าต้องการเสียงสนับสนุนระดับไหนที่ทำให้รัฐบาลเกิดความมั่นคง เพราะคงมีพรรคพร้อมเป็นอะไหล่อยู่แล้ว
การเมืองไทยมันก็มีเท่านี้!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม