ซี้ดซ้าด ตามฟอร์มธรรมชาติ “นักข่าวการเมือง” ประจำทำเนียบรัฐบาล
ดุดันไม่เกรงใจใคร ล็อบบี้ยังไงก็ไม่หลุด
ล่าสุดปิด “รังนกกระจอก” จัดคิว “โหวตลับ” ส่งท้ายปี 2567 เปิดฉายา “รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง” สะท้อนภาพความจริง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน ดีเอ็นเอของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ผู้ปกป้อง เลี้ยงดู อุ้มชู ปูทาง จนก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ผู้นำประเทศ
สภาพเป็นเหตุเป็นผลโยงมาถึงภาพจำของนายกฯแพทองธาร ที่ได้รับฉายา “แพทองโพย” ผู้นำหญิงอายุน้อย ด้อยประสบการณ์ ต้องอาศัยอ่านโพยในไอแพด ระหว่างพบปะหารือผู้นำนานาชาติ
หรือแม้แต่การยกไอแพด แถลงข่าวการระบายน้ำภาคเหนือลงสู่แม่น้ำโขง
ภาพจริงในสายตาสื่อมืออาชีพ ยกเมฆกันไม่ได้เหมือนโพลรายวัน
พ่วงด้วยวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้” ทำคนสะตอร้อง “พันพรือ” ผู้นำหญิงแสดงตัวเป็น “สะใภ้เมืองคอน” ตอบโต้เสียงวิจารณ์ละเลยปัญหาน้ำท่วมภาคใต้
พ่อคิด ลูกทำ ตอกย้ำภาพจำผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน สภารังนกกระจอกทำเนียบรัฐบาล จัดหนัก จัดเต็ม ตามฟอร์มสื่อมืออาชีพ แบบไม่สนรอยยิ้ม “มินิฮาร์ต” ของนายกฯแม่ลูกอ่อน
ถ้าเป็นยุคพ่อ มีงอน หนีไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าวหลายวัน
แต่เชื่อว่า “นายกฯอิ๊งค์” จะฝืนยิ้มรับกับฉายาที่สื่อทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ นั่นก็เพราะ “เนียนตามเนื้อผ้า” อีกทั้งเมื่อเทียบกับรัฐมนตรี แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้รับฉายาสะท้อน “กระจกเงา” เห็นตัวตนแท้จริง ในสายตานักข่าวทำเนียบฯมองทะลุล่อนจ้อนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
...
เพิ่มเติมคือบท “ลูกกระจ๊อก” ของ “นายใหญ่”
ไล่ตั้งแต่ “ทวีไอพี” เล่นคำสมาสชื่อสนธิกับวีรกรรมของ “จอมหน้านิ่ง” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่มีผลงานอยู่เบื้องหลังภารกิจส่ง “นายใหญ่” ขึ้นชั้น 14 ครองเตียงวีไอพีโรงพยาบาลตำรวจ ให้สิทธิอภิสิทธิ์ชนเหนือผู้ต้องขังทั่วไป
เข้าตาประมุขจันทร์ส่องหล้า แต่ขัดสายตาคนทั่วประเทศ
อีกคนที่เขินหนักเลยก็คือ “เสี่ยต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับฉายา “ประชาธิเป๋” ตามผลงานนำพรรคเข้าร่วมรัฐบาลกับคู่อาฆาตค่ายเพื่อไทย สวามิภักดิ์ “ทักษิณ” เสาไฟฟ้าโดนถอน หลักการแน่นๆกลายเป็นไม้หลักปักเลน
อาการเดียวกับ “เสี่ยขิง” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการค่ายรวมไทยสร้างชาติ “ลูกเลี้ยงลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขาใหญ่ม็อบ กปปส. ที่พลิกร่วมหอจูบปากกับคู่แค้นอย่าง “ทักษิณ”
“นกหวีด” ติดคอกระอักกระอ่วน กับฉายา “รวม (เพื่อ) ไทยอ้างชาติ”
มันคือ “ราคาที่ต้องจ่าย” กับสภาพการเมืองเพี้ยนๆ “ไอโอ” ตบตากองเชียร์ได้ แต่ไม่อาจหลอกนักข่าวทำเนียบฯที่เป็นกระจกเงาสะท้อน
ถึงจุดภาพจำที่สภารังนกกระจอกประทับเข้าเนื้อ กู้เครดิตคืนลำบาก
แต่สำหรับ “เสี่ยขิง-เสี่ยต่อ” คงจะไม่ฝืนลากต้นทุนหน้าตักคืนให้เหนื่อย ตามสภาพของพวก “อยู่เป็น” ตอนนี้ซูฮก “นายใหญ่” เต็มตัวและหัวใจ รีบรายงานตัว แสดงตนไม่ใช่ “อีแอบ” ที่กำลังโดนเขม่น
คนน่าห่วงใยสุดๆ ส่อจะเจ๊งหนัก เสียหายทั้งขึ้นทั้งล่อง ก็คือ “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าค่ายรวมไทยสร้างชาติ กับบท “คุณชายผู้จองหอง”
ที่นักข่าวทำเนียบฯมอบฉายาสั้นๆแต่แสบลึก “พีระพัง”
ประกอบคำอธิบาย ลงทุนพังอุดมการณ์จากพรรคขั้วตรงข้ามระบอบ “ทักษิณ” ตกลงปลงใจจับมือตั้งรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” ถูกคาดหวังจากการตีปี๊บเข้ามาพังทลายโครงสร้างภาษี ทุบราคาน้ำมัน หั่นราคาไฟฟ้า แต่ถึงตรงนี้ผ่านมา 2 นายกฯ ยังไม่มีอะไรจับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอัน
หันไปการบริหารเกมอำนาจการเมืองในค่ายรวมไทยสร้างชาติ ก็กำลังจะพัง จากการหักดิบกับ “สปอนเซอร์ใหญ่” ขัดลำนโยบาย
และที่สื่อทำเนียบฯ ไม่ได้ระบุในคำอธิบาย เพราะเพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ตามแนวโน้มก๊วนกอล์ฟโคตรวีไอพี “ทักษิณ–เสี่ยหนู” ออกรอบร่วมกับ “เสี่ยกลาง” นายสารัชถ์ รัตนาวะดี บอสใหญ่กลุ่มพลังงานยักษ์ “เดอะเอ้” นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ซีอีโอใหญ่กลุ่ม ปตท. โชว์ควบแน่นขุมข่ายอำนาจกลุ่มทุนการเมือง
ตามท้องเรื่อง โยงสัญญาณเข้มการเวนคืนสัมปทานเก้าอี้ รมว.พลังงาน
“พีระพันธุ์” ส่อเค้าเป็น “พีระพัง” เข้าไปทุกขณะ.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม