“ทักษิณ” บอก ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ “อนุทิน” ลั่น หลังจากนี้ไม่มีปัญหา “อิ๊งค์-เสี่ยหนู” ทำงานร่วมกันได้ ขิงกลับ “พิธา” เลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยเหมา สส.เชียงใหม่ เผยรอยืนยันพบ “อันวาร์” ในฝั่งไทย

เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ร้านอาหารลิ้มเหล่าโหงว จ.เชียงใหม่ ถึงกรณีปรากฏภาพตีกอล์ฟร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ว่า สนุกดี แต่ตนไม่ค่อยได้ตี ก็จะตีโดนบ้าง ไม่โดนบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามต่อ เป็นการสยบคำว่าอีแอบหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ นายสารัชถ์ เป็นคนเชิญไป ไม่มีนักการเมือง แต่นายอนุทิน เป็นเพื่อนนายสารัชถ์ มา 20 ปี จึงชวนนายอนุทินไปในฐานะเพื่อน นายอนุทิน จึงได้ไป ปรากฏว่าไม่มีนักการเมือง แต่มีประเด็นการเมืองเยอะ เพราะเมื่อมีการส่งรูปออกไปก็มีสื่อนำไปตีเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีอะไร

...

ส่วนคำถามว่า นายสารัชถ์ เป็นคนกลางสมชื่อเลยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่รู้ เขาซ้ายขวาหรือไม่” เมื่อถามต่อไปว่าเคลียร์ใจกับนายอนุทินอย่างไร นายทักษิณ ตอบว่า “ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ กติกาง่ายนิดเดียว คนเราเมื่ออยู่ร่วมกัน ก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน จบ”

ขณะที่คำถามย้ำว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการตีความว่าระหว่างพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กับพรรคเพื่อไทย (พท.) อาจจะมีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันหลายเรื่อง นายทักษิณ ระบุว่า เท่าที่ดูไม่น่ามีอะไรมาก เป็นเรื่องธรรมดา ลิ้นกับฟันบางครั้งก็กัดโดนกันบ้างเป็นธรรมดา ส่วนที่ร้องเพลงคนไม่สำคัญนั้น เป็นเพลงเก่งของตน ร้องมานานแล้ว นึกเพลงใหม่ๆ ไม่ออก มีแต่เพลงเก่าๆ คนโบราณ ทางด้านคำถามว่าเคลียร์กันแล้วหลังจากนี้รัฐบาลไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกันแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า ไม่น่าจะมีอะไร เพราะนายอนุทินกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ทำงานด้วยกันได้

นายทักษิณ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้กับ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ว่า ดูแล้วน่าจะชนะ อย่างน้อยคน จ.เชียงใหม่ จะสนับสนุน เพราะตนกลับมาแล้ว ซึ่งคนเชียงใหม่ก็คงคิดว่าจะใช้งานตนแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่าสมัยพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ สส.เชียงใหม่ ถึง 7 ที่นั่งนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า การเลือกตั้งหน้า พรรคเพื่อไทย (พท.) น่าจะได้ สส. 10 ที่นั่ง สื่อมวลชนถามต่อไปว่า ไม่ได้หมายความว่า จ.เชียงใหม่ เปลี่ยนไปแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ บอก มั่นใจว่าความนิยมของคนเชียงใหม่เปลี่ยนแล้ว เปลี่ยนมาพรรคเพื่อไทยหมดแล้ว ขอขิงแข่งกันบ้าง

สำหรับการกลับมา จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ เพื่อมากอบกู้เอกราชให้พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายทักษิณ หัวเราะก่อนกล่าวว่า อยู่ที่พี่น้องชาวเชียงใหม่ เชื่อว่าคนเชียงใหม่จะคืน สส. ให้เรา และจะให้เป็นนายก อบจ. อีกหนึ่งสมัยได้ทำงานเต็มที่ ส่วนจะไปช่วยหาเสียงทุกที่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตรงไหนที่เขาจ้างวันละ 300 บาท ตนก็ไป ถือเป็นการหารายได้พิเศษ

ทั้งนี้ หากดูจากสถิติหรือคะแนนของการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2566 ที่ผ่านมา กับคะแนนที่จะได้ในปีนี้ จะมีความแตกต่างกันหรือไม่ นายทักษิณ เผยว่า ไม่มีอะไร เพราะการสื่อสารกับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนก็รู้ว่าอะไรดี อะไรควร หรืออะไรจะเป็นการตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อเขาโดยตรง โดยเฉพาะคนเชียงใหม่ เชื่อว่าคราวหน้าการเมืองจะเปลี่ยนกลับมาที่พรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ นายทักษิณ ได้กล่าวถึงการจะพบกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วันที่ 26 ธันวาคม 2567 หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ ว่า กำลังรอการยืนยันอยู่ แต่เป็นการพบกันในฝั่งไทย ไม่ได้ข้ามไป เมื่อถามถึงเรื่องมีการมองว่าในระดับอาเซียนอาจจะมีอะไรออกมา ได้เตรียมความพร้อมไว้อย่างไรบ้างในการเป็นที่ปรึกษา นายทักษิณ ตอบว่า ก็คงจะต้องคิดในเรื่องของยุทธศาสตร์ร่วมกันของอาเซียน เพราะระยะหลังอาเซียนก็มักจะพูดของใครของมัน ไม่มียุทธศาสตร์ของอาเซียน ซึ่งอาเซียนควรจะรวมพลังกัน เพราะเรามีประชากร 700 ล้านคน ถ้าเรารวมกันให้แข็งแรง มันก็เหมือนเป็นประเทศใหญ่ๆ เหมือนกัน จะทำให้มีการต่อรองทางการค้า ซึ่งช่วงนี้สงครามทางการค้าก็หนักขึ้นทุกวัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามในช่วงท้ายว่าเป็นผลดีกับประเทศไทยด้วยใช่ไหม นายทักษิณ กล่าวว่า “แน่นอนครับ ประเทศไทยเป็นประเทศหลัก เป็นเศรษฐกิจหลักเป็นอันดับสองของอาเซียนอยู่แล้ว”