ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ เสียง ร้องจากฝ่ายค้านที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี หลบฉากไม่ยอมเข้าสภาเพื่อตอบกระทู้นั้น เรียกร้องให้ปากแตกก็ไม่มีทางไป
เพราะการเข้าไปตอบกระทู้ในสภานั้นนึกภาพดูก็คงจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะคงถูกรุมทึ้งรุมถล่มเหมือนได้เจอเหยื่อรายใหม่แน่
ปกติตั้งแต่เริ่มเข้าบริหารประเทศก็คงเห็นแล้วว่าช่วงไหนหลบได้เป็นหลบช่วงไหนพร้อมค่อยเดินหน้าสู้
การเข้าสภาเพื่อตอบกระทู้นั้นไม่มีกฎหมายห้ามว่าต้องไป ดังนั้นรัฐมนตรีคนไหนไม่ไปก็ไม่เป็นไร เพียงแต่ต้องอุดหูฟังเสียงนินทาค่อนแคะ
ก็เท่านั้น...
รัฐมนตรีที่อ่อนพรรษามักจะหลีกเลี่ยงมีแค่พวกแก่พรรษาเท่านั้นที่พร้อมเข้าไปเผชิญ รัฐมนตรีหลายคนต่างก็หลบเลี่ยง
จนกว่าจะแก่กล้าขึ้นก็ต้องใช้เวลาฝึกฝนพูดให้คล่องตอบโต้ด้วยไหวพริบและปฏิภาณและมีทีมงานช่วยประคับประคอง
“อิ๊งค์” วันนี้จึงทำได้แค่ตอบนักข่าวได้เท่านั้น เพราะจะตอบหรือไม่ตอบก็ได้เพียงแต่หลีกเลี่ยงให้ดีเท่านั้น
ก็คงจะต้องฝึกฝนและผ่านประสบ การณ์มากกว่าสักหน่อย
ถึงตอนนั้นค่อยมาว่าอีกที...
นี่เป็นอะไรที่เป็นปกติแม้จะถูกเสียดสีทำนองว่าไม่มีภาวะผู้นำก็ว่ากันไป เพราะสามารถที่จะได้แสดงบทบาททางอื่นก็ได้
พรรคการเมืองเกิดใหม่อีกพรรคหนึ่ง คือ “กล้าธรรม” ที่ทำท่าจะโตไวใจคะนอง แม้จะมีหัวหน้าพรรคเป็นผู้หญิงที่เพิ่งเข้าสู่สนามการเมืองได้ไม่กี่ปี
ทำไมจึงสร้างพรรคให้โตเร็ว วันนี้มี สส. 20 กว่า และมีอนาคตแน่ๆ
ก็เพราะพรรคนี้เจ้าของตัวจริงชื่อ “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่ปลุกปล้ำมากับมือแม้จะไม่ระบุชื่อระบุตำแหน่ง
แต่ก็ประกาศแล้วว่าจะมี สส.กว่า 30 คน ที่เรียงคิวรออยู่แล้ว
...
ที่แน่นอนพรรคนี้คือสาขา “เพื่อไทย” 100%
การเดินแต้มคู่ทางการเมืองของ “รัฐมนตรีแป้ง” คนนี้ ผาดโผนโจนทะยาน ไม่น้อย เพราะด้วยคุณูปการของตัวเองแบบ “ใจถึงพึ่งได้”
“นักเลงเรียกพี่”...ว่างั้นเถอะ...
ผลงานที่โดดเด่นที่เรียกขานกันคือ “ร้อยเอกปราบพลเอก” คามือมาแล้วแม้จะเป็น “ลูกพี่เก่า” ก็ไม่สนขอให้บรรลุเป้าหมายเป็นพอ
หลังจาก “ทักษิณ ชินวัตร” กลับประเทศไทยอย่างที่ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ อันส่อแสดงให้เห็นศักยภาพจากล่างสุดสู่บนสุด
“ธรรมนัส” อ่านออกแล้วว่า “พลเอก” นั้น แม้จะมีบารมีแต่ก็แค่ปลายแถวเท่านั้นจึงต้องโผไปหาหลักเกาะใหม่ที่แน่นอนและมั่นคงกว่า
ที่สำคัญยังเป็นคู่แค้นกันด้วย!
เขาจึงผละจากตรงนี้ไปสู่อ้อมอกของ “ผู้มากบารมี” กว่าทันที และยังทำให้ “พลเอก” เจ็บปวด เพราะถูกเขี่ย ออกจากรัฐบาล
สร้างความพอใจให้กับ “นายใหม่” เป็นล้นพ้น
วันนี้แม้เขาจะไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีเพราะเงื่อนไขส่วนตัว แต่บารมีทางการเมืองนั้นเพิ่มพูนเป็นเงาตามตัว
แน่นอนว่าฐานะการดำรงอยู่ของเขา
คือ “มือกระบี่” ของจอมยุทธ์แห่งวิถีการเมืองไทย
เพราะเขาพร้อมที่จะปกป้องคุ้มครองด้วยเพลงดาบ “บู๊–บุ๋น” ที่รู้มือกันดีให้กับ “นายใหญ่–นายหญิง” เป็นการแลก เปลี่ยนจนกว่าภาวะของสถานการณ์จะเปลี่ยนไป
หมายเหตุชวนคิดอย่างหนึ่งก็คือ...
ขนาด “พลเอก” ที่มีบุญคุณยังหักได้ แล้ว “พ.ต.ท.” จะเหลือหรือ?
หากไม่สมประโยชน์เขา!
“ลิขิต จงสกุล”
คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม