มาช้าดีกว่าไม่มา ไปช้าดีกว่า ไม่ไป ในที่สุดนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ก็ตัดสินใจบินด่วนไปตรวจสภาพนํ้าท่วม 4 จังหวัดภาคใต้ และให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อบ่ายวานซืน

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าความจริง นายกฯแพทองธาร ควรเดินทางไปให้กำลังใจประชาชนตั้งแต่เกิดเหตุนํ้าท่วมใหญ่ชายแดนใต้ สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี ครั้งแรกปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

แต่ นายกฯแพทองธาร อ้างว่าการเดินทางไปตรวจสภาพนํ้าท่วม จะเพิ่มภาระให้เจ้าหน้าที่ต้องมาต้อนรับคณะของนายกรัฐมนตรี

แทนที่จะทุ่มเวลาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เต็มกำลัง 

และได้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นำความช่วยเหลือจากรัฐบาลไปถึงพื้นที่นํ้าท่วมอย่างรวดเร็ว

นายกฯแพทองธาร ยืนยันว่าการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ สำคัญกว่านายกรัฐมนตรีจะไปตรวจสภาพนํ้าท่วมในช่วงชุลมุนวุ่นวาย

“แม่ลูกจันทร์” ยอมรับว่าเหตุผลของนายกฯแพทองธารก็มีส่วนจริง

เพราะไม่ว่านายกฯจะโผล่ไปบัญชาการนํ้าท่วมด้วยตัวเอง

หรือจะส่ง “รองนายกฯอนุทิน” ไปบัญชาการแทน

การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก็ “เต็มที่” เหมือนกัน

แต่...ในแง่ความรู้สึกพี่น้องผู้ประสบภัยมันแตกต่างกัน

เพราะถ้า นายกฯแพทองธาร รีบเร่งเดินทางลงพื้นที่ด้วยตัวเอง แสดงว่านายกฯแพทองธารให้ความสำคัญในการดูแลทุกข์สุขพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

โดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้ ซึ่งไม่ใช่ฐานคะแนนพรรคเพื่อไทย

หาก “นายกฯแพทองธาร” รีบเดินทางไปดูแลประชาชนด้วยตัวเอง จะได้ใจพี่น้องชาวใต้ยิ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว!!

...

ดังนั้น เมื่อเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ซ้ำรอบ 2 (นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ตรัง ระนอง พัทลุง) สร้างความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชน ชาวภาคใต้กว่าแสนราย

จึงเป็นไฟต์บังคับที่นายกฯ แพทองธารต้องเผ่นไปบัญชาการน้ำท่วมและให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบภัยด้วยตัวเองทันที

เพราะถ้าไม่ไปครั้งนี้ ต้องโดนถล่มจั๋งหนับบุเรงนอง

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการเกิดเหตุภัยพิบัติธรรมชาติร้ายแรงเป็น “วาระเร่งด่วน” ของรัฐบาล

นายกฯแพทองธาร ควรจัดคิวด่วนลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชนอย่างรวดเร็วทันใจ

เพราะหน้าที่สำคัญของนายก รัฐมนตรี คือการได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อนด้วยตัวเอง

ส่วนช่วงฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำท่วม นายกฯจะไปเอง? หรือไม่ไปเอง?

ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าหลังเกิดวิบัติภัยธรรมชาติร้ายแรง รัฐบาลต้องเร่งมอบเงินเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างถูกต้องโปร่งใสทั่วถึงและรวดเร็ว

เงินเยียวยา (9 พันบาทต่อครัวเรือน) ควรถึงมือประชาชนใน 15 วัน!!

ป.ล.นายกฯแพทองธาร ควรเขียนจดหมายยกย่องขอบคุณอาสาสมัครกู้ภัย จิตอาสาภาคเอกชนที่ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยความมุ่งมั่นเสียสละเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวม

หากไม่มีกลุ่มอาสากู้ภัยและจิตอาสาภาคเอกชนช่วยเสริมกำลังให้รัฐบาลอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

รัฐบาลฝ่ายเดียวเอาไม่อยู่นะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม