มหาอุทกภัยภาคใต้หนักหนาสาหัสเกินกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์
ภัยพิบัติยกระดับเลยพิกัด “ดราม่า” การเมือง สถานการณ์ถึงจุดที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งไม่ติด ต้องจัดคิวบินด่วนลงตรวจพื้นที่น้ำท่วม ปลายทางจังหวัดนครศรีธรรมราช
น้ำท่วมเมืองเกินขีดวิกฤติที่ประชาชนจะช่วยเหลือตัวเองลำพัง
จังหวะ “โลกเดือด” กลายเป็นเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้า โจทย์ด่วนจี๋ท้าทายเชิงบริหารผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน ต้องเร่งกู้ก่อนที่ชาวบ้านเดือดร้อนจะเดือดดาล
อีกจุดที่ส่อเค้าจะเหนือการคาดเดาของรัฐบาลเพื่อไทย นั่นคือชะตากรรมไต้ก๋ง ลูกเรือประมงไทย ที่โดนรัฐบาลทหารเมียนมายิงถล่มเรือ ล็อกตัวไปให้ศาลเกาะสองตัดสินจำคุก โทษฐานละเมิดน่านน้ำ
ทำท่าจะ “เช็กอินยาว” โดนจองจำเป็นเชลยเกมการเมืองระหว่างประเทศ
จากที่ผู้นำรัฐบาลเพื่อไทยและทีมงานด้านต่างประเทศให้ข่าวด้วยความมั่นใจ นิ่งนอนใจ ใช้ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านประสานทางการหม่อง ไม่นานลูกเรือคนไทยทั้ง 4 คนจะได้กลับบ้านมาหาครอบครัว
แต่ล่าสุดอ้ำๆอึ้งๆ ยอมรับไม่เต็มปาก ต้องลากไปลุ้นกันหลังปีใหม่ 2568
กระตุกเครื่องหมายคำถาม “ความลึกลับซับซ้อน” ย้อนศรสถานะพิเศษของผู้นำตระกูลชินที่มี “ซุปเปอร์ คอนเนกชัน” กับรัฐบาลทหารเมียนมา ไปยันชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงด้านธุรกิจที่เป็นปมคดีใหญ่โตมาแล้ว
แนวโน้มน่าจะคุยภาษาเดียวกันง่ายๆ เคลียร์กันได้ไม่ยาก
มันมีอะไรซ่อนอยู่ใต้หมากเกมต่อรองผลประโยชน์หรือไม่
ที่สำคัญปมเมียนมาจับลูกเรือประมงไทย มันเป็นฉากหักมุมกันเลยกับฟอร์มขาใหญ่แห่งภูมิภาคอินโดจีน แบบที่มีการตีปี๊บนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน ได้รับทาบทามให้นั่งเป็น “กุนซือส่วนตัว” ของนายกฯอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย ที่กำลังจะนั่งแท่นผู้นำอาเซียน
...
การโชว์เครดิตการเมืองข้ามชาติ “ทักษิณ” มันยิ่งเร่งโจทย์ ให้รัฐบาลเพื่อไทยต้องรีบช่วยเชลยศึกพม่า โชว์ศักยภาพรองรับสถานะอินเตอร์ของ “นายใหญ่”
โจทย์สถานการณ์ฉุกเฉินเฉพาะหน้า ท้าทายทีมลูกสาว “เถ้าแก่ใหญ่” เร่งเคลียร์ชะตากรรมลูกเรือประมงไทย กู้ภัยพิบัติน้ำท่วมปักษ์ใต้
ในจังหวะที่โจทย์คาราคาซังค้างปี มีเค้า “สัญญาณร้าย”
“ลางไม่สู้ดี” ตามข่าววงในแพร่สะพัด ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ “อรหันต์ ป.ป.ช.ทุกราย” เป็นคณะไต่สวน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ
ไล่เช็กบิล สอบสวนบิ๊กกรมราชทัณฑ์ ผู้คุมเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปยันแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งหมด 12 ราย
เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ เข้าพักรักษาตัวที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ใช้อภิสิทธ์ิชนเหนือผู้ต้องขังทั่วไป
“วีไอพี ชั้น 14” ได้เวลา “เคลียร์บิลค่าห้อง” ข้าราชการต้องร้อนๆหนาวๆ
ตามจังหวะเร้าชนวนไฟ โหมเพลิงคดีร้อนให้ลุกลามถึง “นายใหญ่” ปรากฏการณ์รวมพลโจทก์ “ระบอบทักษิณ” นัดชุมนุมใหญ่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช.สนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี ในวันที่ 18 ธันวาคม
นำโดยนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการ คตส.ไล่บี้ยึดทรัพย์ “ทักษิณ” ในคดีทุจริต นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต สว.คนดัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าไทยภักดี นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ หัวขบวนม็อบสลิ่มหลากสี ฯลฯ
และที่ขาดไม่ได้ อดีตลูกน้องเก่า คนเคยรักอย่าง “ตุ๊ดตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง นปช.ในฐานะหัวขบวนคณะหลอมรวมคนไทย
แท็กทีมระดมประชาชน ปลุกเร้ามวลชน สนับสนุน ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีการทุจริตประพฤติมิชอบในกรณีการบริหารโทษนายทักษิณ ชินวัตร
ยกระดับเป็นช็อตล้มเดิมพัน “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม