ลมหนาวโชยตามฤดูกาล กลบเสียงร้องถามเมืองไทย “จะหนาวกี่โมง”

ภาคเหนือยะเยือก อีสานลมพัดตึง ภาคกลางอุณหภูมิลดวูบ แม้แต่คนเมืองกรุงยังได้สัมผัสมวลอากาศเย็น ตื่นเต้นกับบรรยากาศใกล้ปีใหม่

เว้นแต่คนปักษ์ใต้ที่ต้องเผชิญฝนถล่ม อุทกภัยหนักหนาสาหัส น้ำป่าซัดถนนขาด

ในพื้นที่ใต้สุด นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ล่าสุดใต้ตอนบนจังหวัดชุมพร ระนอง ต้องอัมพาต เส้นทางสัญจรตัดขาด

ในจังหวะที่ “รถไฟขบวนวีไอพี” ของทีมเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล ไปสุดปลายทางแค่สถานีหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ขนผู้โดยสารวีวีไอพี “3 นายกฯ” ทั้ง “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในตำแหน่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน และนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯในห้วงสั้นๆ ตีตั๋วไปร่วมเวทีสัมมนาใหญ่ สส.ค่ายเพื่อไทย

โชว์ฟอร์ม โชว์เหนือ โชว์เก๋า โชว์ห้าวเป้ง กันอึกทึกคึกคัก

และแน่นอนเป้าโฟกัสพระเอกของงาน ช็อตเด็ดของ “อดีตนายกฯในตำนาน” ลีลาตัวพ่ออย่างนายทักษิณ ที่แอ็กชันลูกบู๊ปะฉะดะการเมือง

รับค่าตัว “หลักร้อย” แต่เล่นใหญ่ “หลักล้าน”

อารมณ์เอียงคอ ยิ้มมุมปาก บอกรับเบี้ยคนชราเดือนละ 700 บาท แต่อาสาเป็นกุนซือให้นายกฯคนสุดท้องตระกูลชิน แล้วแต่ลูกสาวจะบัญชา

ถ่อมเนื้อ ถ่อมตัว เจียมตน หักมุมกันเลยกับบทบู๊ตัวตึง

“นายใหญ่” ตีหน้ายักษ์ ขึ้นเสียงเขียว ด่าเหน็บแนม ขู่ประจานรัฐมนตรี

พรรคร่วมรัฐบาลที่แกล้งป่วยการเมือง โดดประชุม ครม.ชิ่งช็อตลุ้นได้เสียในการออก พ.ร.ก.มาตรการทางภาษีระหว่างประเทศ

...

เล่นเอาคนที่อยู่ในข่าย สะดุ้ง ปฏิเสธกันปากสั่น

โดยเฉพาะ “เลือดสุพรรณฯ” ที่อยู่ในสคริปต์ปริศนา “เสี่ยท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมฯ  หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันมาตรฐานลูก “บรรหาร ศิลปอาชา” เลือดสุพรรณฯไม่เคยทิ้งใคร ไม่ได้ป่วย ไม่ได้ยื่นใบลา นั่งอยู่ในห้องประชุม ครม.ตั้งแต่ต้นยันจบ แทบไม่ได้ลุกเข้าห้องน้ำ

แสดงตัวแสดงตนเป็นเด็กดี ไม่งอแง ไม่ใช่ตัวเองแน่นอน

อีกคนที่อยู่ในโซนเข้าเค้า เพราะเพิ่งโดนด่าโชว์หล่อเร็วเกินไป “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าทีมเกรียนเซราะกราว ภูมิใจไทย ทำใจดีสู้เสือ “นายใหญ่” ไม่น่าจะหมายถึงตนเองหรือค่ายภูมิใจไทย

เพราะวันนั้นไปพบแพทย์ตามนัดติดตามอาการ ไม่ทราบว่ามีการเลื่อนประชุม ครม.เป็นวันที่ 11 ธันวาคม เพราะปกติจะประชุม ครม.ทุกวันอังคาร

อาการ “น.หนู เด้งเชือก” ไม่เถียง แต่ก็ไม่รับซะอย่าง

แต่ที่นิ่งเลยก็คือคิวของ “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าค่ายรวมไทยสร้างชาติ 

ในบท “คุณชายเนี้ยบผู้จองหอง” ที่กำลังระหองระแหงกับ “สปอนเซอร์ใหญ่”

ตามรูปเกมใกล้ถึงจุดโดน “โละ” ภายใต้โมเดลเดียวกับที่ใช้ “กบฏผู้กอง” แทรกซึม ทำลายล้างสางแค้น “บิ๊กป้อม” 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เผาทำลายบ้านป่ารอยต่อฯตั้งป้อมค่ายนอมินี พรรคเพื่อไทย

“ทักษิณ” ไล่ตีเมืองขึ้น ทุบฐานกำลังทีมลุง 3 ป. ที่อ่อนกำลังลงทุกที

ณ จุดที่ประมุข “จันทร์ส่องหล้า” กระตุกจังหวะย่างสามขุม “รวบตึงอำนาจ” ไล่บี้ ไล่ต้อน รวบกระดานผู้สวามิภักดิ์ทั้งตัว

และใจทุ่มให้ผู้นำตระกูลชิน พร้อมลุยเกมเสี่ยงทะลุซอย ตามสไตล์ “เถ้าแก่ใหญ่”

ตีขลุม “ตั๋ว” โปรโมชัน ยึดสถานะหัวขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม

ขี่ไฟต์บังคับข่มพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีใครกล้าโดดขบวน แหกขั้วตกราง

เฉลยบท “ผู้ครอบครอง” ที่ได้สิทธิเหนือกว่า “ผู้ครอบงำ”

ในขณะที่นายกฯคนลูก กำลังแห่ข่าวใหญ่ สื่อดังอย่าง “ฟอร์บส์” ยกให้ “แพทองธาร” เป็นหญิงผู้ทรงอิทธิพลลำดับ 29 ของโลก ลำดับ 3 ของภูมิภาคเอเชีย

แต่หนีไม่พ้นเงาพ่อผู้ครอบครอง ตัวจริงกำกับเกมอำนาจ.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม