นายกฯ แพทองธาร ส่งกำลังใจให้ชาว “ชุมพร-นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี-ระนอง” เจอเหตุน้ำท่วมหนัก สั่งเข้าช่วยเหลือ เร่งอพยพอยู่ในที่ปลอดภัย ด้าน ศปช. สั่งเร่งเคลียร์พื้นที่เส้นทางสัญจรโดนน้ำท่วมสายใต้
เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 14 ธ.ค. 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ข้อความผ่าน X ระบุถึงสถานการณ์น้ำท่วมหนักที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง ว่า ดิฉันได้ขอให้กระทรวงมหาดไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าช่วยเหลือประชาชนโดยด่วนแล้ว โดยเฉพาะจังหวัดระนองที่มีน้ำป่าไหลหลาก ให้เร่งอพยพประชาชนมายังพื้นที่ปลอดภัย จัดชุดอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค รวมถึงอุปกรณ์สำหรับดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่ต้องการความดูแลเป็นพิเศษ
นายกฯ ระบุอีกว่า เวลานี้ ขอให้พี่น้องในพื้นที่ติดตามการแจ้งเตือนภัย คำสั่งอพยพ และปฏิบัติตามประกาศเจ้าหน้าที่ ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนปลอดภัย และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่กำลังเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนขณะนี้
...
ด้าน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รับทราบรายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดชุมพรที่มีปริมาณฝนสูงสุดในอำเภอเมืองถึง 265.9 มม. จึงประกาศเขตฯ พื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยทหาร อำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จิตอาสา เข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
“ผอ.ศปช.ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของเส้นทางการจราจรบนถนนสายเอเชีย 41 ที่มีน้ำท่วมทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ พร้อมกล่าวขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมกันแจ้งข้อมูลเข้ามา โดยพี่น้องชาวชุมพร ได้แจ้งสถานการณ์น้ำท่วมในเส้นทางและพื้นที่ต่างๆ ผ่านทางเพจ Facebook ของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดชุมพร ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลและสามารถเข้าไปดำเนินการเคลียร์เส้นทางและช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว” นางสาวศศิกานต์ กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ล่าสุดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และชุมพร รวม 7 อำเภอ 22 ตำบล 73 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 10,000 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดย ปภ. ยังคงสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลังเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนจุดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้ประสานงานกับจังหวัดจัดทำบัญชีความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป