ด้วยสถานการณ์ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นจึงจำเป็นต้องยอมเสีย “เล็ก” เพื่อรักษา “ใหญ่” หรือจะพูดว่ายอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตก็ต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง

“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ที่ยังหลงติดอยู่กับบ่วงการเมือง จึงจำเป็นที่จะต้องรักษาตัวเองเพื่อให้รอดพ้นจากข้อกล่าวหาต่างๆ

เรื่องใหญ่ล่าสุดก็คือ “หวานใจลุง” นั่นแหละ...ไม่ใช่ใครอื่น

แม้จะยังไม่มีใครรู้ว่าชื่อเสียงเรียงนามคนคนนี้ แต่วงในรู้กันดีว่าเป็นใครเกี่ยวข้องกันอย่างไร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยอมอะไรบางอย่าง

เพื่อรักษาบางอย่างเอาไว้แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม

“ไร่ภูนับดาว” ซึ่งเป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นที่ดิน ส.ป.ก.ซึ่งมิอาจจดดำเนินการได้

ประเด็นสำคัญก็คือ เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจากคนของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งมีความขัดแย้งกันจนทำให้เกิดปัญหา ฝ่ายหนึ่งได้ร่วมรัฐบาลอีกฝ่ายหนึ่งถูกเฉดหัวออกจากรัฐบาล

ทำให้พลังประชารัฐแตกเป็น 2 เสี่ยง!

ฝ่ายหนึ่งคือ “บิ๊กป้อม” หัวหน้าพรรคหลุดจากรัฐบาล

อีกฝ่ายหนึ่ง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ได้เป็นรัฐบาลด้วยการนำ สส.ส่วนหนึ่งแยกจากพลังประชารัฐและได้ร่วมรัฐบาล

แต่ยังต้องสังกัดพลังประชารัฐเพราะออกไปไหนไม่ได้ มิฉะนั้นจะต้องพ้นจากสภาพการเป็น สส. ซึ่งมีจำนวน 20 คน

“บิ๊กป้อม” ไม่ยอมขับออกจากพรรคเพราะต้องการเก็บเอาไว้ให้อกแตกตาย

เนื่องจากหากถูกขับออกจากพรรคสามารถไปสังกัดพรรคการเมืองได้ภายใน 30 วัน ทำให้ สส.กลุ่มนี้อึดอัดและไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะอำนาจมันอยู่ที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะตัดสินใจ

...

แน่ล่ะ...ก็ต้องหาวิธีการต่างๆเพื่อบีบให้ พล.อ.ประวิตรต้องยอม

ที่สุดก็ไปขุดเจอปัญหาที่ไร่ภูนับดาวที่บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.

และมีชื่อ “หวานใจลุง” ไปเกี่ยวพันด้วยก็เลยเปิดเกมขย่มทันที

แม้ “ลุงป้อม” จะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

แต่อาจจะทำให้ “หวานใจ” เกิดปัญหาได้!

ทางที่ดีจึงเกิดทางเจรจา และ “ลุงป้อม” ต้องยอมขับ สส.กลุ่มนี้ ออกจากพรรคเพื่อแลกเปลี่ยนกับที่อีกฝ่ายจะหยุดขุดคุ้ยต่อไป

นั่นแหละจึงเป็นที่มาของการประชุมพรรคและมีมติขับ 20 สส.ออกจากพรรค ในจำนวนนี้เจ้าของฉายา “รัฐมนตรีแป้ง” เป็นหัวขบวนใหญ่

“กล้าธรรม” คือพรรคการเมืองใหม่ที่จะเข้าสังกัด ซึ่งไปตั้งท่ารออยู่แล้ว โดยมี “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เป็นหัวหน้าพรรค ที่เปิดปากบอกว่า “ยินดีต้อนรับ”

เป็นอันว่าเรื่องนี้จบ แต่จบในส่วนของนักการเมือง...

แต่ความจริงในเรื่อง “ไร่ภูนับดาว” ที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.จะมีการตรวจสอบต่อไปหรือไม่

เพราะคงไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งด้วย

แม้กระทั่งที่บอกว่าอยากทำคดีนี้โดยเฉพาะประเด็นเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับ “หวานใจบิ๊ก” นั้นจะถูกสอบสวนต่อไปหรือไม่อย่างไร

แต่น่าเชื่อว่าเมื่อ “บิ๊กป้อม” ยอมถึงขั้นนี้แล้วเคลียร์ทุกอย่างจบไปแล้ว

เพราะหลังจากพรรคมีมติขับ 20 สส.ออกจากพรรคแล้ว “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรคบอกว่า “หัวหน้าป้อม” ยังคงทำงานการเมืองต่อไปและจะเป็นคนพิจารณาเลือกและดูแลผู้สมัครลงเลือกตั้งในครั้งต่อไปด้วยตนเอง

นั่นแสดงว่าถนนทุกสายปลอดโล่งในทางการเมือง

ไม่ยอมที่จะยุติบทบาทไปอย่างง่ายๆเพราะการเมือง อำนาจ บารมียังคงหอมหวนสำหรับเขาเสมอ

อีกทั้งยังต้องการสางแค้นเก่าที่ถูกกระทำมาด้วย!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม