“เปลวเพลิงแห่งความหวาดระแวง” ถูกเขี่ยให้กลับมาลุกโชนอีกคำรบ
ในลีลาแบบที่ “สหายใหญ่” ตามสถานะ “บิ๊กอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ทำฟอร์มหักเลี้ยวหลบ “รถถัง”
โบ้ยให้เป็นเรื่องของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นำ “ทัวร์สุดซอย” รอบใหม่
“หัวเขียง” เปิดเกมเสี่ยง ท้าวัดดวง “หัวเกรียน”
เหลี่ยมเซียนการเมือง เล่นเชิงยักท่า ไม่รู้ไม่เห็นกับเกมลุยรื้อ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมฯ แต่ไม่ได้ห้าม แถมยังไฟเขียวเป็นความคิด สิทธิของ สส.ฝ่ายนิติบัญญัติ รมว.กลาโหม มีหน้าที่แค่รอกลั่นกรองกฎหมายเข้าที่ประชุม ครม. เท่านั้น
พูดกันหน้าซื่อๆ เหมือนคนฟังดูฉลาดน้อย ทหารตามไม่ทัน
รู้ทั้งรู้อยู่ว่าปฏิเสธแบบตาใส มันก็ไม่ได้ต่างจากเรื่อง “ตลกร้าย” บั่นทอนศักยภาพกองทัพไทยและมาตรฐานฝ่ายความมั่นคง กับปัญหาลักลอบส่งไฟฟ้าข้ามชายแดนประเทศเมียนมาแบบโจ๋งครึ่ม
ปมหน่วยงานรัฐทุจริต แอบขายให้ขบวนการ “จีนเทา” หนุนราชายาเสพติด ตั้งฐานผลิตยาบ้าส่งขายทั่วโลก เอื้อแหล่งชุมนุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงสูบเงินคนไทย
แค่แกะรอยตามสายไฟก็รู้ว่ามาจากแหล่งไหน แต่รัฐบาลแกล้งทำเป็น “เซ่อ” กันไปยังงั้น
ไม่ต่างอะไรกับจังหวะแหย่ไฟ เขี่ยชนวนร้อน พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมฯ ที่ “หัวเขียง” ประยุทธ์ ออกมาเดินเกมเคลื่อนไหว
แม้ยังไม่มีสัญญาณชัดว่าแกนนำและที่ประชุมพรรคเพื่อไทยเห็นพ้องด้วยหรือไม่
รวมทั้ง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในตำนาน ผู้มีปม “แผลเป็น” กับกองทัพ จากการโดนปฏิวัติโค่นกระดานมาติดๆทั้งตัวเองและ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือเปล่า
...
การออกมาตีธงรื้อ พ.ร.บ.กลาโหมฯ ตั้งท่าเวนคืนพื้นที่การเมืองแทรกกองทัพของนายประยุทธ์ครั้งนี้ ยังจับทางไม่ถูกว่าอารมณ์ไหน
เป็นเพราะต้องการสร้างบทบาทเอาใจนายใหญ่ หรือว่ารับสัญญาณจากนายใหญ่ให้ออกมาเคลื่อนไหวกันแน่
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายประยุทธ์ ออกมาประกาศว่าจากการรับฟังเสียงประชาชนหลังมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมฯ พบว่ามีเสียงคัดค้านจำนวนมาก
ดังนั้น ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ที่มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะเสนอต่อพรรคเพื่อไทย เพื่อขอถอนร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมฯ กลับไปปรับปรุงแก้ไขใหม่
ถ้าพรรคอนุญาตจะไปขอถอนร่างต่อสภาฯทันที เพราะเป็นกฎหมายที่ตนเองและคณะเป็นผู้เสนอในนามส่วนตัว ไม่ใช่ความเห็นพรรคเพื่อไทย
เพราะถ้าเสียงส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย ก็ไม่สามารถบรรจุวาระเข้าสภาฯได้
สุดท้ายก็ต้องใส่เกียร์ถอย เลิกแตะของร้อน ที่จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ท่ามกลางโจทก์เก่า โจทก์ใหม่ ขยับ “ล้อมกรอบ” รัฐบาล โดยเฉพาะขาใหญ่เจ้าประจำ “แป๊ะลิ้ม” นายสนธิ ลิ้มทองกุล เคาะสนิมม็อบพันธมิตรฯเสื้อเหลือง เตรียมลงถนนเดินหน้าเอาเรื่อง เอ็มโอยู 44
ไล่บี้หยุดดีล “ตระกูลชิน-ตระกูลฮุน” เสี่ยงทำไทยเสียดินแดนให้กัมพูชา
ฉาก “เดจาวู” ภาพวนซ้ำยี่ห้อ “ทักษิณ” ป้วนเปี้ยนๆ ไม่พ้นข้อกล่าวหาขายสมบัติชาติ ลามเป็นชนวนไฟร้อน โดนม็อบไล่ ก่อนโดนตัดจบ ท็อปบูตรวบกระดาน
โดยสถานการณ์หนังม้วนเก่ากลับมารีรันใหม่ มันเลยยังว้าวุ่นกับภารกิจเดิมพันที่ “นายใหญ่” ประกาศลั่น จะพา “น้องปู” กลับบ้านช่วงสงกรานต์ปีหน้า 2568
ถ้าเปิดศึกหลายด้าน ได้ไม่คุ้มเสียแน่.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม