เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ (เท่าที่ยังมีขายตามแผง) พาดหัวข่าวยักษ์ตรงกันว่า รัฐบาลใส่เกียร์ “ถอยกรูด” กรณีมีข่าวจะเพิ่มภาษีแวต 15 เปอร์เซ็นต์
โดยนายกรัฐมนตรีถึงกับโพสต์ลงโซเชียลของท่านว่า ทั้งหมดเป็นเพียงการ “ศึกษา” ของกระทรวงการคลังเท่านั้น ยังต้องใช้เวลาอีกนานและแม้จะศึกษาได้ทางออกครบถ้วนแล้ว ก็ยังต้องค่อยทำค่อยไป
สาเหตุที่นายกฯต้องออกมาแถลงเช่นนี้ เพราะกระแสต่อต้านแนวความคิดขึ้นแวต 15 เปอร์เซ็นต์แรงมาก ทั้งจากภาคประชาชนทั่วไป และจากภาคธุรกิจที่มองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจยังยํ่าแย่ไม่ควรขึ้นภาษีใดๆทั้งสิ้น
เป็นผลให้นายกรัฐมนตรีต้องเรียกประชุมคณะที่ปรึกษาด่วนจี๋ ก่อนที่จะออกมาโพสต์ข้อความดับกระแสดังที่เป็นข่าว
จริงแล้วผู้ที่จุดพลุเรื่องนี้ขึ้นก็คือ ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิชัย ชุณหวชิร นั่นเอง ในการสัมมนา Sustainability Forum 2025 ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม
ท่านพูดถึงการปรับภาษีทั้งระบบ...ภาษีบางอย่างเช่นภาษีบุคคลธรรมดาอาจจะลดลงได้ แต่ภาษีมูลค่าเพิ่มน่าจะเพิ่มขึ้นได้ เพราะถ้าเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้มาก ก็จะมีเงินมาเข้ากองกลางของประเทศมากขึ้น สามารถนำออกไปใช้ช่วยเหลือคนจนได้มากขึ้นกว่าเดิม...อันจะเป็นผลให้ “ช่องว่าง” ของประเทศลดลง
จากนั้นท่านได้ให้ข้อมูลว่าภาษีแวตทั่วโลกเก็บกันอยู่ในอัตรา 15-25 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ของไทยเก็บแค่ 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จากอัตราที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร 10 เปอร์เซ็นต์
ด้วยเหตุนี้ข่าวที่ว่ารัฐบาลนี้จะขึ้นภาษีแวต 15 เปอร์เซ็นต์ จึงมาจากที่ประชุมสัมมนาดังกล่าว
จริงๆแล้วการเก็บภาษีแวตเพิ่มในหลักการเป็นเรื่องควรทำ อย่างน้อยก็ควรเก็บตามที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้คือร้อยละ 10
...
แต่เนื่องจากในกฎหมายมีข้อยกเว้นว่าให้เก็บตํ่ากว่า 10 ได้ โดยการตราเป็นพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราการเก็บเป็นระยะๆไป จึงมีการต่อพระราชกฤษฎีกาเก็บในอัตราร้อยละ 7 เรื่อยมาจนถึงบัดนี้
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีคลังในสมัยลุงตู่ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ นั่นเอง ที่เป็นผู้เสนอ ครม.ให้ต่ออีก 2 ปี แล้วล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนก็ท่านรัฐมนตรีปัจจุบันนั่นแหละครับ ที่เสนอให้ ครม.ต่ออีก 1 ปี โดยใช้อัตราร้อยละ 7 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568
แม้ผมจะเห็นด้วยว่าควรขึ้นแวต โดยพยายามเก็บที่ 10 เปอร์เซ็นต์ตามกฎหมายนั่นแหละ เพราะจะทำให้รัฐบาลมีเงินเข้ามาพัฒนาประเทศได้อีกเยอะ...(ไม่ต้องถึง 15 เปอร์เซ็นต์หรอกจะโหดไป)
แต่ก็เข้าใจความคิดเห็นของประชาชนและภาคเอกชนที่คัดค้าน เพราะในสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้ ไม่ควรจะเพิ่มอัตราจัดเก็บภาษีใดๆทั้งสิ้น
นอกจากนั้นก็ยังเข้าใจด้วยว่าประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาลนี้ที่มีชื่อเสียงในการ “แจกเงิน” เอะอะก็จะแจกๆอย่างที่เป็นข่าว...จึงมองว่าเมื่อขึ้นภาษีทำความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแล้ว รัฐบาลก็จะเอาไปแจกเพื่อการหาเสียงมากกว่าไปลงทุนในโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างจริงจังอย่างที่ท่านรัฐมนตรีคลังให้เหตุผลในการกล่าวปาฐกถาในงานสัมมนา
สรุปข่าวการขึ้นภาษีแวต 15 เปอร์เซ็นต์ ก็คงจะเป็นการโยนหินถามทางอย่างที่ “สส.ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน. ตั้งข้อสังเกตไว้นั่นแหละ แต่จะไปโดนเท้าใครเข้าให้บ้าง...ก็สุดแต่จะคาดเดากันไป
ที่แน่ๆรัฐบาลคงได้คำตอบชัดเจนว่า การขึ้นภาษีใดๆ ณ นาทีนี้เป็นเรื่องยากมาก ดังนั้น จึงสรุปล่วงหน้าได้เลยว่า ถ้ารัฐบาลนี้ยังอยู่ถึงกันยายนปีหน้าคงต้องออกพระราชกฤษฎีกาคงภาษีแวตไว้ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ต่อไปอีกปี...ชัวร์ป้าบครับ!
“ซูม”
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม