ดาหน้าออกมาปฏิเสธกันให้วุ่น ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี โฆษกรัฐบาล และ สส.พรรคเพื่อไทย หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวตครั้งมโหฬาร จาก 7% พุ่งพรวดขึ้นเป็น 15% พรวดเดียวกว่า 100% รองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้คิดจะขึ้นภาษี เพราะถังแตก

สส.บางคนยืนยัน รัฐบาลไม่มีนโยบายขึ้นภาษี พูดเหมือนกับเป็นรัฐบาลเสียเอง ใครเป็นรัฐบาลตัวจริงกันแน่ นายก รัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร หรือรองนายก รัฐมนตรีพิชัย ชุณหวชิร ควบรัฐมนตรีคลัง แต่ไม่ทราบว่าเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจหรือไม่ หรืออาจหมายถึง “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมักจะมีนโยบายโฉ่งฉ่าง ประชานิยมลดแลกแจกแถม

อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ เป็นนักการเมืองมืออาชีพ หาเสียงทั้งทีจะต้องประกาศนโยบายที่ตื่นเต้น เช่น แจกเงินหมื่น ไม่ใช่แจกแค่ร้อยสองร้อยเหมือนบัตรสวัสดิการ แจกแม้กระทั่งรถหรือบ้านเป็นหลังๆ แต่รายการนี้ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน สงสัยว่าจะเป็นการโยนหินถามทางแต่หินโดนเท้า

น.ส.ศิริกัญญาเชื่อว่าวัตถุประสงค์สำคัญของรัฐบาลคือการเพิ่มรายได้ เพราะรัฐบาลหลังชนฝาแล้วกู้เพิ่มอีกไม่ได้ รัฐบาลใช้เงินเติบ ตั้งงบขาดดุลถึง 4.5% ถ้ารัฐบาลจะขึ้นภาษีแวต 15% กระทบประชาชนแน่นอน สินค้าจะขึ้นราคา เกิดปัญหาเงินเฟ้อ ประธานหอการค้าไทยเตือนว่า ไม่ควรขึ้นภาษีแวต ขณะที่เศรษฐกิจโตไม่ถึง 2% มาหลายปี

พูดถึงภาษีเคยมีนักวิเคราะห์การเมืองบางคนระบุว่า ประเทศไทยมีคนเสียภาษีเลี้ยงคนทั้งประเทศเพียงไม่กี่ล้านคน คงจะหมายถึงคนที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือภาษีรายได้นิติบุคคล ซึ่งเป็นภาษีทางตรงโดยไม่คำนึงถึงภาษีทางอ้อมเช่น “ภาษีมูลค่าเพิ่ม” ที่คนไทยทุกคนจะต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก

...

เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่ม รัฐบาลเก็บจากทุกคนที่ซื้อสินค้าตามห้างร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า อาหาร ฯลฯ เคยมีข้อมูลว่ารัฐเก็บภาษีทางอ้อมได้มากกว่าภาษีทางตรงหลายเท่า คำกล่าวอ้างที่ว่าคนไม่กี่ล้านคนเสียภาษีเลี้ยงคนทั้งประเทศจึงไม่จริง แต่ของจริงก็คือผู้เสียภาษีทางอ้อมเป็นผู้เสียภาษีเลี้ยงคนทั้งประเทศ

มีเสียงวิจารณ์ตามมาว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่ไม่เป็นธรรม เพราะคนจนกับคนรวยต้องเสียภาษีเท่ากัน ถ้าซื้อเสื้อผ้าหรือเครื่องอุปโภคบริโภคเหมือนกัน เกิดข่าวเรื่องรัฐบาลจะขึ้นภาษีแวตแบบอัครมหาศาลได้อย่างไร ในเมื่อรัฐบาลอ้างว่าไม่มีนโยบายเรื่องนี้ มีผู้แนะนำว่าถ้ารัฐบาลจะขึ้นภาษีจริงต้องสัญญาว่าจะนำเงินไปช่วยเหลือคนจนทั้งหมด.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม