“อิ๊งค์” นำ 3 ครอบครัวพี่น้องชินวัตร ห้อมล้อมอวยพรวันพ่อ “ทักษิณ” บอกเข้าใจประชาชนกังวลขึ้น VAT โยน รมว.คลังแจงรายละเอียด รทสช.กระตุกคิดให้รอบคอบ รีดเลือดกับปูภาระตกอยู่ชาวบ้าน “นายใหญ่” ขยับร่วมวงสัมมนา พท. สส.เพื่อไทยรุมแขวะฝ่ายค้านเปิดซักฟอก มีแต่ข้อมูลเก่า “อนุสรณ์” โวแหลกยึดเวทีโชว์ผลงาน “วิโรจน์” สวนแสบ ไม่เคยขายข้อสอบกินเหมือนใครบางคน ฉะมั่นหน้าเพราะมั่นใจดีลชั้น 14 ยธ.เปิดรับฟัง “คุมขังนอกเรือนจำ” ยกเหตุผลนักโทษล้นคุก ราชทัณฑ์จ่อพักโทษ 3 อดีตสส.ภท. เสียบบัตรแทนกัน ป.ป.ช.ลั่นไม่มีใครสกัดสอบคดีชั้น 14 ได้ คาดชุดเล็กสรุปส่งชุดใหญ่เร็วๆนี้ ติ๊ดชิ่งสอบ “ไร่ภูนับดาว” รุกที่ ส.ป.ก. เมียนมาปล่อยตัว 4 ลูกเรือคนไทย
จับตานโยบายปรับโครงสร้างภาษี เพิ่มการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล-บุคคลธรรมดา รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ให้อยู่ที่ 15% อาจเป็นจุดเปลี่ยนรัฐบาล เมื่อนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมากระตุกเตือนรัฐบาลให้คิดรอบคอบรอบด้าน เพราะภาระจะตกไปอยู่ที่ ประชาชน
“อิ๊งค์” เข้าใจประชาชนกังวลขึ้น VAT
เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 5 ธ.ค.ที่ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีแนวคิดในการปรับเพิ่ม (VAT) เป็น 15% และปรับภาษีเงินได้นิติบุคคลให้สอดคล้องกับสถานการณ์ว่า นายพิชัยจะเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ในรายละเอียด เมื่อถามว่าประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าถ้าขึ้นภาษีดังกล่าวจะเดือดร้อน น.ส.แพทองธารตอบเพียงสั้นๆว่า เข้าใจ
ลูก-หลานอบอุ่นอวยพร “พ่อทักษิณ”
ต่อมาเวลา 13.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพ น.ส.แพทองธาร นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองธา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่ชายและพี่สาว พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี รวมถึงบรรดาพี่เขย-พี่สะใภ้ ลูกๆหลานๆถ่ายภาพร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงภาพที่ น.ส.แพทองธารและนายปิฎกเข้าไปมอบมาลัยดอกไม้แก่นายทักษิณ และภาพบรรดาหลานๆ มอบมาลัยดอกไม้แก่นายทักษิณ โดย น.ส.แพทองธารเขียนคำบรรยายภาพว่า “Happy Father’s Day@home ขอให้พ่อมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ รักพ่อที่สุดในโลก” มี น.ส.พินทองธาเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “รักกกกกที่สุด”
...
“นายใหญ่” จ่อร่วมวงสัมมนา พท.
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 13-14 ธ.ค.ว่า ไม่มีไฮไลต์อะไร เป็นไปตามกระบวนการ เป็นการใช้เงินสนับสนุนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ให้เงินมาจัดสัมมนาเสริมทักษะความรู้ มีการเชิญวิทยากร 2-3 คณะไปร่วมบรรยาย เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานสัมมนาในฐานะนักวิชาการด้วย มีอะไรที่ต้องจับตาเป็นพิเศษหรือไม่ นายครูมานิตย์ตอบว่า ไม่มีอะไร หากเป็นเรื่องของนายทักษิณสิ่งที่ต้องจับตาคือการเลือกตั้งท้องถิ่น ส่วนที่อยู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่มีประเด็นอะไร
รทสช.กระตุกคิดให้ดีรีดภาษีเพิ่ม
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดรัฐบาลจะปรับโครงสร้างภาษี โดยใช้สูตร 15:15:15 เก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล-บุคคลธรรมดา รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ให้อยู่ที่ 15% ว่า เข้าใจว่ารัฐบาลต้องการหารายได้เพิ่มขึ้นจากภาษี โดยการขึ้น VAT การมีรายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้นเพียงพอจะช่วยลดการกู้ ลดภาระหนี้สาธารณะ แม้จะมีเป้าหมายที่ดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องมีแผนปฏิรูปภาษีที่รอบคอบและสมดุล ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความยั่งยืนทางการคลัง และการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม การปรับโครงสร้างภาษีโดยเฉพาะ VAT ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อคนทั้งประเทศ จำเป็นต้องคิดให้รอบคอบรอบด้าน ผลดีผลเสียที่จะได้ เนื่องจากรายได้ของพี่น้องประชาชนยังเท่าเดิม แต่ภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเท่าตัว ยิ่งทำให้กำลังซื้อและการตัดสินใจใช้จ่ายเงินยิ่งลดลง ส่งผลต่อเงินหมุนเวียนในประเทศโดยตรง ขอให้รัฐบาล กระทรวงการคลังพิจารณาในเวลาที่เหมาะสม ควรเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนทุกภาคส่วน
แขวะฝ่ายค้านเตรียมเปิดซักฟอก
นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านระบุเตรียมรวบรวมข้อมูลเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมหน้า ที่จะเปิดขึ้นวันที่ 12 ธ.ค.ว่า รัฐบาลทำงานมาได้แค่ 3 เดือน มองว่าเร็วไปสำหรับการทำภารกิจระดับชาติ คงมีแต่เรื่องเก่าๆ อยากให้ติดตามการทำงานของรัฐบาลก่อน ถ้ามีประเด็นอะไรส่อทุจริตเรายินดีให้ตรวจสอบ แต่แค่ไม่อยากให้เอาเวลาสภามาเล่นเกมการเมือง รัฐบาลชุดนี้ทำงานโปร่งใส ร่วมเป็นกรรมาธิการงบประมาณยิ่งเห็นความชัดเจน ความตรงไปตรงมาในการพิจารณางบประมาณ ไม่มีสิ่งไหนที่ส่อทำให้คิดได้ว่ามีการทุจริต ขออย่าใช้อคติส่วนตัวนำมาประกอบ การอภิปราย ไม่ควรนำข้อมูลที่ไม่จริงมาพูด
โวแหลกใช้เป็นเวทีโชว์ผลงาน รบ.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย พร้อมรับการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานจากทุกฝ่าย การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน เป็นกระบวนการตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลวิธีหนึ่ง ไม่มีอะไรต้องหนักใจหรือต้องเตรียมการรับมือเป็นพิเศษ การถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่วิกฤติของรัฐบาล แต่ถือเป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลจะได้ใช้โอกาสนี้เป็นเวทีแถลงผลงาน ที่หลายเรื่องสะท้อนผ่านโพลหลายสำนักว่าประชาชนพึงพอใจมาก ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเรือธงแจกเงิน 1 หมื่นบาท ฟื้นเศรษฐกิจ การจ่ายเงินฟื้นฟูเยียวยาพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ทำได้รวดเร็ว งานยากของศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้จึงไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล แต่อยู่ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านว่าจะหาข้อมูลใดมาอภิปรายแล้วประชาชนได้ประโยชน์ และไม่ถูกมองว่าเป็นเพียงพิธีกรรม หรืออภิปรายตามฤดูกาล
“วิโรจน์” สวนแสบคนขายข้อสอบกิน
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์กรณี สส.พรรคเพื่อไทยบอกเร็วไปที่ฝ่ายค้านจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า พรรค พท.เคยเป็นฝ่ายค้าน น่าจะรู้ดีว่าพรรคเราอภิปรายเน้นเนื้อหาสาระ ไม่เคยมีพฤติกรรมพูดกินเวลาจนเพื่อนฝ่ายค้านอดอภิปราย ไม่เคยถูกตั้งข้อสงสัยว่าข้อสอบรั่ว หรือเอาข้อสอบไปขายกิน ไม่เคยมีอภิปรายเสีย ดุเดือดแต่เลือดไม่ไหล ย้อนดูตัวอย่าง เช่น อภิปรายเรื่องวัคซีนเต็มแขน อภิปรายเรื่อง หจก.บุรีเจริญ กรณีปฏิบัติการ ไอโอ ไม่เกี่ยวว่าเปิดซักฟอกเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องการทุจริตมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ความด้อยประสิทธิ ภาพการบริหารงานรัฐบาลเกิดขึ้นหรือเปล่า ที่บอกว่า เร็วเกินไป ต้องถามกลับว่ากลัวหรือเปล่า อย่ามาห่วงว่าเราจะไม่มีเนื้อหาอภิปราย เพราะนั่นเป็นจุดแข็งของพรรค ปชน.
ฉะมั่นหน้าเพราะมั่นใจดีลชั้น 14
นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า แต่ความยากของพรรค พท.คือ ทำอย่างไรให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ตอบชี้แจงต่อสภาฯได้อย่างมั่นใจ เป็นตัวของตัวเองชี้แจงด้วยภาวะผู้นำของตัวเองได้ เมื่อถามว่าทำไมพรรค พท.มั่นใจมากว่าพรรค ปชน.จะไม่มีข้อมูลอภิปราย นายวิโรจน์ตอบว่า พรรค พท.คงมั่นใจในดีล คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นที่ฝึกมาจากชั้น 14 ว่าดีลได้หมดทุกทาง ยังไงก็ยกมือผ่าน แต่ทั้งหมดนี้ไม่สำคัญเท่ากับการผ่านด้วยความเชื่อมั่นของประชาชนที่ฟังอภิปรายอยู่ อย่ากังวลว่าเราจะใช้เวทีซักฟอกเพียงแค่ด่าทอรัฐบาลโดยไร้เนื้อหาสาระ พรรค ปชน.จะใช้เวทีนี้เสนอแนะรัฐบาล และแสดงศักยภาพว่าเราสามารถเป็นรัฐบาลที่ประชาชนฝากความหวังได้มากกว่า กล้าหาญขับเคลื่อนนโยบายที่คำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชน พาประเทศไปสู่อนาคตที่ดี แก้ความเหลื่อมล้ำได้ดีกว่าพรรค พท. แนะนำพรรค พท.ไปซักซ้อมให้นายกฯชี้แจงโดยที่ไม่มีแท็บเล็ตสบสายตาเพื่อน สส.ฝ่ายค้านในสภาด้วย
ยธ.เปิดรับฟัง “คุมขังนอกเรือนจำ”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงยุติธรรมว่า หลังถูกสังคมตั้งข้อสังเกตถึงกรณีกระทรวงยุติธรรมพิจารณาการออกหลักเกณฑ์การปฏิบัติตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ที่จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์คุมขังนอกเรือนจำไว้ด้วย เป็นการปูทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เตรียมเดินทางกลับประเทศไทย ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุ แม้ยังติดคดีรับจำนำข้าวอยู่ก็ตาม ทางกระทรวงยุติธรรมได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างฯดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 2-17 ธ.ค.นี้ อาทิ ผ่านทางเว็บไซต์ www.law.go.th โดยประกาศเมื่อวันที่ 26 พ.ย.67 ลงนามโดย พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ยกเหตุผลนักโทษแออัดล้นคุก
สำหรับข้อมูลการรับฟังความเห็นมีการชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหาและสาเหตุของปัญหาในปัจจุบัน พบว่ามีผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเป็นจำนวนมาก รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลต่อจำนวนผู้กระทำความผิดเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เรือนจำมีสภาพที่แออัด ไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนผู้ต้องขัง ที่เป็นปัญหาของงานราชทัณฑ์มายาวนาน จึงมีแนวคิดบริหารโทษและบริหารเรือนจำ สำหรับผู้ต้องขังหลากหลายลักษณะความผิดให้ได้สัดส่วนกับโทษที่ได้รับในการนำสถานที่อื่นมาใช้กับผู้ต้องขังแทนเรือนจำ เพื่อแก้ไขและบรรเทาผู้ต้องขังที่มีจำนวนมากเกินกว่าพื้นที่ของเรือนจำ ทั้งนี้กรมราชทัฑณ์เป็นผู้รับผิดชอบหลักที่สำคัญในการบังคับโทษให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล มีภารกิจในการแก้ไขฟื้นฟู พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง เพื่อคืนคนดีกลับสู่สังคม แต่วิธีการจัดการตามคำพิพากษา แก้ไขฟื้นฟูตามภารกิจหน้าที่ พบว่าต้องพัฒนาให้สอดรับกับภาวะสังคมปัจจุบัน
พักโทษ 3 อดีต สส.ภท.เสียบบัตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมราชทัณฑ์เตรียมดำเนินการพักโทษปล่อยตัวนางนาที รัชกิจประการ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และนายภูมิศิษฏ์ คงมี อดีต สส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ผู้ต้องขังคดีเสียบบัตรแทนกัน หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกคนละ 9 เดือน และตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2567 โดยทั้ง 3 รายเข้าเงื่อนไขหลักเกณฑ์พักโทษ มีกำหนดจะออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ สำหรับนางนาทีได้ประสานทางเจ้าหน้าที่คุมประพฤติกลับไปพักที่บ้านของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ซึ่งเป็นสามี ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ทั้ง 3 คนต้องติดกำไลอีเอ็ม และต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่คุมประพฤติติดตามที่มีการแจ้งของผู้ดูแล
ป.ป.ช.ลั่นไม่มีใครสกัดสอบชั้น 14 ได้
วันเดียวกัน นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รักษาการประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวว่าฝ่ายตรวจสอบไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ไต่สวนเสนอให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ป่วยทิพย์ชั้น 14 ว่า ตอนนี้เรื่องยังไม่เข้ามายังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ยังอยู่ในชั้นตรวจสอบเบื้องต้น ตรวจสอบแล้วจึงเสนอมาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะมีการนำเข้าที่ประชุมหรือไม่เพราะมีกระแสอาจจะมีการสกัดวาระเข้าพิจารณา นายวิทยาตอบว่า ไม่มี เป็นไปตามระบบราชการ สกัดไม่ได้ เมื่อถามอีกว่าหลังจากนี้จะมีการเรียกบุคคลใดมาให้ปากคำหรือไม่ นายวิทยาตอบว่า ยังไม่มี คงต้องดูก่อนว่ารายงานการประชุมของคณะกรรมการไต่สวนชุดดังกล่าวตรวจสอบเบื้องต้นเป็นอย่างไร ค่อยเข้าสู่กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่
คาดชุดเล็กสรุปส่งชุดใหญ่เร็วๆนี้
นายวิทยากล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการไต่สวนหรือตรวจสอบบุคคลใดเพิ่มหรือไม่ เป็นดุลพินิจของกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีกรอบเวลาแต่เราพยายามทำให้เร็วที่สุด แค่ตอนนี้ยังไม่มีการเสนอเข้ามา ก็ยังไม่มีการพิจารณา เท่าที่ทราบในชั้นรายงานเบื้องต้นเขาทำเสร็จแล้ว ตอนนี้อยู่ในชั้นของคณะกลั่นกรอง ให้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตอนนี้ก็กำลังทำอยู่ คาดว่าเร็วๆนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้ แต่คงไม่ใช่สัปดาห์หน้า เพราะมีกรรมการหนึ่งคนต้องเดินทางไปต่างประเทศ ต้องเป็นสัปดาห์ถัดไป
ติ๊ดชึ่งสอบ “ไร่ภูนับดาว” รุกที่ ส.ป.ก.
นายวิทยายังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบ ไร่ภูนับดาวรุกที่ ส.ป.ก. ที่มีหวานใจของบิ๊กการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงอาจมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง ถูกระบุว่ามีการส่งเรื่องมาที่ ป.ป.ช.ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน อยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้น เมื่อถามย้ำว่าจะเร่งตรวจสอบหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่ามีหวานใจของบิ๊กการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง นายวิทยาตอบว่า ต้องไปดูว่าในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ก็ตรวจสอบไปตามหน้าที่
มท.2 มะงุมมะงาหราดู “เขากระโดง”
ขณะที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน กล่าวว่า ในวันที่ 20 ธ.ค. เตรียมลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การรังวัดที่ดินตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่มีการตั้งคณะกรรมการของกรมที่ดินขึ้นมาพิจารณา รวมถึงมีการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลฎีกาหรือไม่ 2.ตรวจสอบแปลงที่ดินที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รับรองแนวเขตที่ รฟท.ต้องแสดง อยู่ตรงจุดไหน และ 3.ตรวจสอบจุดสิ้นสุดของทางรถไฟที่กิโลเมตร 6.2 นอกจากนี้จะเข้าไปสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขากระโดง เรื่องของการเข้าพักอยู่อาศัย การใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และการสร้างอาชีพสร้างรายได้ เขามีสิทธิอยู่ในพื้นที่ก่อนหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ยังไปดูข้อเท็จจริงอื่นว่ามีอะไรบ้างเพื่อจะนำความจริงมาให้สังคมรับทราบ
“มาริษ” ไม่รู้-ไม่ทราบชงตั้ง กก.เจทีซี
อีกเรื่อง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคไทย-กัมพูชา หรือ JTC เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ยังไม่ทราบเลย เมื่อถามว่าประธานจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก รัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมหรือไม่ นายมาริษตอบสั้นๆว่า ไม่ทราบเลย กำลังรับฟังข้อมูลและพิจารณากันอยู่
เมียนมาปล่อยตัว 4 ลูกเรือคนไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการประสานขอตัวคนไทยจำนวน 4 คนที่ถูกจับกรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยว่า ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก รัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบกและกองทัพเรือประสานงานกับรัฐบาลเมียนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย แจ้งมาว่าจะมีการปล่อยตัว 4 คนไทยวันนี้ (5 ธ.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. แต่มีขั้นตอนของการตรวจคนเข้าเมืองเมียนมา เพราะต้องดูว่าคนไทย 4 คนถูกแจ้งความข้อหาใดบ้าง หากเป็นข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จะมีขั้นตอนรับแล้วส่ง สภ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ เพื่อลงบันทึกประจำวันเปรียบเทียบปรับ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางไปรับคนไทยทั้ง 4 คน ประกอบด้วยเลขาคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา TBC คือ ผบ.ร.25 พัน. 2 และ ผอ.ศูนย์ประสานงานชายแดนทางทะเลไทย-เมียนมา และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง ส่วนเรือที่จะเดินทางไปรับมี 1 ลำ จัดจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ระนอง สำหรับเรือประมงที่ถูกยึดไป ทางเกาะสองเมียนมา จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะส่งมอบเรือประมงของไทยกลับมาด้วยหรือไม่
นายกฯสั่งทีมแพทย์เช็กสุขภาพ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้รับรายงานด่วนว่าลูกเรือชาวไทยทั้ง 4 คน ได้รับการปล่อยตัวและกำลังเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ยืนยันว่าขณะนี้ทั้ง 4 คนเดินทางถึงเกาะสอง ตรงข้าม จ.ระนอง เรียบร้อยแล้ว จากนี้คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (Township Border Committee -TBC) จะหารือกระบวนการที่เกี่ยวข้อง คาดว่าน่าจะได้รับการปล่อยตัวพร้อมส่งมอบข้ามมายัง จ.ระนอง เช้าวันที่ 6 ธ.ค. นายกฯสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม เตรียมพาหนะให้พร้อมทั้งกรณีจำเป็นที่ต้องเดินทางไปรับที่เกาะสอง หรือรอรับที่ท่าเรือ จ.ระนอง ยึดถือความปลอดภัยของคนไทยเป็นสำคัญ และขอให้กระทรวงสาธารณสุขจัดแพทย์และพยาบาลเตรียมพร้อมในการตรวจสุขภาพของคนไทยทั้ง 4 คน เมื่อเดินทางถึงไทย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่