“รังสิมันต์ โรม” ชี้ เกาหลีใต้ทำให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่า บทบาทสภาฯ ที่เข้มแข็งยุติการใช้กฎอัยการศึกได้ แนะนำมาทบทวนกลไกภายในของไทย เปิดสภาฯ เตรียมยื่นกระทู้ถาม “อนุทิน” ปมบัญชีม้า

วันที่ 4 ธ.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชป.) กล่าวถึงประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึกว่า เมื่อสภาฯ เกาหลีใต้โหวตคว่ำกฎอัยการศึก สุดท้ายประธานาธิบดีต้องประกาศยุติการใช้กฎอัยการศึก เกาหลีใต้ทำให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่า บทบาทสภาฯ ที่เข้มแข็งสามารถยุติการใช้อำนาจประธานาธิบดีได้ เรื่องนี้เป็นโอกาสดีเอามาทบทวนกลไกภายในของไทย ซึ่งมีการรัฐประหารบ่อยครั้ง ภาคประชาชนเกาหลีใต้กระตือรือร้นออกมาปกป้องประชาธิปไตย การรัฐประหาร 2557 ของไทย ความเข้มแข็งของฝ่ายการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐพร้อมใจปฏิบัติและเชื่อฟังคณะรัฐประหารกำหนด ซึ่งเรารู้แล้วว่า การรัฐประหารไม่ใช่สิ่งที่ควรจะยอมรับ และก่อวิกฤติปัญหาจำนวนมาก ฉะนั้นต้องระลึกได้แล้วว่าปัญหาการรัฐประหาร ที่ฝ่ายกองทัพจะมาอยู่เหนืออำนาจประชาชนควรพอได้แล้ว หวังว่าเราจะใช้โอกาสนี้ทำให้ไทยมีระบบกฎหมายเข้มแข็ง ทำให้กองทัพอยู่ใต้พลเรือนอย่างแท้จริง

นายรังสิมันต์ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มว้าแดงที่ประชิดชายแดนไทยว่า พูดถึงเรื่องว้าแดง ก็จะมีเรื่องการรุกล้ำเขตแดนเข้ามาในประเทศไทย ตนจะเอาเรื่องนี้พิจารณาใน กมธ.ความมั่นคงฯ วันที่ 13 ธ.ค. รวมกับเรื่องเรือประมงที่ถูกเรือรบเมียนมายิง เมื่อพูดถึงว้า ตนเองคงต้องบอกว่า วันนี้ยาเสพติดที่ผลิต ต้องมีสารตั้งต้น ต้องใช้พลังงาน ต้องใช้ไฟฟ้า ตามข้อมูลที่ได้รับมา ไฟฟ้ามาจากฝั่งไทยที่ขายไปท่าขี้เหล็กเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มว้า ตนเคยอภิปรายโยงไปถึงอดีต สว. แล้ว และมีบริษัทชื่อหงปัง ที่มีกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังคือกลุ่มว้า มีอิทธิพลถึงขนาดที่เอาไฟฟ้าจากฝั่งประเทศไทยไปใช้งานได้ด้วย ตนไม่รู้หรอกว่าไฟฟ้าที่ใช้เอาไปใช้ผลิตยาเสพติดหรือไม่ แต่สิ่งที่รู้คือการผลิตยาเสพติดนับพันเม็ด มันคงต้องใช้ไฟฟ้าไม่มากก็น้อย คำถามก็คือว่าฝ่ายนี้มาจากไหน ถ้าไม่ใช่มาจากไทย ซึ่งก็มีเส้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันอยู่

...

นายรังสิมันต์กล่าวทิ้งท้ายว่า เปิดสภามาวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ตนจะตั้งกระทู้ถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะทุกอย่างชัดเจนแล้วบริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น เงินที่เกี่ยวข้อง บัญชีม้าต่างๆ มันชัดเจน