เรือรบดัดแปลงของกองทัพเรือเมียนมา 3 ลำ บุกเข้ามายิงเรือประมงไทยสิบกว่าลำที่กำลังจับปลาอยู่ในน่านน้ำไทย ห่างจาก “เกาะพยาม” ไปทางทิศตะวันตกราว 5 ไมล์ทะเล ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำอธิปไตยไทย 12 ไมล์ทะเล ทำให้ชาวประมงเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เรือประมงไทยต้องหนีตาย และแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดระนอง (ศรชล.ระนอง) เมื่อ 00.30 น. 30 พ.ย. กองทัพเรือได้ส่งเรือ ต.274 เรือ ต.993 เข้าสกัดกั้นและช่วยเหลือชาวประมง เรือรบเมียนมาได้ล่าถอยไป และยึดเรือประมงไทยไป 1 ลำ พร้อมลูกเรือ 31 คน เป็นคนไทย 4 คน ชาวเมียนมา 27 คน
ครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่กองทัพเมียนมารุกล้ำอธิปไตยไทย สองปีก่อนในยุครัฐบาลลุงตู่ กองทัพอากาศเมียนมาก็ได้บินรุกล้ำน่านฟ้าไทยด้าน อ.พบพระ จ.ตาก ไปทิ้งระเบิดกองทัพชนกลุ่มน้อย บ้านเรือนคนไทยได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด แต่ไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากเมียนมา ไม่รู้รัฐบาลไทยได้ทำอะไรไปบ้าง เพราะเรื่องเงียบหายไป
การรุกล้ำน่านน้ำอธิปไตยไทยครั้งนี้ ปฏิกิริยารัฐบาลและกองทัพเรือ ตั้งแต่ คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหม พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ คุณมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ รู้สึกว่า “ช้า” และ “นุ่มนิ่ม” เกินไป จนรู้สึกว่ารัฐบาลไทยและกองทัพไทยอ่อนแอเกินไปหรือไม่ที่จะปกป้องคนไทยและอธิปไตยชาติไทย ทำให้รู้สึกเป็นห่วง “เกาะกูด” ขึ้นมาทันที ถ้า กองทัพเรือกัมพูชา ยกพลขึ้นบกมายึดเกาะกูด โดยอ้างแผนที่ใน MOU 2544 รัฐบาลไทยจะทำอย่างไร กองทัพเรือไทยจะทำอย่างไร ต้องรอถามกัมพูชาก่อนไหมว่ายึดทำไม?
ไปฟังคำให้สัมภาษณ์ของ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีต่างประเทศ แม่ทัพเรือ ดูกันครับ แล้วเทียบกับผู้นำและรัฐมนตรีประเทศอื่นที่เราเห็นในข่าวต่างประเทศ
...
นายกฯแพทองธาร ให้สัมภาษณ์ที่แม่สายว่า ได้รับรายงานล่าสุดทราบว่าบาดเจ็บ 2 เสียชีวิต 1 คน ถูกจับตัวอีก 30 กว่าคน แต่เป็นคนไทย 4 คน สาเหตุยังไม่ได้สรุปออกมาชัดเจนว่ารุกล้ำหรือไม่ ถ้ามีความคืบหน้าจะให้รัฐมนตรีต่างประเทศรายงานทันที การพูดคุยระหว่างประเทศต้องมีขั้นตอนเป็นทางการ จะพูดข้อตกลงอะไรออกมาก่อนไม่ได้ คุณภูมิธรรม รัฐมนตรีกลาโหม ให้สัมภาษณ์แบบไกลตัวว่า คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ได้ประท้วงไปแล้ว เราไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง ขอให้เอาเรือและคนไทยที่ถูกจับกลับมา คุณมาริษ รัฐมนตรีต่างประเทศ บอกว่า ได้มีหนังสือ “แสดงความกังวล” ไปแล้ว จันทร์ที่ 2 ธ.ค. จะเชิญ “ทูตเมียนมา” มาที่กระทรวง จะได้รับคำตอบหรือไม่ต้องพูดคุยกันหลายด้าน พล.ร.อ.จิรพล แม่ทัพเรือ ยิ่งไปกันใหญ่ ต้องตรวจสอบว่าเกิดเหตุในพื้นที่ของใคร รวมทั้งสอบถามสาเหตุไปทางเมียนมาว่าสาเหตุใดจึงจับตัวไป เราไปรุกล้ำเขา หรือเขาเข้าใช้อำนาจเกินขอบเขต หากเป็นอย่างหลังจะมีการตอบโต้ สะท้อนถึงสมรรถภาพกองทัพเรือไทยในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เรือรบชั้น 1 เจอคลื่นลมยังจมได้เลย
ฟังความเห็น ผู้รับผิดชอบความมั่นคงของชาติแล้ว ก็น่าเป็นห่วงนะครับ โดยเฉพาะ “เกาะกูด” ที่มีปัญหาพื้นที่ทับซ้อน พล.ร.อ.จิรพล แม่ทัพเรือ เพิ่งสั่งยกเลิกการฝึกประจำปีของกองทัพเรือภาค 1 รอบเกาะกูด เพื่อซ้อมปกป้องชายแดนจันทบุรี และตราด ระหว่าง 10-12 ธันวาคม 2567 โดยให้เหตุผลว่า หวั่นกระทบความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ทั้งที่กองทัพเรือฝึกมาทุกปี
กองทัพไทยเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร น่าเป็นห่วงนะครับ อย่าลืมว่า ไทยเป็นประเทศส่งออกอาหารทะเลติดอันดับโลก มูลค่าส่งออกปีละกว่า 2 แสนล้านบาท โดยเฉพาะ ปลาทูน่ากระป๋อง ไทยส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก ไตรมาสแรกปีนี้ส่งออกเกือบ 6 หมื่นล้านบาท การปกป้องอุตสาหกรรมประมงไทย จึงเป็น “หน้าที่สำคัญ” ของ กองทัพเรือไทย ครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม