มหาอุทกภัยภาคใต้สร้างความเสียหายหนัก
คลื่นแรงกระแทกผู้นำ กระแส “ดราม่า” แข่งกับกระแสน้ำป่า จากช็อตที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พยายามกู้แต้มจากที่โดน
เหน็บแนม “แม่ญิงเชียงใหม่” สนใจแต่ภาคเหนือ
การันตีน้ำตาคลอ สามีเป็นคนใต้ สะใภ้เมืองคอน จะไม่รักคนใต้ได้ไง
เน้นบทซึ้งๆ สื่ออารมณ์ใจถึงใจ แทนที่จะ “เอาอยู่” กู้กระแสนินทาได้ แต่กลายเป็นหนักกว่าเก่า ผู้นำโดนขบวนรถทัวร์ถล่ม เอาความรักความผูกพันในครอบครัวมาผูกเป็นสตอรีในกระบวนการบริหารรับมือมหาวิกฤติน้ำท่วมปักษ์ใต้ มันคนละเรื่องหรือไม่
ตอกย้ำ “ปักษ์ใต้” ไม่ใช่บ้านเรา ของทีมเพื่อไทย
“นายกฯอิ๊งค์” สำลักน้ำท่วมสงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ฯลฯ พื้นที่อ่อนไหวของ “ตระกูลชิน” ในจังหวะที่ “นายใหญ่” กำลังรุกไล่ “พื้นที่อ่อนไหว” ของโจทก์สำคัญบนกระดานอำนาจการเมือง
อาการคึก ได้ทีขี่กฎหมาย ไล่บี้อาณาจักร “เขากระโดง” ของ “เกรียน 2 น.เซราะกราว” อย่าง “เนวิน ชิดชอบ–อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวขบวนค่ายภูมิใจไทย เบียดกระแทกทีมน้ำเงินที่กำลังซิ่งแซง ให้แหกโค้งสนามช้าง บุรีรัมย์ ตัดตัวแข่งแย่งชิงธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม
อีกทางก็อารมณ์ฮึกเหิม “นายใหญ่” ได้เหลี่ยมเบิ้ลซ้ำ สั่งบุกทะลุทะลวงบ้านป่ารอยต่อฯ ไล่บี้หนักถึงขั้นถอนรากถอนโคน “ถอนแค้น” ฝังหุ่น ตามท้องเรื่องที่กำลังปั่นเรตติ้งละคร “ปริศนา” อักษรย่อ ปูทางยุทธการไล่อายัดทรัพย์ “หวานใจบิ๊กการเมือง” ที่นัวเนียคดีรีสอร์ตรุกที่ ส.ป.ก.
...
แกะรอยเครื่องเซ่นทิพย์ สังเวยรุกขเทวดาบ้านป่าฯ
ณ ตรงนี้ ยังไม่ชัวร์ว่าจะไปจบตรงไหน แต่ที่แน่ๆปฏิบัติการทุบเครื่องเซ่นทิพย์เทวดาบ้านป่าฯ มันกระทบกระเทือนตลาดหุ้นเต็มๆ ในเมื่อเส้นทางเงิน 10 ล้าน ตามกระแสแกะรอย “เครื่องเซ่นทิพย์ของเทวดา” มันโอนมาจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลทำให้หุ้นไฟแนนซ์ใหญ่ร่วงระเนระนาด
แมลงเม่าปีกไหม้เจ๊งไปตามๆกัน และรูปการณ์เดียวกัน มันชักจะทะแม่งๆกับเกมทุบหุ้น โยง “เครื่องเซ่นเทวดา” ในยุครัฐบาลเพื่อไทย ตามปรากฏการณ์หุ้นกลุ่มยักษ์ ปตท.ที่ร่วงฮวบฮาบช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้วยฤทธิ์จาก “ข่าวลือ” DSI ฟันบิ๊ก ปตท. และซีอีโอบริษัท OR
โดยต้นตอมาจาก “เพจอวตาร” ข้อมูลจากสำนักข่าวไม่ได้กรอง แต่แชร์กันกระจายในกลุ่มนักลงทุน แห่เทขายหุ้นกันจ้าละหวั่น
เข้าเหลี่ยมขาใหญ่ ดักช้อนกำไรกันสะดือปลิ้น
แต่จุดพิลึกกึกกือ คือข้อมูลประทับตราของกรมสอบสวนคดีพิเศษในเอกสารราชการตอบศาลอาญา ฟ้องเลยว่า เป็นพลังวิเศษของเหล่า “เทวดา DSI” ที่แฝงตัวเป็นแก๊งล่าสมบัติ
จงใจเล่นพิเรนทร์ “ปล่อยของ” ใส่ผู้บริหารยักษ์ ปตท. ทำให้เกิดความคลุมเครือ
พฤติกรรมท้าทายกระแส ไม่แคร์สายตาสังคม ทั้งๆที่ DSI กำลังถูกจับจ้องความโปร่งใสในม่านหมอก “ดิ ไอคอน” ในยุคของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีสายตรงของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม
ที่สำคัญเมื่อเจาะลึกไปในสำนวนคดีก็โป๊ะเชะ พบความเชื่อมโยงกับแก๊ง “สวาปาล์ม” ขบวนการทุจริตโครงการปาล์มอินโดฯ ที่จำเลยร่วมกับคนสำคัญก็คืออดีต สส.ยี่ห้อไทยรักไทยในตำนาน
ตามรูปการณ์ สำนวนสอบสวน “แก๊งสวาปาล์ม” แล้วเสร็จสมบูรณ์ จากทีม CIB ภายใต้มาตรฐานกำกับโดย “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แต่ถูกลากดึงมาใส่ลิ้นชักอยู่ที่ดีเอสไอ
ปมเน่าถูกกลบ ไม่มีความคืบหน้าจนน่าเอะใจ ด้วยนัยนี้ มันก็มโนตามได้ เครื่องเซ่น “แก๊งสวาปาล์ม” สังเวยเทวดาดีเอสไอ เปิดเกมขู่กรรโชก “เดอะเอ้” นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ซีอีโอใหญ่กลุ่ม ปตท. ในฐานะผู้เสียหาย ไม่ให้เดินหน้าเร่งคดีทุจริตปาล์มอินโดฯ รวมถึงการเร่งคิวคดีทุจริต เคลียร์ค่าเสียหายกับแก๊งจำเลยในคดีโกง “สต๊อกลม” น้ำมันปาล์มดิบมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท
แต่ผิดคาด เมื่อเจอคนจิตแข็ง ซีอีโอ ปตท.ยี่ห้อ “คงกระพัน” ไม่ตื่นตูมง่ายๆ
งานนี้แก๊งกรรโชก จึงโดนย้อนศรด้วยการไล่เบี้ยแจ้งความเพจที่กระพือข่าวปลอมทุบหุ้น ปตท. เข้าข่าย พ.ร.บ.คอมฯโทษจบที่คุก นั่นไม่เท่ากับการไล่ทุบทำลายแหล่งสิงสถิตของแก๊งเทวดาดีเอสไอ ด้วยการเล่นกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ขยายผลประจานแก๊งเทวดา ล็อกก๊วนขี่เกมอำนาจปิดคดีโกง มั่วทุบหุ้น.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม