ปฏิทินหน้าสุดท้าย เข้าสู่เดือนธันวาคมปลายปี กลิ่นอายเทศกาลแห่งความสุขโชยมาตามเสียงเพลง “เมอร์รี คริสต์มาส” ห้างสรรพสินค้า โรงแรมใหญ่พากันตกแต่งขบวน “ซานตาคลอส” บรรยากาศเข้าสู่โหมดเฉลิมฉลองห้วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

เร้าใจพนักงานเอกชน ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ต้องเร่งสะสางงาน

ปิดจ๊อบก่อนลั้ลลา ตามธรรมชาติสังคมแบบไทยๆ เน้นสนุกสนานเฮฮา ได้เวลานับถอยหลัง วางแผนข้ามช็อตไปถึงการเตรียมตัวเดินทางท่องเที่ยว กลับบ้านไปหาพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ฉลองปีใหม่กับครอบครัว

แม้จะติดขัดกับภาวะเศรษฐกิจตึงตัว แต่ขอเติมความสุขไว้ก่อน

ขณะที่รัฐบาลก็ต้องอัดโปรโมชัน กระทรวงต่างๆต้องจัดแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนตามธรรมเนียมปฏิบัติ เจียดเงินก้นถุงผ่านมาตรการลดแลกแจกแถม

ตีปี๊บข่าวดีผ่านที่ประชุม ครม.รายสัปดาห์นับแต่นี้ไป

บรรยากาศแห่งความสุขห้วงปีใหม่ เคล้าไปกับลมหนาว อากาศเย็นสบายๆ จังหวะผ่อนดีกรีความเครียดของผู้คนในสังคม

โหมด “พักเบรก” เกมอำนาจการเมืองลดความดุเดือดโดยอัตโนมัติ

ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ “นักเลือกตั้งอาชีพ” รู้ทางลมดี อาการแบบที่ทีมลูกหาบ “นายใหญ่” กล้าเล่นของร้อน เอามือเขี่ยถ่านไฟ ไม่กลัวอันตราย

ยั่ว แหย่ เย้ย ท้าทายม็อบไล่รัฐบาล

ไล่ตั้งแต่หัวแถวอย่าง “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลฯไปยันกลางแถวอย่าง “เสี่ยเต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกฯไปจนถึงท้ายแถวอย่างนายพายัพ ปั้นเกตุ ขาใหญ่เสื้อแดง ทีมงานกุนซือตึกไทยฯ

ดาหน้าปรามาส “ม้าแก่ตกยุค” ม็อบไร้น้ำยา

...

รุมทุบเครดิต ไม่ให้ราคา “แป๊ะลิ้ม” นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำค่ายพันธมิตร ผู้นำจิตวิญญาณ ขบวนการคนเสื้อเหลือง ที่ขยับเคลื่อนไหวใหญ่ ประกาศระดมมวลชนลงถนนเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต

ขู่ปิดเกมรัฐบาลเพื่อไทย สกัดพฤติการณ์ขายสมบัติชาติ

บรรยากาศไม่เอื้อ หัวเชื้อชนวนอุ่นเตาติดยาก เข้าเหลี่ยมดักแทงเข่า ฟอร์ม “นายใหญ่” กระตุกลูกหาบ เบิ้ลกลับ “แป๊ะลิ้ม” ไม่กลัว “โจทก์เก่า” ทีม “พันธมิตรเสื้อเหลือง” รีเทิร์น เปิดวิกงานงิ้วฤดูหนาว พักเบรกยาวปีใหม่

และก็ไม่ชัวร์ด้วยว่าหลังเทศกาลหยุดยาว ไฟม็อบจะจุดติดหรือไม่

กับปฏิบัติการโหมไฟไล่รัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน ด้วยข้อหาที่คุ้นชินคือ “ขายสมบัติชาติ” ที่ปั่นชนวนโหม หัวเชื้อร้อน จากเมกะโปรเจกต์ยักษ์ ขวางลำการขุดสำรวจก๊าซธรรมชาติพื้นที่ทับซ้อนทะเล “ไทย–กัมพูชา”

ฟื้นตำนาน “สยามเสียดินแดน” ปลุกพลังพิทักษ์ “เกาะกูด”

ณ จุดที่รัฐบาลแค่คิดดังๆ ยังไม่เริ่มกระบวนการเจรจาผ่านวงคณะกรรมการ JTC ของทั้งสองประเทศอย่างเป็นทางการ MOU44 ยังเป็นแค่หลักการกว้างๆที่ค้างเติ่งมากว่า 23 ปี

“บันทึกความเข้าใจ” ที่ไม่ยอมเข้าใจกันเสียที

มาถึงตรงนี้ วันเวลาผันผ่านปัจจัยเปลี่ยนแปลงตามเงื่อนไขสถานการณ์ จากเดิมที่พลังชาตินิยม “คลั่งชาติ” แรงกลบมิติอื่น กลายเป็นสังคมรุ่นใหม่มุ่งไปที่ความจำเป็นในการต้องจัดหาแหล่งพลังงานสำรอง

ไฟต์บังคับก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย–มาเลเซีย เหลือให้ใช้ได้อีกแค่ 10 ปี

ถ้าไม่มีการขุดก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ประเทศไทยหนีไม่พ้นต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศมูลค่ามหาศาล นั่นจะมีผลทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในราคา “มหาโหด” ไปอีกหลายเท่า

เอาแค่ปมนี้ แนวร่วมม็อบคลั่งชาติ ก็หันรีหันขวางแล้ว

แนวโน้มกระแสสังคมไม่อิน ไม่มีอารมณ์ร่วม ที่สำคัญโดยฟอร์มของม็อบจะมีลำหักลำโค่น มันจำเป็นต้องมีมวลชนจัดตั้ง อย่างที่รู้กันในยุคม็อบพันธมิตรเสื้อเหลืองเรืองอำนาจ ต่อเนื่องมาถึงม็อบสลิ่ม กปปส. ฐานกำลังหลักก็ถูกเกณฑ์มาจากฐานเสียงปักษ์ใต้ของพรรคประชาธิปัตย์

ณ จุดที่ ปชป.กระจัดกระจาย แตกกระเจิง เสาไฟฟ้าโดนถอนระเนระนาด

ตัดไปได้ในมุมกองหนุนจากพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และก็แทบไม่ต้องไปอ้างอิงกับกระแสมวลชนธรรมชาติ ปรากฏการณ์แบบที่พลัง “ม็อบส้ม” แนวร่วมนักศึกษา ปัญญาชน คนรุ่นใหม่ นัดรวมกันโดยไม่มีแกนนำ ออกมาขับไล่รัฐบาลขุมอำนาจทหารเฒ่า 3 ป.

โดยช่องว่างเจเนอเรชัน ยากที่เด็กจะมั่วผสมโรงกับม็อบคนแก่

ที่แน่ๆ “กุมารเท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ส่งสัญญาณชัดเจนว่า “ค่ายส้ม” ไม่ยุ่งด้วยกับเกมเคลื่อนม็อบลงถนนไล่รัฐบาล

แนวทางแน่วแน่ ยึดกระบวนการในสภาเป็นหลักเท่านั้น

สรุปแนวรบม็อบยัง “เอาอยู่” แต่นั่นก็ประมาทไม่ได้ “นายกฯอิ๊งค์” ต้องแตะเบรกอาการฮึกเหิมของพ่อ “ผู้ครอบครอง” บล็อกชนวนไวไฟที่พร้อมจะลุกพรึบพรับได้ทุกขณะ เพราะมันมีจุดที่ไฟระอุคุขึ้นมาแล้ว

ทั้งการดึงดันตั้ง “เสี่ยโต้ง” นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตขุนคลัง รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ยึดแท่นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ท้าทายพลังมนต์ขลัง “วังบางขุนพรหม” ปู่โสมฯถูกปลุก คณะศิษย์ “หลวงตามหาบัว” ไม่ถอยแน่บวกกับปม “อภิสิทธิ์ชน” วีไอพีชั้น 14 ที่กลุ่ม “สันติอโศก” เหล่าสาวกสมณโพธิรักษ์ เฝ้ากัดติด ไม่ยอมเลิกรา

ถ้าไฟไหลลามเป็นกองเดียวกัน เชื่อมกับม็อบเหลืองได้ทันที

และนั่นก็จะโยงไปถึงแนวรบ “นิติสงคราม” ที่เบาบางไปกับพลังคนบ้านป่าฯ แต่พร้อมจะกลับมาตึงเครียด ในจังหวะถ้าทีม “นายใหญ่” เพลี่ยงพล้ำ โดนม็อบล้อมกรอบล้มกระดาน

ม็อบได้แค่รอจังหวะ “นายใหญ่” ห้าว พลาดเข้าทางบาทาเอง

เกมการเมืองบนถนนยังไม่มีช็อตเร้าใจ โฟกัสการต่อสู้ทางการเมืองมุ่งไปที่เหลี่ยมชิงอำนาจในสภาเป็นหลักมากกว่า กับเกมท้าทาย “นายใหญ่” ค่ายเพื่อไทยต้องเปิดโหมดสู้พร้อมกัน 2 ทาง

“นายใหญ่” จันทร์ส่องหล้า ต้องแก้โจทย์สมการอำนาจซ้อน 2–3 ชั้น

ขั้นแรกคือเปิด “ศึกใน” ยุทธการ “ปาดหน้า” แย่งกัน “ถือธง” ขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม รักษาแต้มต่อ ประคองสถานะผู้ถือดุลต่อรองใน “ดีลลังกาวี”

เหลี่ยมบังคับต้อง “ปิดเลน” บังทาง สกัดเกรียน 2 น. เซราะกราว “เนวิน ชิดชอบ–อนุทิน ชาญวีรกูล” สองผู้ยิ่งใหญ่ แห่งค่ายภูมิใจไทย ที่เร่งเครื่องแรง นำทีมน้ำเงินเบียดแซงขึ้นมาหายใจรดต้นคอ

เจอกระแทก ส่อแหกโค้ง “เขากระโดง” สนามช้าง บุรีรัมย์

ตามจังหวะ “นายใหญ่” สั่งวาง ตะปูเรือใบ ไล่เจาะยาง ทั้งเกมการเมืองผ่านกระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฯ ไล่บี้กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เร่งถอนโฉนด

โคตรเซียนการตลาด เล่นกระแสสื่อกดดัน เร่งบังคับเงื่อนปมกฎหมาย

แม้แต่จังหวะโหมโรงงานงิ้วของขาใหญ่ม็อบพันธมิตรฯที่พุ่งเป้าถล่ม “เขากระโดง” เน้นๆเนียนไปกับจังหวะแยกเขี้ยวใส่ทีมเพื่อไทย เหมือนเป็นแนวร่วมมุมกลับ สับขาหลอกเหยียบเท้ากันเล่นกับ “นายใหญ่”

ยุทธการ “สหบาทา” ทำลายฐานที่มั่น 2 น. เกรียนเซราะกราว

เพราะขืนเอาไม่อยู่ “นายใหญ่” ต้องเสียธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยมแน่ ตามความร้อนแรงของทีมสีน้ำเงินที่รุกกลืนพื้นที่การเมืองสีแดง กุมสภาพทั้งวุฒิสภา ล่าสุดยังยึดชัยภูมินายก อบจ.ไว้เป็นกอบเป็นกำ

ไม่เว้นแม้แต่การปักธงในภาคใต้ โซนต้องห้ามของ “ทักษิณ”

เกมอำนาจบังคับ “นายใหญ่” ต้องกอดคอตุ๊ยท้อง “ครูใหญ่” เล่นละครน้ำเน่า ตบจูบกับภูมิใจไทย ชิงเหลี่ยม “เพื่อนกิน” ในห้วงอายุที่เหลือของรัฐบาลผสมสูตรพิสดาร

ในขณะที่เกมยาวๆก็ต้องบี้กับค่ายสีส้ม พรรค ประชาชน

บู๊กับเด็กกำลังโตตามธรรมชาติ ที่พร้อมยืนระยะ รอ “พระเอกเกาหลี” อย่าง “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พ้นโทษแบน 10 ปี กลับมาลุ้นชิงผู้นำในฝันของกองเชียร์ด้อมส้ม กวาดแต้มปัญญาชน คนชั้นกลาง

ศึกใน ระยะสั้น ศึกนอก ระยะยาว โจทย์หินท้าทายโคตรเซียน

ทดสอบพลัง “ทักษิณ ชินวัตร” ห้วงสังขารโรยรา.

“ทีมการเมือง”

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม