“ครม.อิ๊งค์” ไฟเขียวทุ่ม 1.9 หมื่นล้าน ปั่นโครงการเร่งด่วน-ระยะยาว ฟื้นฟูเชียงใหม่-เชียงราย หลังน้ำท่วมใหญ่ ให้กระทรวงเกษตรฯ 2.7 พันล้านสู้น้ำท่วมทั่วประเทศ “นายกฯ” เผยเห็นชอบลุย 39 โครงการ เร่งด่วน 641 ล้าน ให้พร้อมกลับรับนักท่องเที่ยว “แพทองธาร” โวยยังไม่จำเป็นต้องก่อม็อบลงถนน คาใจปลุกคลั่งชาติมีการเมืองแอบแฝง “นพดล” แนะ ใช้ ม.152 ดึงเข้าเวทีสภาฯ ถกหาทางออก “ธีระชัย” ร่อนจดหมายเตือน นายกฯ ตั้งกรรมการเจทีซีเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ท้ารัฐบาลดีเบตเอ็มโอยู 44 “วันนอร์” บรรจุ 17 ร่างแก้รัฐธรรมนูญเข้าสภา ธ.ค. ยันรื้อรายมาตราแก้ ม.256 ไม่ต้องทำประชามติ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำทีมประชุม ครม.สัญจรครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่ โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการฟื้นฟูพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยของ จ.เชียงใหม่และเชียงราย ระยะเร่งด่วน 39 โครงการ วงเงิน 641.13 ล้านบาท พร้อมเห็นชอบหลักการโครงการเร่งด่วนและระยะยาวแก้ปัญหาของ จ.เชียงใหม่และเชียงราย วงเงิน 19,282 ล้านบาท
“นายกฯอิ๊งค์” ยกครอบครัวสัญจรเชียงใหม่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 พ.ย.ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 หรือ ครม.สัญจร ครั้งแรกในรัฐบาลนี้ ภายใต้ธีม “From Flood to Flourish (ฟื้นคืนน้ำท่วมสู่ความเฟื่องฟู)” สื่อถึงการที่ ครม.สัญจรมา จ.เชียงใหม่ จะเป็นแสงสว่างช่วยสร้างความเฟื่องฟูให้ชาวเชียงใหม่อีกครั้ง หลังผ่านพ้นมหาอุทกภัยครั้งใหญ่และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวไฮซีซัน โดย น.ส.แพทองธาร นั่งรถตู้โฟล์กสวาเกน สีดำ ทะเบียน นก 9999 เชียงใหม่ พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาว และ ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรสาว เมื่อมาถึง น.ส.แพทองธารและครอบครัวเดินเยี่ยมชมบูธจัดแสดงสินค้าพื้นเมือง โดย น.ส.แพทองธารชิมชาและกาแฟร้าน 365 Day of Cafe at North เมื่อถึงบูธกาแฟเทพเสด็จที่นำผลิตภัณฑ์กาแฟและส้มสายน้ำผึ้ง จากไร่ธนาธรมาจัดแสดง น.ส.แพทองธารเอ่ยปากแซวอย่างอารมณ์ดีว่า “มีส้มธนาธรแล้วมีส้มปิยะบุตรหรือเปล่า” เมื่อเดินผ่านบูธขายผลิตภัณฑ์งานฝีมือ จึงหันไปบอกบุตรสาวว่าแม่เห็นหมูเด้งด้วย และได้ซื้อกล่องกระดาษทิชชูและผ้าเช็ดมือรูปตุ๊กตาหมูและช้างให้ลูกทั้ง 2 คน
...
ร้านโอทอปไม่ลืมบุญคุณ “ทักษิณ”
ผู้สื่อขาวรายงานว่า นายกฯยังได้ชมบูธเครื่องเงินที่ใช้เส้นเงินมาสานเป็นกระเป๋า จึงหันไปบอกนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ว่า แบบนี้ต้องนำไปโปรโมต เพื่อขายนักท่องเที่ยว โดยนายกฯได้ซื้อกระติ๊บเครื่องเงินไปฝากคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา เยี่ยมชมอุดหนุนบูธผ้าพื้นเมือง มีเจ้าของร้านสินค้าโอทอปได้ขอบคุณนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ริเริ่มโครงการโอทอป พร้อมชี้ให้ดูรูปที่ถ่ายคู่กับนายทักษิณ น.ส.แพทองธารจึงเรียกลูกสาวลูกชายมาดู เด็กๆพากันบอกว่า “ตาๆ” ทั้งนี้ นายกฯกล่าวว่า พาลูกๆมาด้วย เพราะไม่ได้มาบ้านที่ จ.เชียงใหม่นาน ต้องการให้เห็นว่าแม่ทำงานอย่างไร โดยก่อนประชุมตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม มาต้อนรับมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ขอถ่ายรูปเซลฟี่คึกคัก นายกฯได้ชมการแสดงชุดเต้นมูเซอจากนักเรียน ร.ร.ฝางชนูปถัมภ์และเยาวชนจากหมู่บ้านสูนน้อย อ.ฝาง ก่อนถ่ายภาพร่วมกับ ครม. และผู้แทนภาครัฐ ทั้งนายกฯและรัฐมนตรีต่างสวมเสื้อผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติด้วยครั่งเป็นสีชมพูบานเย็น ปักลายพระราชทาน “ลายสิริวชิราภรณ์” และ “ลายดอกรักราชกัญญา” แสดงออกถึงความจงรักภักดี
เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟู 641 ล้าน
ต่อมาเวลา 12.20 น. น.ส.แพทองธารแถลงผลการประชุม ครม.ว่า จ.เชียงใหม่และเชียงรายน้ำท่วมจบแล้ว ท่องเที่ยวได้แล้ว จะมีงาน Winter festival จัดทุกจังหวัดรวมกัน จึงมาตอกย้ำว่าภาคเหนือจะร่วมมือกับงานดังกล่าว ยังมีอีกหลายรายการรองรับนักท่องเที่ยวและต่างชาติช่วงปลายปีและต้นปี 2568 จากนี้รัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปพูดคุยกับภาคส่วนต่างๆ รับมือและหาทางใช้นวัตกรรมทำให้ปัญหาหมอกควันลดน้อยลงและดูแลสุขภาพประชาชนเป็นหลัก โดย ครม.เห็นชอบมาตรการรับมือสถานการณ์ของไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองในปี 2568 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯเสนอควบคุมพื้นที่เผาไหม้จากการเผาข้าวโพด อ้อยและโรงงานอุตสาหกรรม ประกาศห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าเขตเมืองและตรวจจับรถควันดำเข้มงวด และ ครม.ได้เห็นชอบหลักการโครงการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยของ จ.เชียงใหม่และเชียงราย ระยะเร่งด่วน 39 โครงการ วงเงิน 641.13 ล้านบาท ให้จังหวัดขอรับการจัดสรรงบกลาง ปีงบฯ 68 ซ่อมแซมคมนาคม เขื่อนป้องกันตลิ่งและระบบระบายน้ำ รวมถึงโครงการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว
ไฟเขียว 1.9 หมื่นล้านแก้ปัญหา 2 จว.
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุม ครม.สัญจรว่า ครม.เห็นชอบหลักการตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอโครงการเร่งด่วนและระยะยาวของ จ.เชียงใหม่และเชียงราย วงเงิน 19,282 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ประชาชน 2 จังหวัด โดย จ.เชียงใหม่ ของบฯแก้ไขถนนที่พังจากอุทกภัย ส่วน จ.เชียงราย เป็นโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ถนน น้ำประปา ไฟฟ้า สาธารณูปโภค เยียวยาประชาชน ทั้งนี้ จ.เชียงใหม่มีโครงการระยะยาวพัฒนาซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานป้องกันและบรรเทาผลกระทบอุทกภัย วงเงิน 5,200 ล้านบาท เป็นแนวทางรัฐบาลหากปีหน้ามีปริมาณน้ำฝนมากจนเกิดอุทกภัยจะได้แก้ไขทั้งระยะสั้นและระยะยาว และ ครม.ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งประเทศ โดยลดภาระด้านภาษีซ่อมแซมบ้าน รถที่ได้รับความเสียหาย
เทงบฯ กษ.สู้น้ำท่วม 2.7 พันล้าน
ด้าน น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.เห็นชอบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขออนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำและเตรียมความพร้อมโครงการและฟื้นฟูโครงการที่ได้รับ ความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 523 รายการ วงเงิน 2,787,008,900 บาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพซ่อมแซม ปรับปรุง ระบบชลประทานที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเตรียมความพร้อมบริหารจัดการน้ำ ด้านอุทกภัยและภัยแล้ง ในอนาคต เพื่อการอุปโภคบริโภคและสามารถช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยและภัยแล้งได้อย่างทันท่วงที
กำชับจัดการไฟป่า-PM 2.5 เด็ดขาด
ต่อมาเวลา 13.45 น. ที่ห้องประชุมสโมสรยอดทัพ กองพลทหารราบที่ 7 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม นายกฯลงพื้นที่ประชุมมอบนโยบาย แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ประจำปี 2568 ตอนหนึ่งว่า จะขอความร่วมมือเอกชนช่วยรับซื้อซังข้าวโพดนำมาแปรรูป ฝากกระทรวงมหาดไทยจะทำอย่างไร สร้างแรงจูงใจไม่ให้เผา กระทรวงเกษตรฯ ช่วยให้ความรู้นำไปแปรรูปใช้อย่างอื่นเพื่อให้มีรายได้เพิ่มได้หรือไม่ อยากให้แก้ปัญหาระยะยาว ขอกระทรวงดีอีพัฒนาลิงก์ระบบตรวจจับฝุ่นควันและระบบแจ้งเตือน ไม่แน่ใจมีสายด่วนแจ้งหรือไม่ จะได้รวดเร็ว ไฟไหม้รอนานไม่ได้ หาก จ.เชียงใหม่-เชียงราย ต้องการอุปกรณ์ดับไฟเพิ่มพร้อมสนับสนุนขอให้แจ้งมา ฝากกระทรวงสาธารณสุขดูสุขภาพแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและนักท่องเที่ยวให้ชัดเจน ตั้งใจว่าต้องการจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด ปีที่แล้วฝุ่นลด 50% รอดูกันว่าปีนี้จะลดได้อีกกี่เปอร์เซ็นต์ จากนั้นนายกฯตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติ หน้าที่ป้องกันไฟป่า มอบถุงเสบียงยังชีพให้ตัวแทนเจ้าหน้าที่ โดยมีศิษย์เก่ามงฟอร์ต 2508 เพื่อนร่วมรุ่นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถือป้ายต้อนรับ
คนสันกำแพงอวยกัปตัน Soft Power
ต่อมาเวลา 16.10 น. น.ส.แพทองธารไปติดตามโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและโครงการสำคัญที่กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบฯปี 68 ที่โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ ต.สันกลาง อ.สันกำแพง มีชาวสันกำแพงมาให้กำลังใจทำป้ายรูป น.ส.แพทองธาร สวมชุดซุปเปอร์ฮีโร่หญิง เขียนข้อความ “Soft Power อำนาจแห่งความสร้างสรรค์ เพื่อสรรค์สร้างเศรษฐกิจไทย CAPTAIN SOFT POWER ชาว อ.สันกำแพง ขอร่วมขับเคลื่อนนโยบาย soft power เต็มพลัง” จากนั้นเวลา 16.40 น. นายกฯไปที่ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ OLD Chiang Mai ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมงาน Northern Coffee Gathering 2024 มีสามีและลูกๆมาสมทบเดินเยี่ยมชมร้านค้า อุดหนุนกระเป๋าผ้าฝ้าย หมวกผ้าฝ้ายแฮนด์เมด และซื้อไอศกรีมให้ลูกๆ จากนั้นนายกฯร่วมล้อมวงคุยกับผู้ประกอบการกาแฟ โรงแรมและการท่องเที่ยวในพื้นที่ ผู้ประกอบการกาแฟ อยากให้มีนโยบายฟื้นฟูพื้นที่ป่าเชิงดอย ปรับภาษีกาแฟให้เหมาะสม แข่งขันกาแฟต่างชาติได้ โดยนายกฯ กล่าวว่า เรื่องภาษีและกฎหมายที่มีมานาน 30 ปี คงต้องไปว่ากันในสภาฯ ถือเป็นเรื่องจำเป็น
นายกฯชี้ยังไม่จำเป็นต้องก่อม็อบ
อีกเรื่องที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจัดชุมนุมครั้งสุดท้ายว่า เราต้องรักษาความสงบในประเทศให้ได้มากที่สุด จะกระทบกับการท่องเที่ยวและประเทศแน่นอน ความคิดเห็นประชาชนสำคัญเสมอ เรามีกระบวนการรับ การจะเกิดม็อบหรืออะไรเราพูดคุยกันได้ จึงยังไม่น่าจะเป็นสิ่งจำเป็น นายสนธิจะยื่นหนังสือคัดค้าน MOU44 คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ ไม่มีพิเศษกรณีไหน ไม่เช่นนั้นจะมีเคสใหม่เรื่อยๆ มีเรื่องเดียวที่เดินหน้าคือการตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (JTC) เจรจาระหว่างสองประเทศ ประเด็น MOU44 จะให้ข้อมูลประชาชนเรื่อยๆ จะเดินต่อหรือไม่ขอให้ผ่านคณะกรรมการ MOU ยกเลิกได้ตามหลักกฎหมาย แต่ถามว่าควรยกเลิกฝ่ายเดียวหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ คุยกันก่อนจะดีกว่า เราพยายามไม่ให้คนในประเทศเข้าใจผิด การจะตกลงเรื่องนี้ควรคุยกันระหว่างสองประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยก
คาใจมีปมการเมืองแอบแฝงหรือไม่
เมื่อถามว่ารัฐบาลชี้แจงในเรื่อง MOU44 แต่ยังคงมีคำถามเข้ามาเรื่อยๆ มองว่ามีอะไรนอกเหนือจากเรื่อง MOU44 ซ่อนอยู่ในนั้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารนิ่งคิดก่อนกล่าวว่า อาจจะเป็นประเด็นทางการเมืองหรือเปล่า ประเด็นทางการเมืองมีมากมาย ทุกวัน แต่เรื่องระหว่างประเทศอ่อนไหว คำพูดนายกฯ หรือ รมว.ต่างประเทศ หากสื่อสารออกไปด้วยความระมัดระวังและเห็นอกเห็นใจทั้งสองฝ่าย แต่พื้นที่ที่เราคุยกันมายังคงเป็นเพียงพื้นที่อ้างสิทธิ์ ยังไม่มีการเคาะอะไรทั้งสิ้น ทั้งเราและกัมพูชายังไม่มีใครเสียผลประโยชน์อะไร เราต้องคุยกันก่อน “แน่นอนว่าดิฉันเป็นนายกฯของประเทศไทย ไม่มีทางเห็นประเทศใดสำคัญกว่าประเทศไทย ขอให้มั่นใจว่าเกิดในแผ่นดินนี้ ไม่มีทางจะเห็นที่ไหนดีกว่าบ้านเรา เราตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคุยด้วยเหตุผล MOU44 มีมานานแล้ว ต้องฟังข้อมูลจริงให้ครบ อย่าเอาเรื่องกระแสหรือความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศมาทำให้กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ อะไรที่เป็นปัญหาเราไม่ชนกับปัญหาอย่างแน่นอน เราต้องค่อยๆร่วมกันแก้ไข”
“นพดล” วอนใช้สภาฯหาทางออก
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. และอดีต รมว.ต่างประเทศ แถลงเรียกร้องกลุ่มการเมืองหรือบางบุคคลที่กำลังปลุกกระแสการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาว่า อาจเป็นประเด็นทำให้ไทยเสียดินแดน ขอให้ยุติใช้ความเท็จที่สร้างผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลและความมั่นคงของประเทศ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2551 ที่ตนถูกโจมตีและใส่ร้ายเป็นผู้ทำให้ไทยเสียดินแดนจากกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ขอเรียกร้องให้ใช้กลไกรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เปิดประชุมรัฐสภาให้ สส.ฝ่ายรัฐบาล สส.ฝ่ายค้านและ สว.อภิปรายทั่วไป ซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. เพื่อลดกระแสกลุ่มที่จะลงถนน ใช้เวทีสภาหาทางออกร่วมกัน และคนจัดม็อบคุยผ่านตัวแทนในสภาฯได้จะดีที่สุด การเจรจาผลประโยชน์ ทางพลังงาน ตามกรอบ MOU 44 ต้องเจรจาประเด็นหลักเขตที่ 73 ให้แล้วเสร็จก่อน ก่อนหน้านั้นกัมพูชาได้ลากเส้นเอง ไม่ถือว่าเป็นเส้นที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่เป็นไปตามกรอบของ MOU จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่กัมพูชาต้องเจรจาเส้นเขตแดนกับไทยตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ
“เด็จพี่” ย้อน “สนธิ” 5 ปีก่อนพูดอะไรไว้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท. กล่าวว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ควรก่อม็อบค้าความขัดแย้ง ถ่วงรั้งขัดขวางความเจริญประเทศชาติ เมื่อ 5 ปีก่อนเคยประกาศหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษออกจากเรือนจำว่าจะให้ความรู้คน ไม่ออกมาลงถนนแล้ว วันนี้ทำไมจะกลับคำออกมานำม็อบมีวาระอะไรแอบแฝงหรือมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ สำรวจแนวร่วมเครือข่ายไม่มี ไม่ว่าทุน ทหารหรือพรรคการเมือง และยังไม่มีชนวนเหตุอะไร การประกาศจะเคลื่อนไหวดูไม่ปกติ ปลุกกระแสคลั่งชาติบอกว่าไทยจะเสียดินแดนให้กัมพูชา มโนสร้างเรื่องปลุกปั่นกันไปไกลประหนึ่งว่าไทยเสียดินแดนไปแล้ว
พปชร.ท้ารัฐบาลดีเบต MOU 44
เมื่อเวลา 11.00 น.ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ แถลงกรณี MOU 44 ว่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เพื่อให้คำแนะนำการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคชุดใหม่ (JTC) อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เพราะมีพยานเอกสารหลักฐานราชการ ที่มีบทความเขียนโดยนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ผู้ลงนามเอ็มโอยูและแถลงการณ์ร่วมที่ลงนามโดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับสมเด็จฮุน เซน อดีต นายกฯกัมพูชา มีข้อความสำคัญบรรยายว่าทั้ง 2 ไปทำหน้าที่เป็นประธานพิธีลงนาม MOU 44 และรับรอง MOU 44 ที่มีสถานะเป็นสนธิสัญญา แต่ไม่ได้ผ่านรัฐสภา และนำขึ้นกราบบังคมทูลฯ ตามรัฐธรรมนูญปี 40 ดังนั้น MOU 44 เป็นโมฆะ ไม่มี ผลบังคับตั้งแต่ต้น ยังมีข้อพิรุธที่เอาภาคเอกชนไปร่วมเจรจา ปกติต้องเป็นทางราชการ ประชาชนกังวลว่า MOU 44 ที่ไม่เจรจาอาณาเขตพื้นที่พัฒนาร่วมกันให้เสร็จก่อน น่าสงสัยมีประโยชน์ซ่อนเร้น ยังเอาแผนที่ไปใส่ ทำให้ไทยเสี่ยงเสียดินแดน มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทางออกดีที่สุดควรจัดเวทีสาธารณะ รัฐบาลและพรรค พปชร.ขึ้นพูดฝ่ายละ 3 คน ประชาชนจะได้กระจ่าง
“ไพบูลย์” ลุยฟ้องแพ่ง-อาญาคนให้ร้าย
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.ประธานคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายของพรรค เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏตามสื่อสารมวลชนต่างๆมีบุคคลที่ทั้งเคยหรือไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงพรรคหรือบุคคลในพรรคลักษณะใส่ความอันเป็นเท็จในทางเสียหายต่อชื่อเสียง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ฝ่ายกฎหมายพรรคกำลังรวบรวมพยานหลักฐานจากข่าวหรือคลิปข่าว เพื่อพิจารณาใช้สิทธิทางศาลปกป้องชื่อเสียงและเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องของประชาชน ทั้งนี้พรรคจะมอบหมายให้ทนายความดำเนินคดีฟ้องต่อศาลแพ่งและศาลอาญา เพื่อเอาผิดบุคคลดังกล่าวจนถึงที่สุด
“อิ๊งค์” ชี้พ่อส่งผลถึง พท.เรื่องปกติ
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พท.ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี เป็นสัญญาณของพรรค พท.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ว่า เราต้องทำให้เต็มที่ทุกจังหวัด ทั้งท้องถิ่นและส่วนกลางต้องประสานกันเสมอ ถ้าเรามีท้องถิ่นที่เชื่อมต่อกับศูนย์กลางได้ดีจะเป็นเรื่องดี ทุกพรรคที่ส่งผู้สมัครลงแข่งต้องเต็มที่ทุกพรรค ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปขึ้นเวทีช่วยหาเสียง อย่างที่เคยพูดไว้ตลอด นายทักษิณเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยคือพรรค พท.ปัจจุบัน ฉะนั้นความมั่นใจที่นายทักษิณสร้างขึ้น มีผลต่อคน พท.เป็นเรื่องปกติ
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เตรียมลงพื้นที่ช่วยพรรค พท.หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ จ.อุบลราชธานี เชียงใหม่ และ จ.ศรีสะเกษ ว่า นายทักษิณไปตามคำเชิญของนายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมช.มหาดไทย แกนนำพรรค พท. แต่คงไม่มีการปราศรัย ไปให้กำลังใจกัน ที่ จ.เชียงใหม่ น่าจะมี จ.ศรีสะเกษ ผู้สมัครจะเชิญนายทักษิณไปเป็นผู้ช่วยหาเสียง
ปัด ภท.–รทสช.ส่ง “ถาวร” ยึดสงขลา
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรค ภท.จับมือพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) สนับสนุนนายถาวร เสนเนียม อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงสมัครนายก อบจ.สงขลาว่า ไม่เป็นความจริง คนสนใจลงชิง 3 คน มีพรรค ปชป. พรรค ปชน.และในนามอิสระ แต่ตนอาจสนับสนุนผู้สมัครสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) ยืนยันพรรค ภท.จะไม่ส่งชิงนายก อบจ.สงขลา การเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เป็นการร่วมด้วยช่วยกันเป็น ความสามารถผู้สมัคร ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง เท่าที่เห็นช่วยกันหลายพรรค ไม่ได้เข้าไปยุ่งมากมายแค่ให้คำปรึกษาบ้าง การรวมกันตีไม่สามารถทำได้ในการเลือกตั้งใหญ่ เพราะถึงเวลาแต่ละพรรค มีกลยุทธ์การต่อสู้ และพื้นที่ อย่าคิดว่าจะรวมกันตี เพราะเป็นไปไม่ได้
“เฉลิมชัย” ขออย่าเหมา ปชป.ถูกรุม
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช มารดานายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.แพ้จะส่งผลการเลือกตั้ง สส.สมัยหน้าหรือไม่ว่า พรรค ปชป.ไม่ได้ส่งผู้สมัครในนามพรรค ใครอยู่พื้นที่ใครให้ไปดูแลกันเอง เมื่อถามว่า แม้พรรคไม่ได้ส่งแต่เป็นมารดา สส.พรรค ขณะที่ผู้ชนะสังกัดพรรค ภท. มี สส.พรรครทสช.สนับสนุน เหมือนพรรค ปชป.ถูกรุมในภาคใต้ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า การเมืองอย่าไปคิดแบบนั้น ประชาธิปไตยใครรักใครชอบใคร เชียร์กัน เมื่อถามว่าเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา แม้ว่าพรรค ปชป.ไม่ได้ส่งผู้สมัคร แต่นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข เลขาธิการพรรคเปิดตัวสนับสนุนนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและมีกระแสข่าวว่านายถาวร เสนเนียม จะลงชิงนายก อบจ.ด้วย ทำให้พรรค ปชป.ถูกแย่งฐานเสียงหรือไม่ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ให้ถึงเวลาก่อนแล้วค่อยว่ากัน
“วันนอร์” บรรจุ 17 ร่างแก้ รธน.เปิดสภา
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังพูดคุยกับกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ เบื้องต้นมีแนวทางจะรับฟังและบรรจุเรื่องแก้มาตรา 256 ได้ในรอบเปิดสมัยประชุมหน้าได้หรือไม่ว่า เมื่อเปิดสภาฯเดือน ธ.ค. จะพิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาที่บรรจุไว้ 14 ฉบับและเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเสนอมาอีก 3 ฉบับรวมเป็น 17 ฉบับ แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน อาจภายในเดือน ธ.ค.นี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้มีตัวร่างแล้ว ประธานสั่งบรรจุอย่างเดียวจะสำเร็จ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายส่วน เช่น บางส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประชามติที่ยังไม่เรียบร้อย บางส่วนอาจเกี่ยวข้องกับการพิจารณาของทั้ง 2 สภาด้วย สภาได้บรรจุทุกเรื่องที่ไม่ขัดรัฐธรรมนูญหรือการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยเมื่อปี 2564 แต่ที่เสนอมาทั้งหมด 14 ฉบับ ได้บรรจุให้หมดไม่มีฉบับใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการแก้ไขรายมาตรา ไม่ได้แก้ทั้งฉบับ
บรรจุร่างแก้ ม.256 ของ ปชน.ด้วย
เมื่อถามว่า กรณีแก้ทั้งฉบับที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ แนวทางจะเป็นอย่างไร ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ร่างของนายพริษฐ์บรรจุทุกฉบับ รวมทั้งการแก้ไขมาตราที่สำคัญคือมาตรา 256 ด้วย สมัยประชุมที่แล้วมีการเสนอแก้ไขมาตรา 256 แต่ไม่ได้รับการบรรจุ เพราะไปขัดแย้งกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 2564 แต่การเสนอครั้งนี้ฝ่ายประสานงานกฎหมายสภาและตนเห็นว่าไม่ได้ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญเรื่องการแก้ไข นำมาพิจารณาได้ ถ้าผ่านก็แก้ไขได้ ขึ้นอยู่กับรัฐสภา เมื่อถามย้ำว่าจะแก้ไขสำเร็จในรัฐบาลนี้ตามเป้าหมายหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ฝ่ายสภาพยายามให้กำลังใจ อยากให้สำเร็จ เพราะเชื่อว่าประชาชนคงอยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ แต่ปัญหาอุปสรรค อย่างที่บอกไปแล้วขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐสภา ถ้าบางฉบับต้องใช้ประชามติ ต้องทำประชามติ ยืนยันว่าทุกฉบับที่อยู่ในสภาขณะนี้เป็นการแก้ไขรายมาตรา ไม่มีฉบับใดต้องไปทำประชามติ ยกเว้นจะมีฉบับที่เสนอขึ้นมาใหม่แล้วต้องทำประชามติเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่