คณะรัฐมนตรี รับทราบหลักการปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60-69 ปี เป็นเดือนละ 700 บาท อายุ 70-79 ปี เป็นเดือนละ 850 บาท, อายุ 80-89 ปี เดือนละ 1,000 บาท อายุ 90 ปีขึ้นไป เดือนละ 1,250 บาท พร้อมปรับเบี้ยผู้พิการเพิ่มเป็น 1,000 บาท

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.สัญจรว่า ครม.รับทราบข้อเสนอ เรื่องการพัฒนาหลักประกันบริการทางสังคมแก่กลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยกลุ่มผู้สูงอายุปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ อายุ 60-69 ปี เป็นเดือนละ 700 บาท จาก 600 บาท, อายุ 70-79 ปี เป็นเดือนละ 850 จาก 700 บาท, อายุ 80-89 ปี เดือนละ 1,000 บาท จาก 800 บาท และ อายุ 90 ปีขึ้นไป เดือนละ 1,250 บาท จาก 1,000 บาท ขณะที่กลุ่มผู้พิการปรับเพิ่มเป็น 1,000 บาท จาก 800 บาท โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการ ให้คำนึงถึงประโยชน์และความคุ้มค่า และให้นำกลับเข้าที่ประชุมครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง

“นายกฯ อิ๊ง” ชวนเที่ยวเชียงใหม่เชียงราย

ขณะที่เมื่อเวลา 12.20 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า วันนี้เป็นการประชุม ครม. สัญจรครั้งแรกที่มาจ.เชียงใหม่ และจะลงพื้นที่เชียงรายต่อ จึงถือโอกาสติดตามเรื่องของอุทกภัยและการเยียวยา ตนมายืนยันว่าทั้งเชียงใหม่และเชียงรายท่องเที่ยวได้แล้ว เพราะน้ำท่วมจบเรียบร้อยแล้ว เมืองพร้อมเที่ยว และนอกจากนั้นจะมีงาน Winter Festival ที่จะจัดทุกจังหวัดรวมกัน วันนี้จะมาตอกย้ำว่าภาคเหนือจะร่วมมือกับงานดังกล่าว และยังมีอีกหลายรายการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวให้เป็นจุดสนใจทั้งคนไทยและต่างชาติ ให้มาทำกิจกรรมในปลายปีและต้นปี 2567 และหลังจบ ครม. สัญจร รัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปพูดคุยกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเตรียมรับมือและหาทางใช้นวัตกรรมในการทำให้ปัญหาหมอกควันลดน้อยลงและดูแลเรื่องสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก โดยปีนี้มีแนวทางการแก้ไขปัญหาในหลายแนวทาง และคาดว่าน่าจะช่วยบรรเทาฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างมาก

...

ครม. เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบหลักการโครงการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยของจ.เชียงใหม่และเชียงราย ระยะเร่งด่วน 39 โครงการ วงเงิน 641.13 ล้านบาท โดยให้จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายขอรับการจัดสรรงบประมาณจากปีงบประมาณ 2568 งบกลาง ตามรายการของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเป็นโครงการซ่อมแซมคมนาคม เขื่อนป้องกันตลิ่งและระบบการระบายน้ำ รวมถึงโครงการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว เมื่อถามว่าจะมีการขยายมาตรการเพิ่มเติมเรื่องการท่องเที่ยวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่ายังมีอีกหลายมาตรการ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยจะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้เสนอรายละเอียดต่อไป

นายกฯ อิ๊งค์ ชวนรับชมขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยังแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า รัฐบาลขอประชาสัมพันธ์การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวเนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา และเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วได้ในวันที่ 4 ธ.ค. 2567 ตลอดเส้นทาง และประชาชนสามารถสักการะพระเขี้ยวแก้วในระหว่างวันที่ 5 ธ.ค. 2567 - 14 ก.พ. 2568