“รองนายกฯ ภูมิธรรม” เยี่ยมชมการจัดนิทรรศการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ จ่อลงพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังครม.สัญจร ลั่นเอาเก้าอี้เดิมพัน ไม่ยอมเสียดินแดน โต้ “สนธิ” อ้างทร.เปลี่ยนฝึกใกล้เกาะกูด ปัดดองเรือดำน้ำเพราะเกิดยุค “บิ๊กป้อม”
วันที่ 27 พ.ย. 2567 ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เยี่ยมชมการจัดนิทรรศการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ บริเวณลานหน้าทางขึ้นห้องสุรศักดิ์มนตรี และภายในห้องสุรศักดิ์มนตรี ในศาลาว่าการกลาโหม โดยมีปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ในสังกัดกระทรวงกลาโหม ร่วมชมนิทรรศการ สำหรับผลงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่นำมาจัดแสดง ประกอบด้วย โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องยิงลูกระเบิด 120 มม. M132 A1 แบบอัตราจรล้อยาง วิจัยโดย ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 120 มม. M132 A1 แบบลากจูง ปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม. คชสีห์ งานวิจัยปืนพก ขนาด 11 มม. เป็นต้น
...
นอกจากนี้ยังมีผลงานจากโรงงานวัตถุระเบิดทหาร กรมการอุตสาหกรรมทหาร ฯ ซึ่งมีขีดความสามารถในการผลิตดินส่งกระสุน ผลิตกระสุนปืนครบนัด ทั้งกระสุนปืนเล็ก กระสุนปืนพก และกระสุนปืนลูกซอง เพื่อสนับสนุนเหล่าทัพ และจำหน่ายแก่ภาคเอกชน รวมถึงโครงการขยายขีดความสามารถในการผลิตดินส่งกระสุนฐานคู่แบบเม็ดกลม สำหรับโรงงานแบตเตอรี่ทหาร สามารถผลิตแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด 4 ชนิด ได้แก่ แบตเตอรี่ทางยุทธการ แบตเตอรี่ทางธุรการ แบตเตอรี่รถไฟ และแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ โรงงานเภสัชกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร จัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความมั่นคงของชาติ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม และกระทรวงสาธารณสุข กรมการพลังงานทหาร ประเมินศักยภาพและแนวทางการพัฒนาแหล่งผลิตปิโตรเลียม รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการกลั่นน้ำมันดิบ และการดำเนินงานด้านพลังงานทดแทน กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม วางแผนให้เป็นหน่วยงานด้านการลงทุน (PMU) เกี่ยวกับโครงการความมั่นคงของประเทศที่เป็น Dual Use
จ่อลงพื้นที่น้ำท่วมจชต.หลังครม.สัญจร
ต่อมา นายภูมิธรรม กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตนได้กำชับการทำงานในที่ประชุมสภากลาโหมวันนี้ และตนจะลงพื้นที่หลังการประชุมครม.สัญจร เชียงใหม่ เชียงราย ถือโอกาสตรวจเยี่ยมหน่วยงานไปด้วย ตนไม่อยากไปดูตอนที่เกิดเหตุซึ่งจะทำให้เขาวุ่นวาย เสียเวลาในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แต่อย่างน้อยที่สุดจะให้เห็นว่า เราใส่ใจ ไปรับเรื่องราวแก้ไขปัญหาต่อ
นายภูมิธรรม กล่าวถึงสถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างทหารว้าและทหารไทย ชายแดนทางภาคเหนือ ว่า ก็ไม่มีอะไรสถานการณ์สงบปกติ โดยตนเองได้สอบถาม ผบ.ทบ. แม่ทัพภาคที่ 3 ได้รับคำตอบว่า ไทยกับว้าอยู่ร่วมกันมานานตามเขตแดนที่กำหนดไว้ว่าแต่ละฝ่าย และยืนยันว่า ไม่มีการรบกันอย่างแน่นอน ไม่แน่ใจว่าข่าวออกมาได้อย่างไร ต้องระวังในเรื่องนี้ละเอียดอ่อน ทั้งนี้ ยืนยันกองทัพไทยมีความพร้อมเต็มที่ในการปกครองอธิปไตย ไม่มีใครมารุกรานเราได้ ข่าวที่ออกมาก็มองได้หลายทาง อาจเป็นกลุ่มคนที่มีเป้าหมาย หรือเกิดจากการสื่อสารที่คาดเคลื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ ยืนยัน ตอนนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ เราอย่าไปพูดในทุกเรื่องว่าเป็นการเสียดินแดนไปเสียทั้งหมด ไม่มีทหารคนไทยคนไหนที่ไม่รักชาติ
“อย่ากังวลขอยืนยันในฐานะผมเป็น รมว.กลาโหม ไม่มีทางที่เราจะยินยอมให้เสียแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว” นายภูมิธรรม กล่าว
โต้ “สนธิ” อ้าง ทร. เปลี่ยนฝึกใกล้เกาะกูด
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาตั้งคำถามถึงตนว่าสั่งให้กองทัพเรือเปลี่ยนฝึกใกล้เกาะกูด จ.ตราด หรือไม่ว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้ ว่า ได้มีการไปฝึกซ้อมเล็กๆ ไม่ได้เป็นการฝึกซ้อมใหญ่ ฝึกซ้อมตามวงรอบ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองเป็นคนสั่งการนั้น ขอถามนายสนธิว่า ไปเอาข้อมูลมาจากไหน เพราะไม่มีการกล่าวแบบนี้และทางผบ.ทร.ก็ยืนยันว่า ไม่ได้พูดตามที่นายสนธิออกมากล่าวอ้าง ดังนั้นอย่าไปพูดเรื่องนี้จนกลายเป็นประเด็นอีก เนื่องจากการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องเกาะกูดเป็นเรื่องอ่อนไหว อาจมีผลเสียหายต่อประเทศ เหมือนการไปยุยงให้เกิดการต่อสู้กันหรือใช้ความรุนแรงต่อกัน ไม่เหมาะ ไม่ควร ทั้งนี้ ขอให้ฟังตามข้อเท็จจริง ขออย่าใส่ใจกับข่าวลือ ข่าวปล่อยมากนัก ส่วนกรณีที่นายสนธิ ประกาศลงถนนนั้น นายภูมิธรรม ในฐานะดูแลด้านความมั่นคง ย้ำว่า เป็นการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย อย่าให้ผิดกฎหมายก็แล้วกัน
ปัดดองเรือดำน้ำเพราะเกิดยุค “บิ๊กป้อม”
นายภูมิธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำ ภายหลัง พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ รอง ผบ.ทร. เข้าพบวานนี้ (26 พ.ย.) จะนำเข้า ครม. เพื่อพิจารณาการแก้สัญญาเมื่อใด ว่า เรื่องการแก้ไขสัญญายังไปไม่ถึงตรงนั้น ต้องให้เวลาตนศึกษา ได้สรุปเมื่อใดก็เมื่อนั้น เมื่อถามว่า มีการมองว่าเรือดำน้ำเกิดขึ้นในยุคที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม ยุค คสช. ดึงเช็งชะลอโครงการหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ท่านคิดมากไป คิดล้ำหน้าไป และต้องยึดผลประโยชน์กองทัพ ความเหมาะสมที่ทำให้ประชาชนเข้าใจได้เป็นหลัก