การเมืองนอกสภา เริ่มคิกออฟไปแล้ว จะลงถนนเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสถานการณ์ทางการเมืองประมาทไม่ได้ การแข่งขันทางการเมือง ที่มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากการเมืองระดับท้องถิ่นไปสู่การเมืองระดับประเทศ ที่ถูกจับตามีอยู่ 3 ขั้วการเมืองใหญ่ เพื่อไทย พรรคประชาชน ภูมิใจไทย เป็นการแข่งขันระหว่างกระแสกับกระสุน กระแสกับกระแส และกระสุนกับกระสุน แต่ละพื้นที่ก็มีปัจจัยบวก-ลบที่แตกต่างกันไป

ถ้าเป็นการแข่งขันระหว่าง กระแสกับกระแส ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ คนไทยรักง่ายหน่ายเร็ว แบบไม่ค่อยจะมีเหตุมีผล ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ กระแสอยู่ไม่นาน แต่กระสุนเป็นนิรันดร์ การสู้กันระหว่าง กระแสกับกระสุน ขึ้นอยู่กับว่าระหว่างกระแสกับกระสุนอะไรจะแรงกว่ากัน ถ้า เสมอกัน กระสุนชนะแน่นอน

ที่อันตรายที่สุดก็คือ ระหว่างกระสุนกับกระสุน ไม่มีใครยอมใคร ยิ่งไปประกาศว่า แพ้ไม่ได้ จัดเต็มกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะ บ้านใหญ่ และ ชื่อชั้นผู้มีบารมีทางการเมือง จะให้ลดราวาศอก หรือจัดสรรพื้นที่กันบริหารจัดการ ในทางการเมืองเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

เช่น การเลือกนายก อบจ. นอกจากจะเป็นการเลือกก่อนเวลาที่กำหนดเนื่องจากมี นายก อบจ.ลาออกเพื่อชิงความได้เปรียบแล้ว ยังมีการทุ่มเทจากบ้านใหญ่ และใช้บารมีทางการเมืองกันเต็มร้อย พรรคประชาชน ที่ประกาศส่งผู้สมัครนายก อบจ.12 แห่งด้วยกัน จากนายก อบจ.ทั่วประเทศ คงได้รับบทเรียนที่แตกต่างจากยุคมีลุงไม่มีเรา

ที่ผ่านมา ไม่ประสบความสำเร็จ แม้คะแนนที่ได้รับจะไม่ขี้เหร่ แต่ก็แพ้บ้านใหญ่เป็นเอกฉันท์ พิสูจน์ชัดเจนคือ สนามนายก อบจ.อุดรธานี จะบอกว่าพรรคประชาชนสู้ไม่เต็มที่ก็ไม่ได้ อาจจะเถียงว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นกับสนามใหญ่ไม่เหมือนกัน เช่น มีการเลือกตั้งล่วงหน้า มีการเลือกตั้งนอกเขตและนอกราชอาณาจักร แต่การเลือกตั้งระดับชาติจะเพิ่มคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่เพื่อไทยกับพรรคประชาชนเท่านั้น

...

ยังมี บ้านใหญ่บุรีรัมย์ ที่โชว์ผลงานในภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และภาคใต้ให้เห็นว่า ภูมิใจไทย ก็ไม่ธรรมดา ซึ่งก็ไม่ธรรมดาตั้งแต่การเลือก สว.ที่ผ่านมาแล้ว ธัญพร มุ่งเจริญพร ภรรยา ปกรณ์ มุ่งเจริญพร สส.เขต1 ภูมิใจไทย เอาชนะอดีตนายก อบจ.สุรินทร์ คนในตระกูลด้วยซ้ำด้วยบารมีบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ที่ นครศรีธรรมราช อดีตที่ปรึกษา รมว.แรงงานสังกัดพรรคภูมิใจไทย เอาชนะ แม่ สส.ประชาธิปัตย์ เจ้าของพื้นที่ ไปแบบพลิกล็อก

สองขั้วอำนาจทางการเมืองที่ไม่ใช่อนุรักษ์หรือประชาธิปไตยใหม่ แต่หมายถึงศักยภาพของบ้านใหญ่และผู้มีบารมีทางการเมือง ตัวจริงเสียงจริง ส่วนพรรคการเมืองอื่นต้องเจียมเนื้อเจียมตัว ตัดสินใจเลือกขั้วให้ถูก

ทำตัวเป็นคู่ค้าไม่ใช่คู่แข่งถึงจะเอาตัวรอด.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม