เป็นไปตามสูตรพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ระดับแกนนำยันท้ายแถวรีบออกมาโหนผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ตีปี๊บกระแสทักษิณยังฟีเวอร์ไม่คลาย แต่ภายใต้อาการลิงโลดออกสื่ออย่างนี้ พอไปเทียบผลคะแนนกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา จะรู้ว่ากระแสเสื้อแดง กระแสทักษิณ กระแสพรรคเพื่อไทย ลดลงตามลำดับ

โดยธรรมชาติของสนามเลือกตั้ง อบจ.ระบบจัดตั้งและแจกเงินเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก ยิ่งถ้าเป็นการเลือกตั้งแค่จังหวัดเดียว หรือเลือกตั้งซ่อม สส.แค่เขตเดียว พรรครัฐบาลสามารถระดมสรรพกำลังมาช่วยได้เต็มที่ ต่อให้พรรคสีส้มมาแรงแค่ไหนก็ยังเอาชนะได้แค่ในเขตเมือง ส่วนพื้นที่รอบนอกกระแสยังสู้กระสุนไม่ได้ จนถึงตอนนี้พรรคสีส้มจึงยังไม่สามารถชนะเลือกตั้งนายก อบจ.ได้สักจังหวัด แพ้นักการเมืองบ้านใหญ่ตระกูลดังตลอด

คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คงประเมินออกแต่แรกแล้วว่าเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานียังไงก็ชนะแน่ ถึงได้เลือกเปิดตัวเป็นผู้ช่วยหาเสียงที่นี่ จังหวัดเมืองหลวงของคนเสื้อแดง สมรภูมิที่ได้เปรียบทุกประตู แถมขึ้นปราศรัยตีลูกระนาดแกนนำพรรคส้มเรียงคน ซึ่งก็ได้ผลตามแผน ทั้ง สุดหล่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คุณชัยธวัช ตุลาธน และ หัวหน้าเท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ดาหน้าออกมาฟาดกลับอย่างรุนแรง ดีกรีร้อนแรงฉายภาพแดงส้มคือศัตรูทางการเมืองเต็มตัว

ผลเลือกตั้งที่ออกมา คุณคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคประชาชน ได้ 268,675 คะแนน คุณศราวุธ เพชรพนมพร หมายเลข 2 จากพรรคเพื่อไทย ได้ 327,487 คะแนนน คุณดนุช ตันเทอดทิตย์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 3 ได้ 17,224 คะแนน คุณศราวุธชนะคุณคณิศรไป 58,812 คะแนน โชว์พลังเสื้อแดงยังแน่น ทักษิณ ยังขลังพร้อมให้บริการสยบสีส้มต่อ

อย่างไรก็ตาม ถ้าเปรียบเทียบกับผลคะแนนเลือกตั้งครั้งก่อนๆ จะเห็นว่าคะแนนนิยมพรรคสีส้มกระเตื้องขึ้นตลอดทาง ตอนเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ปี 2563 คุณวิเชียร ขาวขำ จากพรรคเพื่อไทย ได้ 325,933 คะแนน คุณฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ ลงสมัครในนามคณะก้าวหน้า ได้ 185,801 สีแดงชนะสีส้มไปถึง 140,132 คะแนน ถัดมาในการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 พรรคเพื่อไทยได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่
จ.อุดรธานี 328,651 คะแนน พรรคก้าวไกลได้ 229,351 คะแนน สีแดงชนะสีส้ม 99,300 คะแนน จนกระทั่งเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ ช่องว่าง คะแนนลดเหลือแค่ 58,812 คะแนนเท่านั้น แดงยังย่ำอยู่ที่เดิม แต่ส้มเบียดจี้ไล่มาเรื่อยๆ

...

ที่จริงในสมรภูมิอุดรธานีที่ส้มเสียเปรียบทุกทาง แดงน่าจะชนะคะแนนมากกว่านี้ แต่ด้วยฝีมือการบริหารงานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน อดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน เด่นแค่ฟื้นกระแสการท่องเที่ยว นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ก็เหมือนยังอยู่ในช่วงฝึกงาน รัฐบาลทำได้แค่แจกเงิน กระตุ้นเศรษฐกิจแค่ชั่วคราว แถมประชาชนยังรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพมีไม่เท่าเทียมกับนักโทษเทวดาชั้น 14

ในเมื่อยังแก้ 2 ปมนี้ไม่ได้ อนาคตพรรคเพื่อไทยจะมีแต่ดิ่งลง

สนามต่อไปที่น่าติดตามเป็นพิเศษคือ สนามเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ที่จะมีขึ้นวันที่ 1 ก.พ.2568 พร้อมกันกับการเลือกตั้งนายก อบจ.อีก 46 จังหวัด จะเป็นบทพิสูจน์ความนิยมในตัวคุณทักษิณกับพรรคเพื่อไทยอย่างแท้จริง

ภาคอีสานมีอุดรธานีเป็นเมืองหลวงคนเสื้อแดง ภาคเหนือก็มีเชียงใหม่เป็นบ้านเกิดคุณทักษิณ แต่เลือกตั้ง สส.ปี 2566 คุณทักษิณเสียท่าอย่างจัง บ้านเกิดถูกสีส้มตีแตก สส.เชียงใหม่ 10 คน เป็นของพรรคก้าวไกล 7 คน เหลือให้พรรคเพื่อไทย 2 คน และมีพรรคพลังประชารัฐสอดแทรกมาได้ 1 คน คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ พรรคก้าวไกลได้ 469,436 คะแนน พรรคเพื่อไทยได้ 358,286 คะแนน พ่ายไปแสนกว่าคะแนน

โอกาสล้างอายของคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยกำลังจะมาถึง ถ้ายังมีมนต์ขลังเป็นที่นิยมเลื่อมใสของชาวบ้านจริงๆ สนามเชียงใหม่แค่ชนะไม่พอ แต่ต้องชนะขาด.

ลมกรด

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม