อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร แสดงวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจผ่านเวทีการประชุม Forbes Global CEO Conference ภายใต้ธีม New Paradigm ถ้าจับประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ ไม่ใช่อยู่ที่ บทบาทของแบงก์ชาติ กับ รัฐบาล แต่ขึ้นอยู่กับ กระบวนทัศน์ใหม่ๆที่จะสร้างประสิทธิภาพในการแข่งขัน ที่ต้องเปิดกว้าง ก้าวข้ามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แบบเก่า แต่อยู่ที่ไอเดียและโมเดลของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
ยกตัวอย่าง การแข่งขันทางการค้ากับสินค้าจากจีน ที่ได้เปรียบเรื่องของต้นทุนเนื่องจากมีปริมาณการผลิตจำนวนมาก ทำให้ลดต้นทุนลง ถ้าธุรกิจไทยจะไปรอดก็ต้องนำเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์ให้เกิดความแตกต่างและสามารถที่จะแข่งขันกับสินค้าที่มีต้นทุนต่ำกว่าได้
รัฐบาลต้องออกมาปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศของตัวเอง เช่นการจดทะเบียนสินค้าที่ขายให้กับคนไทย จะต้องมีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง และต้องผ่านมาตรฐานเช่นเดียวกับสินค้าที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย
“รัฐบาลปัจจุบันมีแนวคิดในการปฏิรูปภาษีทั้งระบบ จะได้มีการจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น โดยจะพิจารณาอัตราภาษีเงินได้ที่สามารถแข่งขันได้ และระบบการคืนภาษีให้กับคนรวยที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ หรือที่เรียกว่า Negative Income Tax การปฏิรูปภาษีจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปทีละส่วน เพื่อไม่ให้กระทบกับคนจำนวนมาก” การลดอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้จะทำให้คนมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น และการจัดเก็บภาษีจะต้องครอบคลุมกลุ่มคนมากขึ้น
มาตรการกีดกันทางการค้า ด้วยกำแพงภาษีที่สูงขึ้นตามนโยบายของ ทรัมป์ ที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าร้อยละ 20 จากประเทศที่เกินดุลการค้า และร้อยละ 60 สำหรับสินค้าจากจีน สุดท้ายแล้วคนอเมริกันจะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น
เชื่อว่ามาตรการ Protectionism ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ จะทำให้การค้าโลกถดถอยกลับไป 50 ปีที่แล้ว ประเทศไทยเราไม่ต้องการความขัดแย้ง ท่ามกลางการแข่งขันก็สามารถร่วมมือกันด้านใดด้านหนึ่ง เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน
...
เริ่มเห็นสัญญาณว่า อุตสาหกรรมทั้งจากสหรัฐฯและจีน ต้องการย้ายฐานการผลิตเข้ามาประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ไร้ความขัดแย้ง ไทยยังมีที่ดินปริมาณมากที่สามารถพัฒนาได้ มีแรงงานฝีมือ และการเพิ่มมาตรการภาษีจูงใจ อย่างไรก็ตามอัตราค่าไฟของไทยยังอยู่ในระดับสูงเกินไป หากสามารถปฏิรูปราคาพลังงาน โดยหักลบภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ได้ รวมทั้งมีการลงทุนในไฟฟ้าพลังงานสะอาดและ Smart Grid ก็จะแก้ไขได้สำหรับการเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจ แนวทางหนึ่งคือการออกเหรียญ Stable Coin เงินบาทที่มีพันธบัตรหนุนหลังโดยเหรียญดังกล่าวนำไปใช้แลกเปลี่ยนได้ เก็บไว้ก็จะได้ดอกเบี้ย เขียนแปะข้างฝาไว้เลย.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม