“รมว.นฤมล” เผย Egg Board เห็นชอบแผนนำเข้าเลี้ยงไก่ไข่พันธุ์ ปี 68

“นฤมล” รมว.เกษตรฯ เผย Egg Board เห็นชอบแผนนำเข้าเลี้ยงไก่ไข่พันธุ์ ปี 68 พร้อมขอความร่วมมือปลดไก่ไข่ยืนกรงก่อนกำหนด เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ครั้งที่ 1/2567 โดยมีนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมประชุม ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนการนำเข้าเลี้ยงไก่ไข่พันธุ์ (GP และ PS) ปี 2568 คือ ปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ (GP) จำนวน 3,800 ตัว และพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) จำนวน 440,000 ตัว และเห็นชอบประสิทธิภาพการผลิตไก่ไข่และไข่ไก่ ปี 2568 ดังนี้

1. ปู่ย่าพันธุ์ไก่ไข่ (GP) 1 ตัว ผลิตลูกพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) ได้ 77 ตัว ปลดที่อายุ 72 สัปดาห์

2. พ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) 1 ตัว ผลิตลูกไก่ไข่เพศเมียได้ 107 ตัว ปลดที่อายุ 72 สัปดาห์

3. แม่ไก่ไข่ยืนกรง 1 ตัว ผลิตไข่ไก่ได้ 361 ฟอง ปลดที่อายุ 80 สัปดาห์

พร้อมกันนี้ มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ (กรมปศุสัตว์) เป็นผู้ดำเนินการจัดสรรแผนการเลี้ยงให้แก่ผู้ประกอบการไก่ไข่พันธุ์ จำนวน 16 บริษัท (แผนการเลี้ยงแต่ละบริษัทเท่ากับปี 2567) เพื่ออนุญาตให้ผู้ประกอบการนำเข้าพันธุ์สัตว์ได้ต่อไป

สำหรับสถานการณ์ไก่ไข่ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567) มีจำนวนไก่ไข่ยืนกรง 52,893,452 ตัว ประมาณการผลผลิต 43,901,565 ฟองต่อวัน โดยประเทศไทยมีการส่งออกไข่ไก่สด ปี 2567 (มกราคม - กันยายน) จำนวน 305.25 ล้านฟอง มูลค่า 1,247.19 ล้านบาท ปริมาณและมูลค่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 11.75 และ 18.85 ตามลำดับ ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ สิงคโปร์ 89% ฮ่องกง 10% และอื่นๆ โดยราคา ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 3.60 บาท ลูกไก่ไข่ตัวละ 28 บาท ไก่ไข่รุ่นตัวละ 175 บาท

นางนฤมล กล่าวต่อไปว่า การดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ กรมปศุสัตว์ได้มีการประชุมหารือเพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตไข่ไก่ภายในประเทศ โดยมีผู้แทนจาก 4 สมาคมไก่ไข่ 4 สหกรณ์ไก่ไข่ ผู้ประกอบการไก่ไข่พันธุ์ 16 บริษัท ผู้ประกอบการไก่ไข่รายใหญ่ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์เขต 1-9 พิจารณากำหนดมาตรการร่วมกัน ซึ่งได้มีการกำหนดมาตรการ โดยการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ยืนกรง ปลดไก่ไข่ตามอายุที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง

“ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ทุกราย เร่งปลดไก่ไข่ยืนกรงไม่ให้อายุเกิน 80 สัปดาห์ ยกเว้นรายย่อยที่เลี้ยงต่ำกว่า 30,000 ตัว ที่ไม่ใช่ฟาร์มในระบบเกษตรพันธะสัญญาของผู้ประกอบการรายใหญ่ และขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ ขนาดการเลี้ยง 100,000 ตัวขึ้นไป ปลดไก่ไข่ยืนกรงไม่ให้อายุเกิน 78 สัปดาห์ จนถึงเดือนธันวาคม 2567”