เหมือนจบแต่ยังไม่จบเพราะยังมีประเด็นค้างคาอยู่ อย่างน้อยก็ 3 เรื่อง คือความผิด ม.112 และการครอบงำพรรคการเมือง

ประเด็น ม.112 นั้นอยู่ในกระบวนการในชั้นศาลคงนานสักหน่อย

แต่ประเด็นครอบงำพรรคการเมืองอยู่ที่ กกต.

ล่าสุด “แสวง บุญมี” เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า กกต.ยังเดินหน้าไต่สวนปม “ทักษิณ ชินวัตร” ครอบงำพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

ไม่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้องจากผู้ร้องว่า “ทักษิณ” ล้มล้างการปกครอง

พูดง่ายๆว่าเป็นเรื่องเดียวกันแต่กฎหมายคนละฉบับ

ก็เท่ากับว่าเป็นข้อมูลใหม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถรับไว้วินิจฉัยได้ อยู่ที่ กกต.จะยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยเมื่อใด

หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าหลักเกณฑ์ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการคือรับแล้ววินิจฉัยว่าครอบงำหรือไม่

ประเด็นที่มีการประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้าของตัวแทนพรรค การเมืองร่วมรัฐบาล หลังจากที่ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่ง

ก็ต้องรอดูกันต่อไปอีกไม่นานนี้!

และยังเป็นการพิสูจน์ด้วยว่าอภินิหารทางกฎหมายจะออกมาอย่างไร “อำนาจแฝง” จะแสดงอะไรให้เห็นอีกหรือเปล่า

ก็นี่แหละการเมืองไทยมันซับซ้อนซ่อนเงื่อนไม่เหมือนที่อื่นเพราะโครงสร้างของประเทศมันเป็นอย่างนี้

ความตรงไปตรงมาจึงไม่ชัดเจนให้ปรากฏ...

“เพื่อไทย” และหัวหน้าพรรค “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เหมือนจะเข้าถึงเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี

จึงบอกว่าดีใจที่ศาลไม่รับคำร้อง แต่ก็อย่าไปลิงโลดมากนักเพราะเป็นเรื่องการเมืองที่ไม่มีอะไรแน่นอน 100%

แต่รัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่ต่อไปเพราะประชาชนรอความหวังอยู่ ที่สำคัญก็คือจะต้องอยู่ครบเทอม 4 ปีเพื่อทำงานอย่างต่อเนื่อง

...

แม้จะมีอุปสรรคระหว่างทางก็ตาม...

วันนี้ปัญหาใหญ่ของรัฐบาลก็ยังอยู่ที่เรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้ฟื้นตัวเร็วที่สุด

สัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นโหมโรงว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่

ชาวบ้านชาวช่องก็ลุ้นกันว่าจะมีอะไรออกมาให้เห็นบ้าง

ปรากฏผิดหวังไปตามๆกันเพราะมีแต่นโยบายประชานิยมลูกตามคือการแจกเงินหัวละ 10,000 บาท เฟส 2

ให้กับผู้สูงวัยที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้น ที่ยังไม่ได้จากเฟสแรก

ก็เป็นการต่อยอดหาคะแนนนิยมเท่านั้น เพราะจำนวนเงินแค่ 4 หมื่นล้านกว่าบาท เทลงไปวูบเดียวหายไม่สามารถกระตุ้นอะไรได้

นอกจากนั้นก็เพียงแต่เกริ่นว่าจะแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนในเรื่องรถยนต์และบ้านที่อยู่อาศัย แต่ก็เป็นเพียงหัวข้อเท่านั้นยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนที่จะทำอย่างไร

ที่นึกหวังว่าจะมีมาตรการใหม่ๆก็เลยหมดหวังเพราะมีแต่หนี้เท่านั้น

ที่คุยว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะดีขึ้นไม่รู้จะเป็นแค่หาเสียง

หาคะแนนหรือเปล่า เพราะปีหน้านั้นจะหนักมากกว่านี้อีกเพราะเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากนโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ

เขาพูดกันว่าไทยจะดีแต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น

นี่เป็นโลกแห่งความจริงที่ไม่ใช่โลกแห่งความฝัน!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม