ทีมกฎหมาย พท.ส่องคำวินิจฉัยศาล รธน.หา ช่องฟ้องเพิ่มนักร้องคดีล้มล้างฯ “กฤช” ชี้เบื้องต้นฟ้อง “ธีรยุทธ” ร้องเท็จ และหมิ่น ประมาท สาวลึกมีใครเกี่ยวข้องเบื้องหลัง “วิสุทธิ์” ฉะใส่ร้ายหนักหนารุนแรงให้อภัยไม่ได้ “อดิศร” ยกคำตัดสินศาล รธน.เป็นบรรทัดฐานตีกรอบ เหล่านักร้อง รกโรงรกศาล “แสวง” ทำขึงขังบอก กกต.เดินหน้าสอบต่อ คดีร้องยุบ พท. ชี้เหตุเป็นคนละประเด็นแต่ข้อเท็จจริงเดียวกัน กกต.กับศาล รธน.ถือกฎหมายคนละฉบับ “วรชัย” ป้อง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้รับความเป็นธรรม จะบินกลับไทยตามกระบวนการ ไม่มีสิทธิพิเศษ

จากกรณีฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยมีมติให้ยื่นฟ้องเอาผิดนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร นักกฎหมายอิสระ ที่ร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครอง แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง ล่าสุดนายกฤช เอื้อวงศ์ ฝ่ายกฎหมายพรรค พท. ระบุเบื้องต้นจะฟ้องกรณีร้องเท็จและหมิ่นประมาทต่อศาลอาญาก่อน และจะดูว่ามีกฎหมายใดเกี่ยวข้องอีก เพื่อฟ้องเพิ่มเติม

พท.คลี่คำวินิจฉัยฟันเพิ่ม “ธีรยุทธ”

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายกฤช เอื้อวงศ์ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย มีมติให้ดำเนินการฟ้องเอาผิดนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร นักกฎหมายอิสระ ที่ร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครอง แต่สุดท้ายศาลไม่รับคำร้องว่า เบื้องต้นเราดูเรื่องของการฟ้องเท็จและหมิ่นประมาท ที่จะฟ้องต่อศาลอาญาไว้ก่อน และอาจจะดูว่ามีกฎหมายอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เช่น ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยจากนี้จะนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว มาดูรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะดำเนินการเมื่อไหร่ คงใช้เวลาไม่นาน เมื่อถามว่าการฟ้องดังกล่าวจะดำเนินการฟ้องใครบ้าง นายกฤชกล่าวว่า เบื้องต้นจะเป็นนายธีรยุทธ ที่เป็นผู้ยื่นคำร้องดังกล่าว แต่กำลังดูอยู่ว่านอกจากนายธีรยุทธแล้ว มีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีกบ้าง

...

“วิสุทธิ์” ซัดกล่าวหาหนักให้อภัยไม่ได้

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการฟ้องร้องผู้ยื่นคําร้องกล่าวหาว่าพรรค พท.ล้มล้างการปกครองว่าได้คุยกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พท. และผู้ใหญ่หลายคนในพรรคแล้ว ทราบว่าฝ่ายกฎหมายของพรรคได้ร่างคำฟ้องแล้ว เชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากล้มล้างการปกครองเป็นข้อหารุนแรง เป็นการใส่ร้ายที่หนักหนา เมื่อเป็นเช่นนี้ยืนยันว่ายังไงต้องฟ้องให้อภัยไม่ได้

“อดิศร” ยกบรรทัดฐานตีกรอบนักร้อง

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร นักกฎหมาย ร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครองว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้สร้างบรรทัดฐานเรื่องนี้ไว้ เพื่อให้การฟ้องเรื่องที่ร้ายแรง ไม่ใช่เป็นของเล่นของนักร้อง ถือเป็นเรื่องสำคัญทางการเมือง คำวินิจฉัยจะทำให้กรอบการร้องมีระเบียบแบบแผนมากขึ้น ฝ่ายรัฐบาลมีโอกาสจะบริหารราชการแผ่นดิน ทำตามนโยบายโดยไม่มีการขัดขวาง ถือว่าเป็นคำวินิจฉัยที่เป็นบรรทัดฐานได้ และกรณีนี้ควรเป็นกระจกเงาให้นักร้องเรียน ท่านมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะร้องเรียนอะไร แต่ไม่ใช่ร้องแบบรกโรงรกศาลเช่นนี้ รวมถึงคนที่ตั้งตนเป็นกูรูทางการเมืองไปออกรายการโน่นนี่ โน้มน้าวประชาชน ต้องกลับไปสู่ที่ตั้งได้แล้ว ตั้งสติให้ประชาธิปไตยเดินทางของมันจะดีกว่า รัฐบาลทำงานขยันขันแข็งอยู่แล้ว แต่ถ้าไปร้องกันแบบไร้มูลเหตุต่างๆ สร้างสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น ยิ่งต่างประเทศมองมายังประเทศไทยจะทำอย่างไร

มท.1 ชี้ไม่มีใครล้มล้างการปกครองได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องกรณีนายทักษิณและพรรค พท.ถูกกล่าวหาล้มล้างการปกครองว่า ต้องแยกให้ดีก่อน เรื่องบุคคลเป็นของบุคคลไป รัฐบาลต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะมีอุปสรรคหรือความราบรื่นใดๆ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเผชิญอยู่ทุกวัน ไม่ว่าใครจะประสบปัญหาอะไร รัฐบาลยังอยู่บริหารประเทศ เมื่อถามว่า มองอย่างไงกับคำว่าล้มล้างการปกครอง เนื่องจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่าการล้มล้างการปกครอง มีแต่รัฐประหารเท่านั้น นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีหรอกการล้มล้างการปกครอง ไม่มีใครมีความสามารถที่จะทำได้ ถ้าคนไทยทุกคนสามัคคีกันใครก็มาล้มล้างไม่ได้ เมื่อถามว่านายธีรยุทธบอกว่ายังจะมีการร้องเรียนเรื่องใหม่ๆ นายอนุทินตอบว่า เราห้ามคนร้องเรียนไม่ได้ สำคัญอยู่ที่เจตนารมณ์ หรือการกระทำถูกต้องตามกฎหมาย หรือตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนั้น และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ประเทศชาติ ทำไปเถอะไม่ต้องเหลียวหลังไม่มีทางผิด

“แสวง” ชี้ กกต.สอบต่อคดีร้องยุบพรรคเพื่อไทย

ที่หอประชุมบริบาลภูมิเขตต์ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร นักกฎหมายอิสระ ขอให้สั่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและพรรค พท.เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง จะกระทบกับคำร้องที่ กกต.กำลังตรวจสอบหรือไม่ว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องการใช้เสรีภาพเฉพาะมาตรา 49 ที่เขียนว่าการใช้เสรีภาพเพื่อการล้มล้างทำไม่ได้ เสรีภาพถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ ประชาชนทุกคนมีเสรีภาพ นั่นคืออำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ นายทะเบียนหรือ กกต.พิจารณาสิ่งที่กฎหมายห้ามกระทำของพรรคการเมืองจะต่างกัน จึงไม่เกี่ยวกันเลยทั้ง 2 เรื่อง ข้อมูล ข้อเท็จจริงอาจเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ว่าเราถือกฎหมายคนละฉบับ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญว่าการใช้สิทธิเสรีภาพนั้นเพื่อเป็นการล้มล้าง แต่ กกต. หรือนายทะเบียนจะพิจารณาว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมายพรรคการเมือง อันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคหรือไม่

คนละประเด็นแต่ข้อเท็จจริงเดียวกัน

“ยกตัวอย่างครั้งที่แล้วที่นายทะเบียนไม่รับเรื่องของพรรค ก.ก.ไว้พิจารณา กฎหมายบอกว่าไม่รับไปดำเนินการ แต่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้ มีนักข่าวมาถามว่าทำไม กกต.ไม่รับ เพราะกรณีนั้นเป็นกรณีใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ กกต.ไม่มีอำนาจจะไปพิจารณาเรื่องเหล่านั้น เกินขอบอำนาจของ กกต. ไม่ได้เข้าไปพิจารณาในเนื้อหา แต่ไม่รับไว้ดำเนินการเพราะไม่อยู่ในเขตอำนาจเรา แต่กรณีหลังมีคนมาร้องว่ามีพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง อันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรค นายทะเบียนรับไว้ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานจะเป็นคนละประเด็นกับที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน” นายแสวงกล่าว เมื่อถามว่าคำร้องหลายคำร้องที่มีลักษณะคล้ายกัน กกต.ยังเดินหน้าตรวจสอบต่อไปหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า เราทำตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเรา

“วันชัย” หยันนักร้องถูกตบหน้าคว่ำ

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว.โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “สมน้ำหน้า นักร้องถูกตบกบาลหน้าคว่ำ หมอไม่รับเย็บ” ว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ยกคำร้องพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณไม่ได้ล้มล้างการปกครอง เป็นการตบกบาลเปรี้ยงนักร้องหน้าคว่ำคะมำ นักร้องพวกนี้พยายามล้มล้าง เซาะกร่อน บ่อนทำลายรัฐบาลตลอดเวลา หาเรื่องจับแพะชนแกะ เป็นนิติสงคราม คำวินิจฉัยชี้ให้เห็นอย่าร้องมั่วๆส่งเดช คนพวกนี้สู้ในสภาไม่ได้ จัดม็อบนอกสภาไม่ไหว การร้องศาลรัฐธรรมนูญเป็นวิธีเดียวที่ทำได้ หวังเอาศาลรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือกำจัดรัฐบาล เหมือนที่เคยทำได้ แต่ศาลไม่เอาด้วย ผลคะแนนที่ออกมาเกือบเอกฉันท์เต็มร้อย ทำให้นักร้องจะเล่นเกมแบบนี้ต่อไปคงไม่ได้ หน้าแหกหมอไม่รับเย็บ

กระตุก “ทักษิณ–พท.” สปีดปั่นผลงาน

“สถานการณ์การเมืองขณะนี้ เพื่อไทยและคุณทักษิณอย่ามัวกระหยิ่มยิ้มย่อง ต้องใช้โอกาสนี้ สปีดการทำงานเต็มสูบ เรื่องปราบปรามยาเสพติด แก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องเห็นผลใน 1-2 เดือน ศาลยกคำร้องคุณทักษิณไม่เกี่ยวเรื่องครอบงำ ลุยได้ต้องลุย เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผลงานต้องมี ไม่ใช่มีแต่น้ำลายพ่นไปวันๆ เวลาเหลือ 2 ปีเศษ จะเอา 200 เสียงขึ้นไป ต้องไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ คนรอการแก้ปัญหาอย่าให้รอนาน ทักษิณ เพื่อไทยยังขืนอืดอาดยืดยาด ระวังจะโดนเหมือนที่เคยโดนมาแล้ว” นายวันชัยระบุ

“วรชัย” โอด “ปู” ไม่ได้รับความเป็นธรรม

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับมาประเทศไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 วันเดียวกัน นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรค พท. ให้สัมภาษณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนายกฯ ที่ทำงานให้ประเทศชาติ แต่กลับมาถูกดำเนินคดีความผิดปล่อยปละละเลยในโครงการรัฐ จนไม่สามารถอยู่ในประเทศได้ เรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคดีเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2557 ท่ามกลางบรรยากาศมาตรา 44 ที่ให้อำนาจสูงสุดแก่คณะผู้ทำการรัฐประหาร ประกอบกับวันนั้นมีการใช้มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการเดินหน้ายึดทรัพย์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำย้อนหลังใดๆทั้งสิ้น ที่สำคัญดำเนินการก่อนที่คดีอาญาจะสิ้นสุด ถือเป็นการชี้นำคดีอาญาหรือไม่ อยากถามสังคมว่าแบบนี้แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรมใช่หรือไม่ เชื่อว่าคนในสังคมไทยที่ใจเป็นธรรม คงมองเรื่องนี้ไม่ต่างจากตน

กลับไทยตามกระบวนการไร้สิทธิพิเศษ

นายวรชัยกล่าวว่า ส่วนที่นายทักษิณพูดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีความชอบธรรมที่คนไทยทุกคนต้องได้กลับประเทศ และวันนี้คนไทยต้องการความสามัคคีปรองดอง เดินหน้าประเทศไทย ฉะนั้นการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เท่าที่ทราบ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับประเทศ และเข้าสู่กระบวนการบังคับโทษตามกฎหมายราชทัณฑ์ ไม่ใช้สิทธิพิเศษใดๆทั้งสิ้น ขอให้ฝ่ายแค้นอย่าเอาประเด็นนี้มาเป็นประเด็นการเมือง เพื่อโจมตีทำลายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย อย่าขยายความขัดแย้งนำไปสู่ความวุ่นวายในประเทศ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า ให้รัฐบาลแก้ปัญหาทั้งความยุติธรรมและปัญหาปากท้องของประชาชน

“นพดล” ย้ำไทยไม่ยอมรับเส้นกัมพูชา

นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ระบุว่า ตนตอบมั่วๆเรื่องที่ว่าไทยไม่เคยยอมเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา และอ้างว่าแผนผังแนบท้ายเอ็มโอยู 44 เป็นหลักฐานว่าไทยยอมรับเส้นของกัมพูชา ว่า ตนจบกฎหมายจากออกซ์ฟอร์ดและจบเนติบัณฑิตไทยและอังกฤษ จึงไร้ความสามารถที่จะตอบแบบมั่วๆ ยืนยันเอ็มโอยู 44 ไม่ได้ยอมรับเส้นของกัมพูชา เนื้อหาในข้อ 5 ของเอ็มโอยู 44 ระบุไว้ชัดเจนว่าตราบใดที่ยังไม่มีข้อตกลงเรื่องการแบ่งเขตทางทะเล ให้ถือว่าเนื้อหาเอ็มโอยู 44 จะไม่มีผลกระทบต่อการอ้างสิทธิ์ทางทะเลของทั้งไทยและกัมพูชา ยืนยันตนไม่เคยมั่ว นพ.วรงค์เคยสังกัดพรรคการเมืองที่เคยใส่ร้ายว่าทำให้ไทยเสียดินแดนบริเวณปราสาทพระวิหารใช่หรือไม่ ทั้งๆที่ความจริงไทยยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาตามคำตัดสินศาลโลกไปแล้วตั้งแต่ปี 2505 แต่ปัญหาคือในปี 2551 กัมพูชาจะขอขึ้นทะเบียนทั้งตัวปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ทับซ้อนเป็นมรดกโลก ตนเจรจาจนกัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออก ขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท แต่ถูกโจมตีใส่ร้ายเท็จ ต่อมาในปี 2558 ศาลฎีกาก็ได้พิพากษายกฟ้องตน ดังนั้นจึงไม่อยากเห็นการสร้างวาทกรรมเสียดินแดนอีก เพราะเคยสร้างความเสียหายให้ประเทศมาแล้ว

“อนุทิน” สาธุ “ทักษิณ” ปลุกชีพโอทอป

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ชั้น M ศูนย์การค้าฟีนิกซ์ ประตูน้ำ กทม.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน Phenix The Best tourist OTOP in Bangkok พื้นที่การค้า OTOP Destination ที่รวมสินค้าร้านดังและฝีมือภูมิปัญญาคนไทยที่ดีที่สุดทั้ง 4 ภาค 132 ร้านค้าทั่วประเทศมาไว้ที่นี่ พร้อมเดินชมบูธในงาน โดยมีน.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเข้าร่วม โดยนายอนุทินกล่าวเปิดงานว่า OTOP DESTINATION แห่งนี้ จะไม่ใช่เพียงแค่เป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้า แต่เป็นจุดรวมพลังภูมิปัญญาท้องถิ่นคนไทย เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตจากท้องถิ่นได้มีพื้นที่จำหน่ายขนาดใหญ่ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและกระตุ้นการสร้างงานวันที่ 14-22 ธ.ค.ที่ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี จะมีการจัดงาน OTOP City 2024 ต่อมาเวลา 11.30 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวบนเวทีหาเสียงนายก อบจ.อุดรธานี ใช้เงินส่วนตัว 300 ล้านบาทจ้างชาวต่างชาติปรับปรุงโอทอปใหม่ครั้งใหญ่ โดยร้องโอ้โห...พร้อมยกมือพนมท่วมหัวกล่าวว่า อนุโมทนา สาธุ เป็นคุณูปการกับประเทศไทยและคนไทยทุกคน สินค้าโอทอปไทยไปไกลแน่ โอทอปเริ่มมาในสมัยนายทักษิณเป็นนายกฯ จึงมีความผูกพันถ้าเป็นจริงเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง

บอกสนาม อบจ.ไม่มีพื้นที่ใคร

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์การค้าฟีนิกซ์ ประตูน้ำ กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.หลายจังหวัดในสัปดาห์นี้ที่มีการมองว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) พยายามจะเจาะพื้นที่อีสานใต้ ที่เป็นพื้นที่ของพรรค ภท.ว่า ไม่มีพื้นที่ของใครทั้งนั้น ทุกพื้นที่เป็นของประชาชน ประเทศไทยเป็นของประชาชน คนไหนที่มีความสามารถทำให้ประชาชนเชื่อว่าจะสามารถทำประโยชน์และพัฒนาบ้านของเขาได้ ในการอาสาทำหน้าที่รับใช้บ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นนายก อบจ. สส.สมาชิก อบต. ต้องฮาร์ดเซลล์ (Hard Sell) คือจะทำอะไรให้ประชาชนได้บ้าง ถ้าประชาชนเชื่อใจก็เลือก เป็นรอบๆไป ไม่มีการตีว่าจะเป็นตลอดกาลสบายๆ

“แสวง” ตรวจเลือก อบจ.อุดรธานี

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่หอประชุมบริบาลภูมิเขตต์ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจเยี่ยมการรับมอบวัสดุอุปกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี นายแสวงให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเลือกตั้งวันที่ 24 พ.ย. ว่า จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ. 3 แห่ง คือที่ จ.นครศรีธรรมราช เพชรบุรี และอุดรธานี ทั้ง 3 จังหวัดมีการแจกอุปกรณ์เลือกตั้งแล้ว ส่วนที่ จ.อุดรธานี พร้อมในการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ใน 2,243 หน่วย อยากเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด เท่าที่ได้ฟังข้อมูลจากฝ่ายสืบสวนสอบสวนของสำนักงาน กกต.จ.อุดรธานี คู่แข่งยังอยู่ในกติกา เบื้องต้นมีข้อร้องเรียน 2 เรื่อง คือเรื่องใส่ร้าย และอยู่ในระหว่างดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องกล่าวหากันจึงต้องไปตรวจสอบ

“ประภัตร” ร้อง อ.ต.ก.ยึดทรัพย์เกษตรกร

วันเดียวกัน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นำกลุ่มผู้ช่วยเหลือเกษตรกรร้องเรียนต่อนายกฯ ขอให้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ถูกองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ยึดทรัพย์ จากโครงการปุ๋ยเคมีเพื่อธุรกิจปี 2545 ใช้ทุนของ อ.ต.ก.ดำเนินการช่วงมีปัญหาปุ๋ยแพงไม่มีคุณภาพ โดยนายเดชา บัวปลี ทนายความและที่ปรึกษากลุ่มเกษตรกรกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 45 เกิดภัยพิบัติ มีเพลี้ยกระโดด เกษตรกรไม่สามารถชำระค่าหนี้ปุ๋ยได้ เป็นหนี้ค้างชำระ สหกรณ์ขอสนับสนุนปุ๋ยจาก อ.ต.ก.มาฟื้นฟู แต่ อ.ต.ก.ไม่ให้สินเชื่อสหกรณ์ฯ ทำให้เกษตรกรฟื้นตัวไม่ได้ ต่อมาเมื่อสหกรณ์ต่างๆถูกยุบ กรรมการสหกรณ์ฯ ตัวแทนชาวนาที่ค้ำประกันจึงถูกฟ้องร้อง ปุ๋ยก็ไม่ได้ใช้แต่ต้องถูกยึดที่ดิน ยึดบ้านเป็นหนี้สิน หลายคนคิดสั้น ควรแก้ไขปัญหาหมักหมมมานาน แก้ไขข้อบังคับ อ.ต.ก.ให้แก้ไขปัญหาหนี้เกษตรกรได้ มี 12 สหกรณ์ที่เดือดร้อน

ด้านนายประภัตรกล่าวว่า ปัญหานี้เกิดมา 20 ปี ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด ทำให้กรรมการสหกรณ์ฯ ต้องรับภาระแทน มีคนผูกคอตายหลังโดนยึดบ้าน ไม่ต่ำกว่า 10 คน ได้พยายามแก้ไขปัญหา แต่ อ.ต.ก.บ่ายเบี่ยงจะเอาเงินคืนอย่างเดียว ไม่คิดยกหนี้ให้เกษตรกรด้วยวิธีการที่เสนอไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่